คอลัมน์ : เทสต์ คาร์ ผู้เขียน : วุฒิณี ทับทอง
ปิดแทร็กช้างเซอร์กิต พร้อมทั้งขนเอารถยนต์ในตระกูล GR Sport มาให้บรรดาสื่อมวลชน และลูกค้าได้ทดสอบสมรรถนะกันอย่างหนำใจ ครบทั้ง 5 รุ่น ตั้งแต่ไฮลักซ์ รีโว่, ฟอร์จูนเนอร์, อัลติส, โคโรลล่า ครอส และซี-เอชอาร์ จากค่ายโตโยต้า ไทยแลนด์
งานนี้ “ประชาชาติธุรกิจ” ไม่พลาดร่วมทริปครั้งนี้ ดีกรีความร้อนแรงในสนามนอกจากรถในตระกูล GR Sport แล้ว โตโยต้าปิดสนามเพื่อเชิญบรรดาลูกค้าคนพิเศษผู้ที่เป็นเจ้าของรถที่ว่ากันว่า กลายเป็นแรร์ไอเท็มไปแล้ว อย่าง Toyota GR Yaris
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
ไม่รอช้า ขอสัมผัสกับ C-HR GR Sport เป็นคันแรก มองปราดเดียวต้องบอกว่า ชุดแต่งที่โตโยต้าใส่เข้ามาในรถคันนี้ สะกดสายตาได้อยู่หมัด
ด้วยชุดแต่ง กันชนหน้าดูสปอร์ต ใส่สเกิร์ตมาให้รอบคัน
ส่วนภายในห้องโดยสารนั้น มาในโทนสีดำ Total Look และสี Gun Metallic เบาะนั่งออกแบบพิเศษ เดินเส้นด้ายสีเทาเข้มขรึม พร้อมสัญลักษณ์ GR
เช่นเดียวกับพวงมาลัยแบบ 3 ก้าน หุ้มหนังติดสัญลักษณ์ GR รวมถึงปุ่มสตาร์ต ที่ติด RG ด้วย เพื่อบ่งบอกตัวตน
โดยส่วนตัวแล้ว ชื่นชอบการออกแบบ เจ้า C-HR เวอร์ชั่นนี้เอามาก ๆ
หน้าตาดูลงตัว มีความทะมัดทะเเมง คล่องตัว เหมาะกับการขับขี่ในเมือง
ส่วนความเปลี่ยนแปลง ที่โตโยต้าตั้งใจทำออกมา ในเรื่องสมรรถนะการขับขี่นั้น
เป็นที่ทราบกันดีว่า C-HR คือรถยนต์คันแรกที่ โตโยต้า ไทยเเลนด์ พัฒนาและแนะนำออกสู่ตลาดภายใต้แพลตฟอร์ม TNGA ที่หลายคนยังชมกันไม่หยุดในเรื่องของ “ช่วงล่าง”
ส่วน C-HR GR Sport คันนี้ โตโยต้า “ตั้งใจ” พัฒนา ปรับจูนช่วงล่างใหม่ เพื่อต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกและเร้าใจมากขึ้นกว่าเดิมให้กับลูกค้า
ด้วยการพัฒนาคอยล์ปริง และช็อกแอบซอร์บเบอร์ ที่ตั้งใจออกแบบมาเฉพาะรุ่น
ทำงานผสานกับช่วงล่างอิสระแบบปีกนกคู่
ทำให้ช่วงล่างของรถคันนี้ กริบจริง ๆ ไม่ว่าจะกี่โค้งในแทร็กช้างฯ แห่งนี้ รถคันนี้เอาอยู่
ยิ่งช่วงที่เราทดสอบกัน อุณหภูมิในสนามลดลง มองจากจอหน้าปัด หล่นไปที่ 17 องศาเท่านั้น
งานนี้เราเลือกเปิดฮีตเตอร์กันแทน
แถมยังมีสายฝนเม็ดละเอียด เป็นฝอย ๆ ตกลงมา ทำให้สนามแห้ง ๆ กลายเป็นแทร็กเปียก โดยไม่ได้ตั้งใจ
ยิ่งทำให้เราได้เห็นสมรรถนะของรถคันนี้ชัดเจนขึ้น
ส่วนเครื่องยนต์ถามทีมงานว่ามีการปรับเปลี่ยนอะไรหรือ คำตอบที่ได้รับมีเพียงแค่ ปรับจูนกล่อง ECU นิด ๆ หน่อย ๆ เครื่องยนต์ยังคงเป็นเครื่องเบนซินไฮบริด ขนาด 1.8 ลิตร
จากจุดสตาร์ต เราได้ทดสอบความคล่องตัว ทั้งการทำสลาลอม, เลนเชนจ์ รวมทั้งการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง
รถคันนี้ถือเป็นรถที่ครบเครื่อง ทั้งความคมแม่นยำของพวงมาลัย ช่วงล่างที่สมบูรณ์แบบทั้งทางตรง และการเข้าโค้ง ตรงนี้ต้องให้เครดิตกับโตโยต้าทำออกมาได้ดีจริง ๆ
ติดแค่ตรงการทำงานของเครื่องยนต์ในจังหวะที่เข็นทำความเร็ว เสียงอาจจะดังไปนิด แต่ก็ยังพอรับได้
ส่วนระบบความปลอดภัยมามีครบกับ โตโยต้า เซฟตี้ เซนส์ ทั้งระบบการเตือนเมื่อรถออกนอกเลน มีระบบควบคุมปรับลดความเร็วและหยุดได้ถึง 0 กม.ต่อ ชม. โดยที่เรายังสามารถกลับไปยังความเร็วที่ตั้งไว้ได้ หากยังไม่ได้แตะเบรก
รวมทั้งปรับไฟสูงอัตโนมัติ
เผลอแป๊บเดียวหมดเวลาของการนั่งอยู่ด้านหลังพวงมาลัยของเจ้า C-HR GR Sport คันนี้ซะแล้ว
คงเหมือนที่เขาชอบพูดกันว่า “เวลาของความสุขและความสนุกมักจะผ่านไปเร็ว”
และต้องไม่ลืมว่าการทดสอบครั้งนี้ เราทดสอบบนแทร็กระดับโลก ส่วนการทำรถคันนี้ออกมาวิ่งบนถนนจริง ๆ สภาพการจราจรแบบบ้านเราจะเป็นอย่างไร อันนี้น่าสนใจ ? มีโอกาสคงจะได้ทำมาทดสอบและเล่าสู่กันอีกครั้ง
ส่วนราคาค่าตัวของรถคันนี้อยู่ที่ 1.189 ล้านบาท ถือว่าน่าสนใจ