
ไม่พลิกโผ เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.5 ประธานพาวเวลล์ส่งสัญญาณชัดยังมีอีกปีหน้า
วันที่ 15 ธันวาคม 2565 สำนักข่าว เอพี รายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด ประกาศขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 7 ของปีนี้ ด้วยอัตรา 0.5% ตามการคาดการณ์ของตลาด ว่าเฟดจะชะลออัตราเดิมลง หลังขึ้นที่ 0.75 ติดต่อกันมาแล้วสี่ครั้ง
- ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจผลรางวัล งวด 1 เม.ย. 66 (อัพเดต)
- 12 นิสิตเก่า ‘สิงห์ดำ’ ดีเด่น ปี 66 ความภาคภูมิใจ ‘รัฐศาสตร์ จุฬาฯ’ สถาบันผลิตบุคลากรชั้นนำของประเทศ
- Café Amazon เฉลยเอง ไวรัลนกหน้าร้านสะดวกซื้อ กำลังจะเกิดอะไรขึ้น?
การขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ทำให้อัตราดอกเบี้ยสหรัฐอยู่ที่ 4.25% ถึง 4.5% สูงที่สุดในรอบ 15 ปี และบ่งบอกว่าเฟดจะยังคงจะคุมเงินเฟ้อต่อไป แม้มีความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอย
เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลาง แถลงหลังการประชุมว่า เฟดยังต้องมีงานต้องทำอีกมาก เพื่อกดภาวะเงินเฟ้อให้ลงไปอยู่ที่ระดับ 2% ตามเป้าหมาย และจะใช้ขั้นตอนต่าง ๆ ที่ทรงพลังตามมาอีก การตัดสินใจขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเงินและเศรษฐกิจ

“ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนแสดงถึงการลดลงอย่างน่ายินดี แต่ยังต้องมีหลักฐานตามความเป็นจริงมากกว่านี้ ให้มั่นใจว่าเงินเฟ้อเข้าสู่เส้นทางขาลงจริง ๆ” ประธานเฟดกล่าว และว่าเงินเฟ้อยังคงสูงเป็นประวัติการณ์ จึงต้องเดินหน้าควบคุมต่อไป
สำหรับราคาบ้านที่มีสัดส่วนถึงหนึ่งในสามของดัชนีผู้บริโภคยังคงสูงขึ้น แม้ว่ามาตรวัดเรียลไทม์เริ่มเห็นว่าค่าเช่าอพาร์ตเมนต์และราคาบ้านเริ่มลดลงแล้ว ซึ่งประธานพาวเวลล์กล่าวว่า การลดลงนี้จะช่วยลดเงินเฟ้อลงได้
แต่จุดหลักที่ประธานเฟดโฟกัสอยู่คือค่าบริการที่ยังสูงติดลมบน เพราะค่าจ้างสูงขึ้นชัดเจน โดยภาคการโรงแรมและภัตตาคารร้านอาหารที่หาแรงงานเพิ่มขึ้น ทำให้ค่าจ้างสูงขึ้น 5-6% จนกลายเป็นตัวที่มีส่วนทำให้เงินเฟ้อสูง
ประธานเฟดกล่าวว่า เจ้าหน้าที่เฟดคนอื่น ๆ หวังว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะชะลอลงได้ในปีหน้า ทั้งในส่วนค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคและการเติบโตของตลาดแรงงาน ภาคธุรกิจควรตัดการเปิดรับสมัครงานหลายตำแหน่ง และลดความต้องการแรงงานลง หากการแข่งขันแย่งชิงแรงงานลดลง ค่าจ้างก็จะชะลอตัวลงไปด้วย

สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจ พาวเวลล์กล่าวว่า ชะลอตัวอย่างชัดเจนจากปีที่แล้ว ตลาดแรงงานยังตึงตัว และตัวเลขคนว่างงานน่าจะสูงขึ้นในปีหน้าและปี 2567 โดยปี 2566 อัตราน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.6 เมื่อสิ้นสุดปี จาก 3.7% ในปีนี้ สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยลง
คณะกรรมการกำหนดนโยบายยังคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะอยู่ระหว่าง 5% ถึง 5.25% เมื่อสิ้นสุดปี 2566 และจะลงเหลือ 4.1% ในปี 2567 ซึ่งยังสูงกว่าที่คิด นักเศรษฐศาสตร์บางคนจึงคาดการณ์ว่าเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มอีก 0.75 แล้วปล่อยยาวไปถึงสิ้นปีหน้า และบางคนคาดว่าจะขึ้นอีก 0.5
การประกาศขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ไล่หลังหนึ่งวันหลังมีรายงานดัชนีผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายนสูงขึ้น 7.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน แม้ว่าอัตรานี้จะลดลงมากแล้วจากช่วงพีกเมื่อเดือนมิถุนายนที่เงินเฟ้อสูงถึง 9.1%
เฟดยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวเล็กน้อยในปีหน้า หรือเพียง 0.5% ครึ่งหนึ่งของที่เคยคาดการณ์เมื่อเดือนกันยายน
ทั้งนี้ หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.5 ล่าสุดนี้ ดัชนีตลาดหุ้นส่วนใหญ่ของสหรัฐ เช่น S&P 500 และแนสแดคขึ้นลงวูบวาบ ส่วนดาวโจนส์ดิ่งลง ก่อนทุกดัชนีปิดด้วยตัวเลขติดลบ เนื่องจากคำแถลงของประธานพาวเวลล์ชัดเจนว่าธนาคารกลางยังห่างไกลจากการประกาศชัยชนะเหนือเงินเฟ้อ นักลงทุนจึงเกร็งกันต่อว่าเฟดจะตัดสินใจอย่างไรในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
ด้านสถานการณ์เงินเฟ้อในชาติยุโรปและสหราชอาณาจักรลดลงเช่นกัน จากการที่ธนาคารกลางหลายประเทศใช้วิธีขึ้นดอกเบี้ยตามเฟด จึงคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปและแบงก์ออฟอิงแลนด์จะชะลออัตราการขึ้นดอกเบี้ยเช่นกันในวันพฤหัสฯ นี้
…..