เมื่อมีภัยความมั่นคงอยู่ใกล้บ้าน ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้จึงฟื้นสัมพันธ์ หวนร่วมมือทางทหาร

เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ร่วมมือทางทหาร
ยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กับฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น/ Kiyoshi Ota/ Pool via REUTERS

ปัจจัยท้าทายความมั่นคง ทั้งความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐ-ไต้หวัน และขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ ผลักดันให้ญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้กลับมาเจรจาความร่วมมือทางการทหารกันอีกครั้งในรอบหลายปี หลังจากมีกรณีพิพาททำให้ระงับความร่วมมือกันไปเมื่อปี 2561

เนื่องจากมีปัจจัยท้าทายความมั่นคงอยู่ใกล้บ้าน ทั้งความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันระหว่างจีนกับสหรัฐ-ไต้หวัน และขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ ที่วันดีคืนดี “ท่านผู้นำ” นึกอยากแสดงแสนยานุภาพก็สั่งทดลองยิงขีปนาวุธออกทะเลทางตะวันออก 

เป็นเหตุผลให้ญี่ปุ่นพยายามเจรจายกระดับความร่วมมือกับหลายประเทศ ทั้งสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา ขณะที่ภายในประเทศญี่ปุ่นเองก็เพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคงปี 2566 ขึ้นจากปี 2565 ถึง 26.3% 

ส่วนเกาหลีใต้ซึ่งมีพรมแดนติดกับเกาหลีเหนือและจีนก็อยู่ในความเสี่ยงตลอดเวลา และเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคงเช่นกัน โดยแผนป้องกันประเทศระยะ 5 ปี (2566-2570) ของเกาหลีใต้จะใช้จ่ายงบประมาณ 331 ล้านล้านวอน (268,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) คิดเป็นการเพิ่มงบประมาณกลาโหมประมาณ 6.8% ต่อปี 

ญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้จึงกลับมาเจรจาความร่วมมือทางการทหารกันอีกครั้งในรอบหลายปี หลังจากที่ระงับความร่วมมือทางทหารกันไปเมื่อปี 2561 จากกรณีที่เรือพิฆาตของกองทัพเกาหลีใต้ใช้ระบบเรดาร์ล็อกเป้าหมายเครื่องบินรบของญี่ปุ่น จนนำไปสู่การออกแถลงการณ์ประณามและลดระดับความร่วมมือกัน ตามมาด้วยการที่ญี่ปุ่นควบคุมการส่งออกสินค้า 3 ชนิดที่จำเป็นในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และจอแสดงผลไปยังเกาหลีใต้เป็นการตอบโต้ 

ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ในการประชุมสุดยอดผู้นำของญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ครั้งแรกในรอบ 12 ปี ญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้จึงตกลงยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกัน 

ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ร่วมมือทางทหาร
FRANCK ROBICHON/ Pool via REUTERS


สำนักข่าว
Nikkei Asia ของญี่ปุ่นรายงานว่า นายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ (Fumio Kishida) ของญี่ปุ่น และประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล (Yoon Suk Yeol) ของเกาหลีใต้ ตกลงที่จะเพิ่มความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกัน โดยจะเริ่มต้นการเจรจาด้านความมั่นคงในระดับทวิภาคีอีกครั้งหลังจากหยุดไปนาน 5 ปี และตกลงที่จะร่วมกันสนับสนุนแนวคิด “อินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง” (Free and Open Indo-Pacific) 

ในการแถลงข่าวร่วมกัน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้เรียกญี่ปุ่นว่าเป็น “หุ้นส่วน” ในการรับมือกับความท้าทายด้านความมั่นคง และเขากล่าวในที่ประชุมด้วยว่า รัฐบาลเกาหลีใต้จะกลับมาทำตามข้อตกลงแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองของสองประเทศ (General Security of Military Information Agreement : GSOMIA) ซึ่งเกาหลีใต้ในสมัยประธานาธิบดีมุน แจอิน (Moon Jae-in) ประกาศไม่ต่ออายุข้อตกลงนี้ หลังจากที่ญี่ปุ่นควบคุมการส่งออกสินค้า 3 ชนิดซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตชิปและจอแสดงผลไปยังเกาหลีใต้เมื่อปี 2562 

ด้านรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งกำลังพยายามกระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตรในเอเชียตะวันออกให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และพยายามผลักดันให้พันธมิตรกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันเอง ยินดีอย่างมากกับผลการเจรจาในการประชุมสุดยอดผู้นำญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ 

สหรัฐมองว่าข้อตกลงระหว่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้มีความสำคัญอย่างยิ่ง ท่ามกลางสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงที่มีความท้าทายมากขึ้น ทั้งสงครามในยูเครนที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลง และการที่รัฐบาลจีนส่งสัญญาณว่าตัวเองมีอิทธิพลมากขึ้นในเวทีโลก และมีการคาดเดาว่าจีนอาจเตรียมบุกไต้หวันภายในปี 2570 

สหรัฐอเมริกามี NATO เป็นพันธมิตรทางทหารในยุโรป แต่ในเอเชียตะวันออกนั้นต้องอาศัยความร่วมมือไตรภาคีกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นหลัก ซึ่งความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างทั้งสามประเทศก่อนหน้านี้มุ่งไปที่การรับมือกับเกาหลีเหนือ แต่กองทหารอเมริกันในเกาหลีใต้จะมีบทบาทสำคัญในกรณีไต้หวันกับจีนที่อาจเกิดเหตุการณ์การเผชิญหน้าขึ้นด้วย 

ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ร่วมมือทางทหาร
ยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น/ภาพจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ รัฐบาลญี่ปุ่น via REUTERS


พลเอกพอล ลาคาเมรา (General Paul LaCamera) ผู้บัญชาการกองกำลังสหรัฐ ในเกาหลีใต้กล่าวเมื่อปีที่แล้วว่า กองกำลังอเมริกันจัดทำแผนฉุกเฉินสำหรับสถานการณ์ทุกประเภท

ยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้เองก็มองว่าวิกฤตในไต้หวันเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อเกาหลีใต้มากขึ้นเรื่อย ๆ 

“กรณีความขัดแย้งทางทหารรอบไต้หวัน ทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะเกิดการยั่วยุจากเกาหลีเหนือ” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ CNN เมื่อปีที่แล้ว

ดังนั้น การขยายความร่วมมือระหว่างกองทัพญี่ปุ่น (Japan’s Self-Defense Forces) และกองทัพของเกาหลีใต้ที่มีการตกลงกันนี้ จะมีความสำคัญในการจัดการกับวิกฤตการณ์ที่เกี่ยวข้องกับจีน เกาหลีเหนือ และรัสเซีย 

นอกจากตกลงกลับมาร่วมมือทางการทหารแล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศยกเลิกกฎควบคุมการส่งออกสินค้า 3 ชนิดไปยังเกาหลีใต้ เพื่อเป็นการฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานด้วย ซึ่งการประกาศยกเลิกนี้มีขึ้นหลังจากการประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ของทั้งสองประเทศ 

ส่วนเกาหลีใต้ได้ประกาศถอนฟ้องคดีที่ยื่นฟ้องญี่ปุ่นต่อองค์การการค้าโลก (World Trade Organization : WTO) เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นการกระตุ้นให้ญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้กลับมาเจรจาการค้าทวิภาคีกันอีกเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี 

และหลังจากนี้ทั้งสองประเทศจะหารือทวิภาคีกันต่อไป ทั้งด้านความมั่นคงและการค้า