ศาลสหรัฐ สั่งยุติดีลควบรวม 2 สำนักพิมพ์ใหญ่ ป้องกันผูกขาดตลาด

ควบรวม สำนักพิมพ์สหรัฐ Penguin Random House Simon & Schuster

ศาลสหรัฐ ในวอชิงตัน ดี.ซี. สั่งยุติดีลควบรวม 2 สำนักพิมพ์ใหญ่ มูลค่ากว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังพบจะทำให้เกิดการผูกขาดตลาดหนังสือ กระทบรายได้นักเขียน

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 เว็บไซต์ เดอะการ์เดียน ของอังกฤษ รายงานว่า ผู้พิพากษาศาลสหรัฐ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สั่งยุติการควบรวมกิจการสำนักพิมพ์ของ Penguin Random House และ Simon & Schuster มูลค่ารวมกว่า 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 83,000 ล้านบาท

ฟลอเรนซ์ แพน (Florence Pan) ผู้พิพากษาศาลฯ ระบุว่า จากการพิจารณาข้อมูลของหน่วยงานยุติธรรม พบว่า การควบรวมดังกล่าวจะส่งผลอันตรายต่อตลาดหนังสือ และส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

โดยเฉพาะการซื้อลิขสิทธิ์งานเขียนของนักเขียนชื่อดัง ที่สำนักพิมพ์ใหญ่จะมีอำนาจต่อรองค่าตอบแทนล่วงหน้าเหนือกว่ารายอื่น ๆ ซึ่งโดยปกติ นักเขียนมักจะได้ค่าตอบแทนล่วงหน้าอย่างน้อย 250,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 9.5 ล้านบาท)

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมว่า ส่วนแบ่งการตลาดของสำนักพิมพ์ใหม่ที่เกิดขึ้นจากการควบรวมครั้งนี้ มีถึง 49% ขณะที่สำนักพิมพ์ที่ใหญ่เป็นอันดับรองลงมาจาก 2 สำนักพิมพ์ดังกล่าว มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ไม่ถึงครึ่ง

ด้านผู้บริหารระดับสูง PRH และ Simon & Schuster โต้แย้งว่า การควบรวมครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มผลประโยชน์ต่อค่าตอบแทนนักเขียน ช่วยให้สำนักพิมพ์สามารถประหยัดเงินและซื้องานเขียนมาผลิตได้มากขึ้น

สตีเฟ่น คิง (Stephen King) นักเขียนชื่อดัง ผู้แต่งนิยายสยองขวัญ-ระทึกขวัญเล่มดังมากมาย เช่น It, The Shining และยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิด Stranger Things ซีรีส์จาก Netflix ที่สร้างปรากฏการณ์ความนิยมมากมาย ให้ทรรศนะต่อคำตัดสินของศาลว่า การควบรวมกิจการจะบ่อนทำลายตลาดหนังสือกับการแข่งขันกันของนักเขียนในการสร้างผลงานเขียน

สำหรับ 2 สำนักพิมพ์ดังกล่าว มีกลุ่มผู้ถือหุ้นที่ต่างกัน โดย Penguin Random House เป็นบริษัทในเครือ Bertelsmann บริษัทสื่อของเยอรมนี ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของ Penguin กับ Random House เมื่อปี 2556

ขณะที่สำนักพิมพ์ Simon & Schuster อยู่ภายใต้ Paramount Global (ViacomCBS ในปัจจุบัน) ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมบันเทิงของสหรัฐอเมริกา ผู้จัดจำหน่ายงานเขียนที่เป็นที่นิยมมากมาก อาทิ Peanuts, PJ Masks และ Daniel Tiger’s Neighborhood รวมถึง Five Feet Apart นิยายที่ถูกนำมาต่อยอดเป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2562