
ในปี 2565 ที่ผ่านมา ชาวรัสเซียเข้าไปตั้งบริษัทในตุรกีมากกว่า 1,300 บริษัท เพิ่มขึ้น 670% จากปีก่อนหน้านั้น และชาวรัสเซียซื้อที่อยู่อาศัยราว 25% ของผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ชาวต่างชาติทั้งหมด
วันที่ 20 มีนาคม 2566 สำนักข่าว Bloomberg รายงานอ้างอิงข้อมูลของ Economic Policy Research Foundation of Turkey (TEPAV) ว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา ชาวรัสเซียเข้าไปตั้งบริษัทในประเทศตุรกีมากกว่า 1,300 บริษัท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 670% จากปีก่อนหน้านั้น
- ด่วน ! เกาหลีใต้รับคนทำงานอู่ต่อเรือ 4,477 อัตรา เงินเดือน 1.08 แสนบาท
- ถอดรหัส MOU รัฐบาลก้าวไกล ไม่แตะหมวดพระมหากษัตริย์
- “ฮับค้าส่ง” แสนล้านเปลี่ยนทิศ ออนไลน์พ่นพิษลูกค้าหดหายยอดไม่ฟื้น
การเพิ่มขึ้นของจำนวนบริษัทรัสเซียในประเทศตุรกีเน้นย้ำให้เห็นว่าตุรกีได้รับความสนใจมากขึ้นในฐานะปลายทางของเงินจากรัสเซีย หลังจากรัฐบาลรัสเซียบุกก่อสงครามในยูเครน ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ในประเทศของตนเองด้วย
แนวโน้มความนิยมตั้งบริษัทในตุรกีของชาวรัสเซียสะท้อนให้เห็นผ่านตลาดที่อยู่อาศัย ซึ่งชาวรัสเซียคิดเป็นเกือบ 25% ของผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ชาวต่างชาติทั้งหมดในตุรกีในปี 2565
หนึ่งปัจจัยหนุนที่สำคัญ คือ รัฐบาลตุรกีไม่เข้าร่วมคว่ำบาตรรัสเซียกับบรรดาชาติตะวันตก ทำให้ตุรกีเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจของนักลงทุนที่มองหาที่หลบภัยการคว่ำบาตร รวมถึงผู้มีอำนาจในรัสเซียที่พยายามถ่ายเททรัพย์สินออกนอกประเทศเพื่อเลี่ยงการโดนยึดทรัพย์สิน
ฝั่งสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป (EU) ก็ได้วิพากษ์วิจารณ์ความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีกับรัสเซียที่เพิ่มขึ้น โดยกล่าวว่า การที่ตุรกีส่งออกสินค้าไปยังรัสเซียเพิ่มขึ้นนั้นช่วยให้รัฐบาลรัสเซียเลี่ยงผลกระทบของการคว่ำบาตรจากตะวันตก
ทั้งนี้ ด้วยแรงกดดันจากชาติตะวันตกที่เพิ่มขึ้น ตุรกีจึงได้ถอนตัวจากระบบการชำระเงิน Mir ของรัสเซียแล้ว และล่าสุดได้ประกาศหยุดการขนส่งสินค้าที่ถูกคว่ำบาตรไปยังรัสเซียแล้วเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา