อีลอน มัสก์ บุรุษคนแรกผู้สูญ 2 แสนล้านดอลลาร์ มั่นใจปี 2023 ไม่น่าเบื่อ

อีลอน มัสก์
(AP Photo/Alex Brandon, File)

มหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ ทวีต อวยพรปีใหม่กับแฟน ๆ ว่าปี 2023 จะไม่น่าเบื่อแน่นอน หลังจากตัวเองเพิ่งเป็นบุรุษคนแรกที่สูญทรัพย์สินไปเกิน 2 แสนล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 7 ล้านล้านบาท

วันที่ 2 มกราคม 2566 ทวิตเตอร์บัญชี Elon Musk ของ อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีโลกชาวอเมริกันผู้สร้างความฮือฮาในวงการธุรกิจ การเงิน และโซเชียลมีเดีย มาตลอดปี 2565 โพสต์ข้อความอวยพรผู้คนในวันขึ้นปีใหม่ ว่า “หวังว่าคุณจะมีวันแรกของปี 2023 ยอดเยี่ยม สิ่งหนึ่งที่แน่ใจได้คือ จะเป็นปีที่ไม่น่าเบื่อ”

ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ข่าวธุรกิจ บลูมเบิร์ก รายงานส่งท้ายปี 2565 ว่า อีลอน มัสก์ วัย 51 ปี ซีอีโอแห่งบริษัท เทสลา เป็นบุรุษคนแรกและคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่สูญเสียทรัพย์สินไปมากกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สรัฐ หรือราว 6.9 ล้านล้านบาท

จากการเก็บข้อมูลดัชนีมหาเศรษฐีพันล้านของบลูมเบิร์ก –  Bloomberg Billionaires Index ความร่ำรวยของมัสก์ ดิ่งเหลือ 137,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 4.7 ล้านล้านบาท หลังจากหุ้นของบริษัทเทสลาดิ่งลงเรื่อย ๆ ช่วงท้ายปี 2565 รวมถึงเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2565 ที่ดิ่งพรวด 11% จนมัสก์ถูกมหาเศรษฐีฝรั่งเศส แบร์นาร์ด อาร์โนลด์ แห่ง LVMH แซงขึ้นอันดับหนึ่งมหาเศรษฐีโลกไปช่วงหนึ่ง

และเมื่อเทียบกับเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2564 ตอนนั้นมัสก์มีทรัพย์สินมูลค่าพุ่งสูงสุด 340 ล้านดอลลาร์ หรือราว 11.7 ล้านล้านบาท เป็นหลักไมล์ที่สะท้อนว่า มัสก์ทะยานไปอยู่ในจุดที่มีทรัพย์สินท่วมท้น ช่วงโรคระบาดทำเงิน

Advertisment

เทสลามีมูลค่าตามราคาตลาดสูงทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นครั้งแรก เมื่อเดือนตุลาคม 2564 เหมือนกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยี เช่น แอปเปิล ไมโครซอฟท์ แอมะซอน กูเกิล แม้ว่าสัดส่วนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะมีไม่มากในตลาดรถยนต์โดยรวม

Tesla Inc CEO Elon Musk  in Shanghai, China January 7, 2020. REUTERS/Aly Song/File Photo

ตอนนี้ การครองตลาดของ เทสลา ในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี อยู่ในจุดเสี่ยง เพราะถูกเขย่าด้วยคู่แข่ง บริษัทพยายามดิ้นรนด้วยการลดราคารถสองรุ่นที่มีโวลุ่มสูงสุด ถึง 7,500 ดอลลาร์ก่อนจบปี 2565 ซึ่งแทบไม่มีมาก่อน นอกจากนี้ยังเจอปัญหาลดการผลิตที่โรงงานในเซี่ยงไฮ้

Advertisment

ทวิตเตอร์-อีกแรงกดดัน

แรงกดดันที่หนักหนาอีกด้าน มาจากการที่มัสก์เข้าครอบครองกิจการทวิตเตอร์ สื่อโซเชียลยอดนิยม ด้วยยอดการซื้อ 44,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1.5 ล้านล้านบาท เมื่อปลายเดือนตุลาคม 2565

จากนั้นมัสก์ปรับเปลี่ยนการบริหารแบบวูบวาบ เช่น ปลดพนักงานออกไปมาก แต่สุดท้ายก็เรียกกลับมาทำงาน รวมถึงการแบนบัญชีนักข่าวที่รายงานข่าวเกี่ยวกับเขา แต่รีบฟื้นคืนให้โดยเร็ว

เมื่อรวมความอลเวงในกิจการที่มัสก์ถือครองอยู่ ไม่ว่า การดิ่งลงของหุ้นเทสลาในปี 2565 รวมแล้วถึง 65% และการที่มัสก์ขายหุ้นเทศลาออกไปมากเพื่อเอาเงินไปซื้อทวิตเตอร์ ทำให้กิจการของเทสลาไม่ใช่มูลค่าทรัพย์สินหลักของมัสก์อีก

REUTERS/Dado Ruvic/Illustration/File Photo

ทรัพย์สินที่มากที่สุดกลับมาจากบริษัท สเปซ เอ็กซ์พลอเรชัน เทคโนโลยีส์ คอร์ป หรือ SpaceX ที่ 44,800 ล้านดอลลาร์ สูงกว่ามูลค่าหุ้นของเทสลาที่มี 44,000 ล้านดอลลาร์ (มัสก์น่าจะมีสัดส่วนอยู่ที่ 27,800 ล้านดอลลาร์) ส่วนกิจการ สเปซเอ็กซ์ มัสก์ถือหุ้นใหญ่อยู่ 42%

มัสก์เคยกล่าวปฏิเสธความกังวลเกี่ยวกับการขายหุ้นเทสลาไปซื้อทวิตเตอร์ ทั้งยังวิจารณ์ธนาคารกลางสหรัฐที่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วที่สุดในช่วงชีวิตของคนรุ่นปัจจุบัน

“เทสลาบริหารงานดีกว่าเท่าที่เคยมีมา แต่เราไม่ได้คุมธนาคารกลาง นั่นล่ะคือปัญหาที่แท้จริง” มัสก์ทวีต เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2565 

…..