ปี 2565 เมียนมาปลูกฝิ่นพุ่ง 33% คนเดือดร้อนจากรัฐประหาร ไม่มีทางเลือกอื่นหาเงิน

การปลูกฝิ่นในเมียนมา
Ye Aung THU / AFP

สหประชาชาติ (UN) รายงานว่า ปี 2565 การปลูกฝิ่นในประเทศเมียนมาพุ่งขึ้น 33% ต่อเนื่องจากที่เพิ่มขึ้นในปี 2564 สวนทางกับหลายปีก่อนหน้านั้นที่การผลิตลดต่อเนื่อง UN ชี้ชัดว่าการปลูกฝิ่นที่เพิ่มขึ้น เชื่อมโยงโดยตรงกับการทำรัฐประหาร เนื่องจากเศรษฐกิจไม่มีเสถียรภาพ ประชาชนไม่มีทางเลือกอื่นในการหาเงิน 

วันที่ 26 มกราคม 2566 สำนักข่าว Reuters รายงานว่า รายงานสำรวจการปลูกฝิ่นในเมียนมาฉบับใหม่ขององค์การสหประชาชาติ (United Nations : UN) เผยว่า ในปี 2565 การปลูกฝิ่นในประเทศเมียนมาซึ่งปกครองโดยทหารพุ่งขึ้น 33% ต่อเนื่องจากในปี 2564 ที่เพิ่มขึ้นสวนทางกับแนวโน้มที่ลดลงต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2557  

เจ้าหน้าที่สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime : UNODC) กล่าวว่า การเติบโตของปริมาณการปลูกฝิ่น “เชื่อมโยงโดยตรง” กับความวุ่นวายทางการเมืองและเศรษฐกิจในเมียนมา นับตั้งแต่กองทัพเข้ายึดอำนาจด้วยการทำรัฐประหารเมื่อเกือบ 2 ปีก่อน 

“การหยุดชะงักทางเศรษฐกิจ ความมั่นคง และธรรมาภิบาล หลังการยึดอำนาจของกองทัพในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 เกิดขึ้น และเกษตรกรในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดความขัดแย้งบ่อย ๆ มีทางเลือกไม่มากนัก นอกจากต้องกลับไปปลูกฝิ่น” เจเรมี ดักลาส (Jeremy Douglas) เจ้าหน้าที่ประจำภูมิภาค UNODC กล่าว 

ทั้งนี้ เศรษฐกิจของเมียนมาถดถอยนับตั้งแต่เกิดรัฐประหาร ค่าเงินจ๊าตร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ราคาอาหารและเชื้อเพลิงพุ่งสูงขึ้น  

“หากไม่มีทางเลือกอื่น และไม่มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ก็มีแนวโน้มว่าการปลูกและการผลิตฝิ่นจะยังคงขยายตัวต่อไป” เบเนดิกต์ ฮอฟมันน์ (Benedikt Hofmann) ผู้จัดการ UNODC ประจำเมียนมาเตือน 

ในรายงานของ UNODC เผยข้อมูลว่า พื้นที่เพาะปลูกฝิ่นของเมียนมาในปี 2565 อยู่ที่ 40,100 เฮกตาร์ (250,625 ไร่) เพิ่มขึ้น 33% จากปีก่อนหน้านั้น ขณะที่ผลผลิตเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 41% โดยประมาณ เป็นเกือบ 20 กิโลกรัมต่อเฮกตาร์ ซึ่งเป็นมูลค่าสูงสุดนับตั้งแต่ UNODC เริ่มเก็บสถิติในปี 2545

รัฐฉาน ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออก มีพรมแดนติดกับจีน ไทย และลาว เป็นพื้นที่ที่มีการปลูกฝิ่นมากที่สุดในประเทศ และมีการปลูกเพิ่มมากที่สุดในปี 2565 โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านั้น 39%

การปลูกฝิ่นในเมียนมา
PHYO HEIN KYAW/AFP

สำนักข่าว The Washington Post รายงานระบุว่า มูลค่าโดยรวมของฝิ่นที่ผลิตในเมียนมาตามประมาณการของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ในแต่ละปีอยู่ระหว่าง 660-2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นอยู่กับปริมาณการขายในประเทศ และปริมาณฝิ่นที่ถูกนำไปแปรรูปเป็นเฮโรอีนหรือยาเสพติดอื่น ๆ 

ฝิ่นส่วนใหญ่ที่ผลิตในเมียนมาถูกส่งออกไปยังประเทศจีนและเวียดนาม ขณะที่เฮโรอีนส่งไปยังหลายประเทศทั่วภูมิภาค 

“ตามที่มีการรายงาน ปริมาณเฮโรอีนเกือบทั้งหมดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย มีต้นกำเนิดในเมียนมา และประเทศนี้ยังเป็นผู้ผลิตฝิ่นและเฮโรอีนรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกรองจากอัฟกานิสถาน” เจเรมี ดักลาส เจ้าหน้าที่ประจำภูมิภาค UNODC กล่าว 

เขาบอกว่า ไม่สามารถเปรียบเทียบได้ระหว่างอัฟกานิสถานกับเมียนมา เนื่องจากอัฟกานิสถานผลิตฝิ่นได้มากกว่ามาก ๆ แต่การขยายตัวที่กำลังเป็นอยู่ในเมียนมานั้นไม่ควรถูกมองข้าม และจำเป็นต้องให้ความสนใจ เนื่องจากมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นต่อไป เพราะมันเชื่อมโยงโดยตรงกับสถานการณ์ด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจในประเทศ 

“การขยายตัวของการผลิตฝิ่นที่กำลังดำเนินอยู่นั้น โดยพื้นฐานแล้วเชื่อมโยงกับความยากจนและผู้คนในพื้นที่ชนบทที่ตอบสนองต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ” ดักลาสกล่าว

เขาบอกอีกว่า การปลูกฝิ่นเป็นตัวเลือกที่ถูกเลือกเสมอในช่วงเวลาที่ยากลำบาก สถานการณ์ด้านความมั่นคงมีความยากลำบากอย่างเห็นได้ชัด จากความถี่และความรุนแรงของความขัดแย้งที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจยาเสพติดโดยส่วนใหญ่ก็ไม่ถูกตรวจสอบด้วย 

…………………..