สิงคโปร์แอร์ไลน์ส กำไร 5.5 หมื่นล้านบาท สูงสุดนับแต่ก่อตั้ง 76 ปี จ่ายโบนัส 8 เดือน

สิงคโปร์แอร์ไลน์ส
AFP / Saeed KHAN

สิงคโปร์แอร์ไลน์ส (Singapore Airlines Ltd.) ทำกำไร 2,160 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 55,135 ล้านบาท) สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งมา 76 ปี จ่ายโบนัสพนักงานจุก ๆ 8 เดือน

สำนักข่าว Bloomberg รายงานเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2566 ว่า สิงคโปร์แอร์ไลน์ส (Singapore Airlines Ltd.) มีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งมา 76 ปี ในปีงบการเงิน 2565 (1 เมษายน 2565 ถึง 31 มีนาคม 2566) และสิงคโปร์แอร์ไลน์สแจ้งว่า ยอดขายตั๋วล่วงหน้าแข็งแกร่งในทุกชั้นโดยสาร โดยจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่มีการจองตั๋วเดินทางมากที่สุดคือ ประเทศจีน ตามมาด้วยญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ 

กำไรสุทธิของกลุ่มบริษัทสิงคโปร์แอร์ไลน์ส ซึ่งรวมถึงผลประกอบการจากสกู๊ต (Scoot) อยู่ที่ 2,160 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 55,135 ล้านบาท) มีรายได้อยู่ที่ 17,780 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 453,695 ล้านบาท) ฟื้นจากปีงบการเงินก่อนหน้า (2564) ที่มีรายได้ 7,600 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 193,993 ล้านบาท) ขาดทุน 962 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 24,555 ล้านบาท) 

สิงคโปร์แอร์ไลน์สบอกว่าสามารถเพิ่มไฟลต์บินได้อย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น เมื่อความต้องการเดินทางทางอากาศเพิ่มขึ้น หลังจากที่ประเทศสิงคโปร์เปิดพรมแดนอย่างสมบูรณ์ในเดือนเมษายน 2565 และประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางเข้า-ออกประเทศ 

สิงคโปร์แอร์ไลน์ส
AFP/Roslan RAHMAN


นอกจากนั้น สิงคโปรแอร์ไลน์สแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า ดีมานด์การเดินทางทางอากาศยังคงแข็งแกร่งในไตรมาสแรกปีนี้ 

สิงคโปร์แอร์ไลน์สและสกู๊ตให้บริการผู้โดยสาร 26.5 ล้านคนในสามเดือนแรกของปีนี้ สูงกว่าทั้งปีงบการเงิน 2564 (1 เมษายน 2564 ถึง 31 มีนาคม 2565) ถึง 6 เท่า โดยจำนวนผู้โดยสารในเดือนมีนาคม 2566 เพิ่มขึ้นเป็น 79% ของระดับก่อนเกิดโควิด และเฉพาะเดือนเมษายน 2566 เดือนเดียวมีผู้โดยสาร 1.75 ล้านคน เพิ่มขึ้น 53% จากเดือนเมษายนปีที่แล้ว 

อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์แอร์ไลน์สเตือนนักลงทุนว่า อาจมีปัจจัยลบหรือความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการในอนาคต 

“ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจมหภาค รวมถึงต้นทุนที่สูง อาจสร้างความท้าทายให้กับอุตสาหกรรมการบินในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แม้ว่าราคาเชื้อเพลิงจะปรับตัวลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับที่สูงขึ้น (กว่าภาวะปกติก่อนรัสเซียบุกยูเครน)” รายงานระบุ  

นอกจากนี้ ยังคาดว่าการแข่งขันจะสูงขึ้น ขณะที่อุปสงค์การขนส่งสินค้า (cargo) มีแนวโน้มจะทรงตัวในระยะใกล้ เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์การบริโภคและการค้า 

หลังประกาศผลประกอบการในวันอังคารที่ 16 พฤษภาคม 2566 หุ้นของสิงคโปร์แอร์ไลน์สขยับขึ้น 0.3% จากระดับก่อนรายงานผลประกอบการ ไปอยู่ที่ 5.92 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อหุ้น และบริษัทได้ประกาศจ่ายเงินปันผลประจำปี 0.28 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อหุ้น

ต่อมาในวันที่ 17 พฤษภาคม 2566 หนังสือพิมพ์ Business Times รายงานว่า สิงคโปร์แอร์ไลน์สจะจ่ายโบนัสให้พนักงานเท่ากับเงินเดือนประมาณ 8 เดือน หลังจากมีกำไรสูงเป็นประวัติการณ์ โดยแบ่งเป็นโบนัสส่วนแบ่งกำไรเทียบเท่ากับค่าจ้าง 6.65 เดือน และโบนัสพิเศษสูงสุดเท่าเงินเดือน 1.5 เดือน เพื่อยกย่องการทำงานหนักและการเสียสละของพนักงานในช่วงที่เกิดโรคระบาด ส่วนผู้บริหารระดับสูงจะไม่ได้รับโบนัส