ส่อง “โรดแมป” จีนพัฒนา “ชิป” หวังฝ่ากำแพงกีดกันจากสหรัฐ

ส่องโรดแมปจีนพัฒนาชิป
คอลัมน์ : ชีพจรเศรษฐกิจโลก
ผู้เขียน : นงนุช สิงหเดชะ

มาตรการของสหรัฐอเมริกาในการสกัดความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีนอย่างต่อเนื่องแบบดักไว้ทุกทาง เพราะเกรงว่าจีนจะได้รับเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อนำไปใช้ในกิจการทหารและยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ จนเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงของจีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้จีนต้องหาหนทางฝ่าอุปสรรคนี้

บลูมเบิร์กรายงานว่า ความพยายามดังกล่าวของจีนเห็นได้จากบทความของนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของจีน 2 คนคือ “โหลว จุนเว่ย” และ “หลี่ ชูเสิน” ที่ได้เขียนแนะนำรัฐบาลว่า ควรจะสร้างสิทธิบัตรของจีนเกี่ยวกับการผลิตชิปรุ่นต่อไปไว้ในพอร์ตโฟลิโอของตัวเองจำนวนมาก ๆ ตั้งแต่การเป็นผู้กำหนดเรื่องวัตถุดิบใหม่ ๆ ไปจนถึงเทคนิคใหม่ ๆ สำหรับการผลิตชิป

หากทำอย่างนี้ได้ นอกจากจะทำให้จีนบรรลุความทะเยอทะยานด้านการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์แล้ว ยังจะทำให้มีกำลังโต้กลับมาตรการแซงก์ชั่นจากสหรัฐอเมริกาที่ออกแบบมาเพื่อตัดมือตัดเท้าเซมิคอนดักเตอร์จีนด้วย

นักวิชาการทั้งสองคนชี้ว่า การวิจัยอย่างเข้มข้นเพื่อค้นหาวัตถุดิบใหม่ ๆ ตลอดจนส่วนประกอบและการผลิตใหม่ ๆ จะช่วยให้ผู้ผลิตชิปจีนมีสิทธิบัตรครอบคลุมเทคโนโลยีที่สำคัญยิ่งยวด ซึ่งเป็นเครื่องมือและอุปกรณ์สำคัญที่สหรัฐใช้เป็นอาวุธเล่นงานจีนอยู่ในตอนนี้ พร้อมกันนี้ได้ชี้ให้เห็นปัญหาหลายอย่างในทางปฏิบัติของอุตสาหกรรมชิปในจีน เช่นการขาดแคลนผู้มีความสามารถ และขาดงบประมาณสนับสนุนการวิจัย โดยได้กระตุ้นให้รัฐบาลส่งเสริมนักวิทยาศาสตร์อย่างแข็งขันเพื่อให้เกิดการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ

สำหรับ “หลี่ ชูเสิน” เป็นผู้เชี่ยวชาญฟิสิกส์เซมิคอนดักเตอร์และรองประธานสถาบันวิทยาศาสตร์จีน ส่วน “โหลว จุนเว่ย” ทำงานวิจัยด้านชิปในสถาบันเดียวกัน ทั้งนี้ คำแนะนำของทั้งสองคนยังสอดคล้องกับคำกล่าวของประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ที่เรียกร้องให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีสำคัญ เพื่อก้าวข้ามการแซงก์ชั่น
จากสหรัฐอเมริกา โดยจำเป็นจะต้องปรับปรุงห่วงโซ่อุปทานให้มีความทันสมัยและแข็งแกร่ง

ตั้งแต่ถูกรัฐบาลสหรัฐอเมริกายุคโดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาตรการเล่นงานบริษัทเทคโนโลยี รัฐบาลจีนก็มีแผนพัฒนาวัตถุดิบสำหรับการผลิตชิปรุ่นต่อไป อย่างไรก็ตาม จีนยังไม่สามารถบรรลุเทคโนโลยีขั้นสูงจนเป็นผู้ผลิตชิปชั้นนำของโลกได้ เนื่องจากสหรัฐได้ออกมาตรการอย่างต่อเนื่องในการจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีให้กับจีน

บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีน เช่น เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟ็กเจอริ่ง อินเตอร์เนชั่นแนลคอร์ป (SMIC) และหัวเว่ยล้วนถูกอเมริกาปิดกั้น ขณะเดียวกันก็ห้ามบริษัทรับจ้างผลิตชิปรายใหญ่ของโลกคือ TSMC ของไต้หวันส่งสารกึ่งตัวนำ (ซิลิคอน) ขั้นสูงให้กับผู้ออกแบบชิปจีน ล่าสุดมีข่าวว่าสหรัฐอเมริกาประสบความสำเร็จในการทำข้อตกลงกับเนเธอร์แลนด์และญี่ปุ่น ในการจำกัดการส่งออกเครื่องจักรผลิตชิปขั้นสูงให้กับจีน เป็นการจำกัดความสามารถของบริษัทเทคโนโลยีจีนมากขึ้นไปอีก

สำหรับเนเธอร์แลนด์นั้น เป็นเจ้าของ ASML ต้นกำเนิดผู้ผลิตเครื่องจักรสำหรับผลิตชิปขั้นสูงที่ล้ำหน้าที่สุดของโลกแต่เพียงรายเดียว จึงนับว่าเป็นกระดูกสันหลังของบริษัทผลิตชิปทั่วโลก หากปราศจากเครื่องจักรนี้ก็ไม่สามารถผลิตชิปไฮเอนด์ได้ 
ในกรณีของจีนซึ่งมีเป้าหมายจะผลิตชิปขั้นสูงสำหรับคอมพิวเตอร์ จึงจำเป็นต้องมีเครื่องจักรดังกล่าว แต่ก็ถูกสหรัฐอเมริกาสกัดเสียก่อน

ทางด้านโกลบอล ไทม์ส สื่อกระบอกเสียงรัฐบาลจีน ได้รายงานโดยอ้างความเห็นผู้เชี่ยวชาญว่า การที่สหรัฐอเมริกาเล่นงานจีนโดยมีแรงจูงใจทางการเมือง จะทำให้อุตสาหกรรมการผลิตชิปทั่วโลกเกิดการสะดุดต่อไป การที่บริษัทต่าง ๆ มียอดขายชิปทั่วโลกลดลง ก็เป็นผลมาจากการขาดความสมดุลระหว่างอุปสงค์กับอุปทาน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากมาตรการของสหรัฐที่ต้องการให้เทคโนโลยีโลกแยกตัวออกจากจีน

โกลบอลไทม์สระบุว่า อย่างไรก็ตาม บริษัทผลิตเซมิคอนดักเตอร์ต่างชาติหลายรายเชื่อว่าการที่เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งจะช่วยขับเคลื่อนความต้องการของตลาดได้ ทว่าหลายรายยังไม่กล้าลงทุนใหม่มากนัก เพราะการแทรกแซงของสหรัฐทำให้เกิดความไม่แน่นอนจนขาดความมั่นใจที่จะลงทุน