ยักษ์สตรีมมิ่งเปลี่ยนเกม พึ่งพิงรายได้โฆษณามากขึ้น

เน็ตฟลิกซ์

สถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ส่งผลผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต้องเผชิญกับการเพิ่มจำนวนของผู้สมัครสมาชิกรายใหม่ลดลง สร้างแรงกดดันให้หลายบริษัทต้องหันไปหาธุรกิจด้านการโฆษณามากขึ้น ด้วยเป้าหมายที่จะชดเชยการสูญเสียรายได้จากการใช้บริการที่หดตัวก่อนหน้านี้

ซีเอ็นบีซี รายงานว่า บริษัทสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่กำลังแข่งขันกันดึงดูดผู้ลงโฆษณามากขึ้น พร้อมกับการนำเสนอรูปแบบการสมัครสมาชิกที่มีการโฆษณาซึ่งมีราคาสมาชิกถูกลง โดยตั้งเป้าเพิ่มยอดการสมัครสมาชิกใหม่แบบมีโฆษณาทดแทนการเติบโตของสมาชิกรูปแบบเดิมที่กำลังมีแนวโน้มชะลอตัว

ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา “บ็อบ อีเกอร์” ซีอีโอของดิสนีย์ กล่าวระหว่างการแถลงเตรียมรวมเนื้อหาของ “ฮูลู” (Hulu) เข้ากับแพลตฟอร์ม “ดิสนีย์พลัส” (Disney+) ระบุว่า การร่วมมือกันดังกล่าวจะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการโฆษณาของแพลตฟอร์มให้เป็นหนึ่งเดียว และดิสนีย์จะหันไปให้ความสำคัญกับสมาชิกสตรีมมิ่งแบบมีโฆษณามากขึ้น หลังจากที่เปิดตัวครั้งแรกไปเมื่อปี 2022

เช่นกันกับ “เน็ตฟลิกซ์” ที่เคยต่อต้านการมีโฆษณาบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งมาอย่างยาวนาน แต่ก็ต้องจำยอมเปิดบริการสมาชิกแบบมีโฆษณาที่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่าเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งจนถึงขณะนี้มีผู้เป็นสมาชิกในรูปแบบดังกล่าวแล้วถึง 5 ล้านคน/เดือน โดยมีสัดส่วนเป็น 25% ของจำนวนสมาชิกใหม่ทั้งหมด ทำให้เน็ตฟลิกซ์มุ่งเดินหน้าในธุรกิจโฆษณาอย่างจริงจังมากขึ้น

ขณะที่ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งรายอื่น อย่าง พาราเมาต์โกลบอล, เอ็นบีซียูนิเวอร์แซล, และวอร์เนอร์บราเธอร์สดิสคัฟเวอรี ต่างก็พยายามนำเสนอจุดเด่นของรูปแบบการสมัครสมาชิกที่มีโฆษณาของแพลตฟอร์ม เพื่อดึงดูดผู้ลงโฆษณาเช่นกัน

ทั้งนี้ การสมัครสมาชิกสตรีมมิ่งแบบมีโฆษณาที่มีราคาถูกกว่ากำลังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการสำรวจของบริษัทข้อมูลการตลาด “แอนเทนนา” (Antenna) ชี้ว่า ผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาสมัครสมาชิกสตรีมมิ่งแบบมีโฆษณา เพิ่มขึ้น 25% จาก 44.3 ล้านคนในไตรมาส 1/2022 เป็น 55.2 ล้านคนในไตรมาส 1/2023 ส่งผลให้สัดส่วนของสมาชิกสตรีมมิ่งแบบมีโฆษณาก็เพิ่มขึ้นจาก 18% ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดในปี 2020 เป็น32% ในปี 2022

อย่างไรก็ตาม การทำรายได้จากโฆษณาของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งยังคงอยู่ในระยะเริ่มต้น และยังมีคำถามว่าจะสามารถทำกำไรเพื่อชดเชยความสูญเสียที่ผ่านมาได้มากน้อยเพียงใด “โจนาธาน มิลเลอร์” ซีอีโอของบริษัทด้านการลงทุนในสื่อดิจิทัล อินทิเกรต มีเดีย ระบุว่า “เรายังไม่สามารถรู้ได้ว่าคำตอบสุดท้ายจะเป็นเช่นไร แต่การรักษาลูกค้าที่เป็นสมาชิกสตรีมมิ่งแบบไม่มีโฆษณาเอาไว้ให้ได้น่าจะมีคุณค่ามากที่สุด”

แต่ก็ดูเหมือนว่าผู้ให้บริการสตรีมมิ่งหลายรายกำลังดำเนินการตรงกันข้าม เพราะนอกจากจะเปิดตัวรูปแบบการสมัครสมาชิกแบบมีโฆษณาแล้ว ผู้ให้บริการบางรายอย่างดิสนีย์ ยังเตรียมปรับขึ้นราคาสำหรับสมาชิกสตรีมมิ่งแบบไม่มีโฆษณาในปลายปีนี้ พร้อมกับผลักดันจำนวนสมาชิกแบบมีโฆษณาให้เพิ่มมากขึ้น โดยมองว่าจะสามารถทำให้บริษัทเข้าถึงผลกำไรได้

ขณะที่วอร์เนอร์บราเธอร์สดิสคัฟเวอรีและพาราเมาต์ต่างก็ได้รับเสียงเรียกร้องจากนักลงทุนถึงความสามารถในการเพิ่มรายได้จากการให้บริการสตรีมมิ่งแบบไม่มีโฆษณา เพื่อชดเชยการขาดทุนช่วงที่ผ่านมา แม้จะมีความเสี่ยงจากการขึ้นราคาสมาชิกในช่วงที่ผู้บริโภคยังคงยากลำบากจากเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา