สองชาติยักษ์ใหญ่ยุโรป ทั้งอังกฤษและเยอรมนี ต่างถูกมองว่าเข้าสู่ภาวะ เศรษฐกิจถดถอย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
วันที่ 13 กันยายน 2565 สำนักข่าว เอเอฟพี รายงานว่า เศรษฐกิจเยอรมนีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป ส่อเค้าไม่รอดจากการเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า (พ.ศ. 2566) เมื่อเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น และรัสเซียลดการส่งออกพลังงาน
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- ด่วน ! วอยซ์ ทีวี ประกาศปิดกิจการทุกแพลตฟอร์ม เลิกจ้าง 100 กว่าคน
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
สถาบัน Ifo เพื่อการวิจัยเศรษฐกิจ สำนักงานที่นครมิวนิก เยอรมนี เผยแพร่รายงานการประเมินว่า เศรษฐกิจของเยอรมนีจะหดตัวลงเหลือ 0.3% ในปี 2023 ลดลงถึง 4% ที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมิถุนายน
สถาบัน Ifo ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อจะแตะระดับ 8.1% ปี 2022 และจะเพิ่มเป็น 9.3% ในปี 2023
ทีโม โวลล์เมอร์เชอูเซอร์ นักเศรษฐศาสตร์ประจำสถาบัน Ifo กล่าวว่า “เรากำลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงนี้ จากการระงับการส่งออกก๊าซของรัสเซียในช่วงฤดูร้อน และราคาก๊าซที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ทำลายการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังการระบาดของไวรัสโคโรนา”
นักเศรษฐศาสตร์ท่านนี้ระบุว่า เศรษฐกิจเยอรมนีมีแนวโน้มที่จะ “กลับสู่ภาวะปกติ” ในปี 2567 โดยมีการเติบโตที่ 1.8% และอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 2.5%
เงินเฟ้อ-วิกฤตพลังงานรุมเร้า
เมื่อต้นเดือนกันยายน ก๊าซพรอม (Gazprom) บริษัทผลิตพลังงานรายใหญ่ของรัสเซียระงับการส่งก๊าซไปยังยุโรป ผ่านท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 1 แจ้งว่าต้องซ่อมแซม แต่เยอรมนีเชื่อว่า รัสเซียใช้เรื่องก๊าซเป็นอาวุธทางการเมือง
การระงับการส่งออกก๊าซครั้งนี้ เน้นย้ำถึงวิกฤตด้านพลังงานในเยอรมนีและทั่วทั้งยุโรป ซึ่งต้องพึ่งพาก๊าซของรัสเซียมาอย่างยาวนาน
ขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีแตะระดับ 7.9% ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลเปิดแผนบรรเทาผลกระทบฉบับใหม่มูลค่าหลายพันล้านยูโร เพื่อช่วยให้ครัวเรือนรับมือกับราคาก๊าซที่พุ่งสูงขึ้น
เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ซึ่งเป็นตัวเลขระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในเขตยูโรโซน และคาดว่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต
นายกฯจี้ปฏิรูปให้ทันหนาวนี้
ด้านนายโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวที่กรุงเบอร์ลิน กระตุ้นให้ตลาดไฟฟ้าปฏิรูปโดยด่วน เพื่อบรรเทาแรงกดดันต่อผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ขณะที่ฤดูหนาวใกล้เข้ามา
นายโชลซ์กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทไฟฟ้าที่ไม่ใช้ก๊าซ ไม่ว่า นิวเคลียร์ โซลาร์ หรือพลังงานหมุนเวียนอื่น ไม่ได้รับกำไรพิเศษเลย เนื่องจากราคาไปติดกับดักไฟฟ้าที่ผลิตจากก๊าซ
“ตอนนี้เราต้องผลักดันให้เร่งสปีดสุดขีด เพื่อที่เราจะได้ผ่อนคลายจากข้อจำกัด จึงมีความจำเป็นต้องเร่งความเร็วเพื่อให้เข้าที่เข้าทางในฤดูหนาวนี้”
อังกฤษวูบวันหยุดงานควีน
ขณะเดียวกัน เอเอฟพี รายงานว่า เศรษฐกิจอังกฤษส่อเค้าถดถอยเช่นกัน หลังเพิ่งจะดีดตัวขึ้นเมื่อเดือน ก.ค. แต่ต้องเจอกับผลกระทบอีกแล้ว จากวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ที่ 19 ก.ย. เป็นวันหยุดราชการเนื่องในวันพระราชพิธีพระบรมศพควีนเอลิเบธที่ 2
สำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของอังกฤษขยายตัวร้อยละ 0.2 หลังจากลดลงร้อยละ 0.6 ในเดือน มิ.ย. เนื่องจากเดือน มิ.ย.มีวันหยุดราชการพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองราชสมบัติครบ 70 ปีของควีน
ยาเอล เซลฟิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ KPMG ในอังกฤษเห็นตรงกันว่า เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นร้อยละ 0.2 ในเดือน ก.ค. เนื่องจากเดือน มิ.ย. มีวันหยุดยาวหลายวันในช่วงเฉลิมฉลองจูบิลี
จีดีพีเดือน ก.ค.ยังคงตกต่ำอย่างต่อเนื่อง และต่ำกว่าเดือน พ.ค. สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจหดตัวช่วง 2 เดือนแรกในฤดูร้อน
ตามปกติ สหราชอาณาจักรมีวันหยุดนักขัตฤกษ์เพียงวันเดียวในช่วงต้นฤดูร้อน แต่ปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เพราะเป็นปีเฉลิมฉลองควีนครองราชย์ อีกทั้งยังหยุดในวันประกอบพระราชพิธีพระบรมศพ หมายความว่าชาวอังกฤษหลายล้านคนจะมีวันหยุดราชการเพิ่มขึ้นกว่าปกติในปีนี้อีก
ธนาคารแห่งชาติอังกฤษคาดว่าเศรษฐกิจอังกฤษเข้าสู่ภาวะถดถอยก่อนสิ้นปีนี้ จากผลของอัตราเงินเฟ้อ ประกอบกับราคาพลังงานและอาหารพุ่งสูง
อนาคตส่อพังมากกว่านี้
ซามูเอล ทอมส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ Pantheon Macroeconomics ของสหราชอาณาจักร กล่าวว่า วันหยุดพิเศษในวันพระราชพิธีศพ 19 ก.ย. จะส่งผลเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่าวันหยุดพิเศษในวันฉลองจูบิลีเดือน มิ.ย. เพราะธุรกิจต่าง ๆ จะต้องสะสางงานด้วยการทำงานล่วงเวลา หรือทำงานหนักขึ้นเช่นเดียวกับเดือน มิ.ย.
วันหยุดเนื่องในวันพระราชพิธีพระบรมศพควีนอาจจะทำให้จีดีพีหดตัวร้อยละ 0.2 เหมือนเดือน มิ.ย. ซึ่งอาจจะเป็นการถดถอยทางเศรษฐกิจทางเทคนิค จีดีพีลดลงประมาณ 2 ใน 4 ซึ่งถือว่ายังสมดุล
ส่วนภาวะเงินเฟ้อ ธนาคารกลางอังกฤษคาดว่าจะสูงกว่าร้อยละ 10 ซึ่งไต่ระดับสูงที่สุดในรอบ 40 ปี มีแนวโน้มว่าจะพุ่งสูงขึ้นอีก
ธนาคารกลางอังกฤษปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลักหลายครั้งตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ส่วนการประชุมธนาคารกลางอังกฤษที่กำหนดไว้ในสัปดาห์นี้จะต้องเลื่อนออกไปเป็นหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีพระบรมศพควีน ซึ่งจะมีการพิจารณาเงินกู้ยืมที่เข้มงวดมากขึ้น
ยูโรโซนเสี่ยง เศรษฐกิจถดถอย
ก่อนหน้านี้ คริสทีน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB กล่าวว่า ประเทศกลุ่มยูโรโซนมีแนวโน้มจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หากรัสเซียปิดกั้นการส่งก๊าซอย่างเต็มรูปแบบ
“ซีนาริโอจมดิ่งในปี 2023 จะทำให้การเติบโตเป็นไปในทางลบ กรณีที่รัสเซียตัดการส่งก๊าซทั้งหมด” นางลาการ์ดกล่าว และว่า ECB ตัดสินใจวันนี้ว่าจะยังขึ้นดอกเบี้ยต่อไป เพราะเชื่อว่า อัตราตอนนี้มาไกลมาก จึงหวังแต่ว่าเงินเฟ้อจะกลับไปอยู่ในระดับที่ 2%
…..