อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา โวยลั่น ถูกเอฟบีไอบุกค้นคฤหาสน์ที่ฟลอริดา แล้วทำไมถึงต้องเป็นตอนนี้
วันที่ 10 สิงหาคม 2565 ซีเอ็นเอ็น รายงานกรณีอื้ออึงไปทั่วสหรัฐอเมริกา เมื่อเจ้าหน้าที่สำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐ หรือ เอฟบีไอ บุกค้นรีสอร์ต “มาร์ อะ ลาโก” ของโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่แล้ว ที่เมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ระหว่างการสอบสวนเรื่องการจัดการเอกสารของประธานาธิบดี รวมทั้งเอกสารลับ
- เช็กที่นี่ ออมสิน-ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อปิดหนี้นอกระบบ 20,000 บาท ใครกู้ได้บ้าง!
- ออมสิน-ธอส. ออกเงินฝากดอกเบี้ยพิเศษ ปลอดภาษี หมดเขตสิ้น มี.ค.นี้
- กรุงเทพฯ กปน.หยุดจ่ายน้ำ 21 มี.ค. 18 พื้นที่ รับมือน้ำไม่ไหล เช็กที่นี่
อดีตประธานาธิบดียืนยันว่าเจ้าหน้าที่เอฟบีไอกลุ่มใหญ่บุกค้นคฤหาสน์และยึดสิ่งของระหว่างที่ตนเองอยู่ที่อาคารทรัมป์ ทาวเวอร์ ในนครนิวยอร์ก โดยไม่ประกาศให้ทราบก่อน และเป็นการกระทำที่ไม่มีหลักฐานเอาผิดใด ๆ ได้
ความเคลื่อนไหวของเอฟบีไอที่ไม่ธรรมดาเช่นนี้เป็นการเดิมพันของกระทรวงยุติธรรมและเกิดขึ้นในขณะที่ปัญหาทางกฎหมายของทรัมป์ยังคาราคาซังอยู่หลายปม ท่ามกลางความคาดหมายว่าทรัมป์อาจลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัยในปี 2024 (พ.ศ. 2567)
สำนักข่าว เอพี รายงานถึงการตั้งคำถามว่า เหตุใดกระทรวงยุติธรรม ภายใต้การบริหารของเมอร์ริก การ์แลนด์ อัยการสูงสุด (รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม) จึงเลือกวิธีการที่น่าตะลึงงันนี้และทำในช่วงเวลานี้
จากคดีอื้อฉาวทางการเมืองในอดีตอย่างวอเตอร์เกต สะท้อนมาถึงการสอบสวนกรณีม็อบขวาจัดบุกอาคารรัฐสภา วันที่ 6 ม.ค. จึงมีคำถามว่ากระทรวงยุติธรรมกำลังเล่นการเมืองหรือไม่
คำตอบคงยังต้องรอเวลาพิสูจน์อีกพักใหญ่ แต่ตอนนี้อย่างน้อยการบุกค้นคฤหาสน์ทรัมป์ช่วยเปิดแผลให้คนทั่วไปทราบว่าทรัมป์เคยหยิบกล่องใส่สิ่งของต่าง ๆ ตอนที่ออกจากทำเนียบขาว หลังพ่ายแพ้การเลือกตั้งไปด้วย
ขณะที่การ์แลนด์กล่าวว่า “ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย”
กระทรวงยุติธรรมสอบสวนเชิงรุก 2 เรื่องที่เกี่ยวกับอดีตประธานาธิบดี หนึ่งคือ ความพยายามเปลี่ยนแปลงแก้ไขผลการเลือกตั้งปี 2020 กับกรณีกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์บุกเข้าไปในรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ปีที่แล้ว และอีกเรื่องหนึ่งคือ การจัดการเอกสารลับ
เจ้าหน้าที่เอฟบีไอและเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายค้นหาบริเวณสโมสรซึ่งเป็นสำนักงานของทรัมป์ รวมทั้งสถานที่เก็บเอกสารและยึดเอกสารไปหลายกล่อง หลังจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติได้เอกสารคืนมาจากคฤหาสน์มาร์ อะ ลาโก เมื่อไม่กี่เดือนมานี้
เอฟบีไอจึงต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่าไม่หลงเหลือเอกสารหรือข้อมูลสำคัญหลังทรัมป์พ้นตำแหน่งประธานาธิบดี
เอฟบีไอประสานกับหน่วยข่าวกรองสหรัฐ ก่อนตรวจค้นเมื่อวันจันทร์ แต่ไม่ได้แจ้งให้ทรัมป์ทราบล่วงหน้า แม้แต่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก็ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน และเพิ่งทราบจากการที่สื่อรายงานข่าว
ตรวจสอบเอกสาร
หอจดหมายเหตุแห่งชาติกล่าวว่า ก่อนหน้านี้พบเอกสารทำเนียบขาวจำนวน 15 กล่องอยู่ที่รีสอร์ตมาร์ อะ ลาโก รวมทั้ง เอกสารลับ
ต้นเดือน มิ.ย. เจ้าหน้าที่สอบสวน 4 คนไปที่รีสอร์ตของทรัมป์เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอกสารลับในช่วงที่ทรัมป์อยู่ในทำเนียบขาว และนำเอกสารมาเก็บไว้ที่คฤหาสน์ในรัฐฟลอริดา
แหล่งข่าวคนแรกกล่าวว่า ตอนแรกทรัมป์ต้อนรับทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนใกล้กับห้องรับประทานอาหาร หลังจากที่ทรัมป์เดินออกไปโดยไม่ตอบคำถามใด ๆ เจ้าหน้าที่สอบสวนจึงสอบถามทนายความว่าจะขอดูสถานที่ที่ทรัมป์เก็บเอกสารได้หรือไม่ ก่อนที่ทนายความพาลงไปยังห้องใต้ดินซึ่งเก็บกล่องเอกสารต่าง ๆ เจ้าหน้าที่มองไปรอบ ๆ ห้อง แล้วออกมา
ส่วนแหล่งข่าวคนที่ 2 กล่าวว่าทรัมป์กล่าวทักทายและพูดคุยเล็กน้อย แต่ปล่อยให้ทีมทนายความพูดคุยกับเจ้าหน้าที่และนำเอกสารชั้นความลับสุดยอดให้เจ้าหน้าที่ดู
หลังจากนั้น 5 วัน ทนายความของทรัมป์ได้รับจดหมายจากทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนให้เพิ่มความปลอดภัยห้องเก็บเอกสาร ผู้ช่วยทรัมป์จึงคล้องแม่กุญแจเพิ่ม
ส่วนเอฟบีไอสัมภาษณ์ผู้ช่วยของทรัมป์ที่มาร์ อะ ลาโก ในเดือน เม.ย.และ พ.ค.
เอลี โฮนิก อดีตอัยการกลางและรัฐกล่าวว่า การเคลื่อนย้ายเอกสารลับอย่างผิดวิธีถือเป็นความผิดอาญาที่กำหนดโดยกฎหมายสหรัฐ ส่วนระยะเวลาค้นหาเอกสารมีการกำหนดไว้ว่าจะต้องไม่ทำภายใน 90 วันหลังเลือกตั้ง
สมาชิกพรรครีพับลิกันสนับสนุนทรัมป์
รอนนา แม็กแดเนียล ประธานคณะกรรมการพรรครีพับลิกันกล่าวว่า พวกเดโมแครตใช้ระบบราชการเป็นอาวุธต่อสู้กับชาวรีพับลิกัน
ส่วนเควิน แม็กคาร์ธี ส.ส.แคลิฟอร์เนีย พรรครีพับลิกันกล่าวว่า เห็นมาพอแล้วกับการที่กระทรวงยุติธรรมกลายเป็นอาวุธทางการเมือง
ด้านแคโรลีน มาโลนีย์ ส.ส.นิวยอร์กจากพรรคเดโมแครต แย้งว่าประธานาธิบดีมีหน้าที่ปกป้องความมั่นคงของชาติและข้อกล่าวหาว่าอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ทำให้ข้อมูลลับตกอยู่ในความเสี่ยงนั้น จะต้องตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน และสอบสวนว่าทรัมป์จัดการข้อมูลลับผิดพลาดหรือไม่
….