การแข่งม้าในสิงคโปร์ถึงจุดจบ ปิดตำนาน 180 ปี เมื่อสนามแข่งแห่งเดียวถูกรัฐเวนคืน

การแข่งม้าในสิงคโปร์ถึงจุดจบ ปิดตำนาน 180 ปี
สนามแข่งม้าแห่งเดียวของสิงคโปร์/ Photo by MOHD FYROL / AFP

การแข่งม้าในสิงคโปร์ที่มีมานานกว่า 180 ปี กำลังจะถึงจุดสิ้นสุด เนื่องจากสนามแข่งม้าเพียงแห่งเดียวในประเทศ ซึ่งบริหารโดย Singapore Turf Club จะถูกเวนคืนเพื่อใช้พื้นที่พัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัย 

สนามแข่งม้าพื้นที่ 120 เฮกตาร์ (750 ไร่) ในย่านกรันจี (Kranji) ทางตอนเหนือของสิงคโปร์จะถูกส่งคืนให้กับรัฐบาลในเดือนมีนาคม ปี 2570 เพื่อเปลี่ยนเป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ รวมถึงมีการพิจารณาที่จะสร้างสถานที่ให้บริการด้านสันทนาการและการพักผ่อนแก่ประชาชนด้วย  

การแข่งม้าครั้งสุดท้ายจะถูกจัดขึ้นในวันที่ 5 ตุลาคม 2567 เป็นการแข่งขันรายการ Grand Singapore Gold Cup ครั้งที่ 100 พอดิบพอดี 

“สิงคโปร์เป็นนครรัฐที่มีที่ดินจำกัด รัฐบาลทบทวนแผนการใช้ที่ดินอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการในปัจจุบัน ขณะเดียวกัน ก็ต้องมั่นใจว่ามีที่ดินเพียงพอสำหรับคนรุ่นต่อไป” กระทรวงการคลังและกระทรวงการพัฒนาแห่งชาติของสิงคโปร์ระบุในการแถลงข่าว 

ระบบขนส่งมวลชนข้ามพรมแดนที่เชื่อมมาเลเซียกับสิงคโปร์ที่บริเวณใกล้เคียงย่านที่อยู่อาศัยวู้ดแลนด์ส (Woodlands) มีกำหนดเปิดให้บริการในปลายปี 2569 ซึ่งคาดว่าที่ดินสนามแข่งม้าซึ่งอยู่ใกล้ย่านนี้จะถูกรวมอยู่ในโครงการปรับปรุงพื้นที่โดยรอบด้วย 

กีฬาแข่งม้าซึ่งเป็นที่นิยมของคนยุโรปเข้ามายังสิงคโปร์ในปี 2385 (ค.ศ. 1842) ยุคที่เมืองสิงคโปร์ยังเป็นส่วนหนึ่งของประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นอาณานิคมของอังกฤษ โดยวิลเลียม เฮนรี แมคลอยด์ รีด (William Henry Macleod Read) พ่อค้าชาวสกอตแลนด์ และผู้ชื่นชอบกีฬาแข่งม้าอีกหลายคนร่วมกันก่อตั้ง Singapore Sporting Club ขึ้นมาจัดการแข่งขันกีฬาแข่งม้า ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น Singapore Turf Club ในปี 2467

สนามแข่งม้าแห่งแรกของสิงคโปร์ตั้งอยู่ในย่านเฟอร์เรอร์ พาร์ก (Farrer Park) แล้วย้ายไปยังย่านบูกิต ติมาห์ (Bukit Timah) ในปี 2476 ก่อนจะย้ายมายังที่ตั้งปัจจุบัน ซึ่งเริ่มเปิดใช้ในปี 2542 

ในยุคที่การแข่งม้ายังรุ่งเรือง สนามม้าเคยเป็นสถานที่พบปะสังสรรค์ทางสังคม ซึ่งสนามแข่งม้าของสิงโปร์ก็ได้ต้อนรับบุคคลสำคัญและบุคคลมีชื่อเสียงมาแล้วจำนวนมากตลอดอายุ 180 ปีที่ผ่านมา 

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นนักแข่งม้าและนักเพาะพันธุ์ม้าตัวยงเคยเสด็จฯเยือนสนามม้าของสิงคโปร์ถึงสองครั้ง ครั้งแรกใน พ.ศ. 2515 ซึ่งตอนนั้นสนามแข่งม้ายังตั้งอยู่ที่ย่านบูกิต ติมาห์ (Bukit Timah) และครั้งที่สองเมื่อปี 2549 ที่สถานที่ปัจจุบัน 

ความนิยมกีฬาแข่งม้าในสิงคโปร์ตกต่ำลงแล้วหลายปี ผู้ชมกีฬาแข่งม้าลดลงครึ่งหนึ่งหลังจากที่กาสิโนแห่งแรกของสิงคโปร์เปิดให้บริการในปี 2553

แล้วเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ต้องปิดสนามและจัดการแข่งขันโดยไม่มีคนดูก็ยิ่งเพิ่มความยากลำบากสำหรับการบริหารสนามแข่งม้ามากขึ้นอีก 

เมื่อถึงเวลาที่รัฐต้องการเวนคืนที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์ที่จำเป็นกว่า จึงถึงจุดจบของสนามแข่งม้าในแบบที่เรียกว่า “จบสวย”

 

อ้างอิง : 

อ่านเนื้อหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง