การค้นหาเรือดำน้ำ Titan ที่หายไประหว่างทริปชมซากเรือไททานิก คาดว่าเรือเหลือออกซิเจนสำหรับอยู่ใต้น้ำได้อีกเพียง 1 วันกว่า ๆ เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ตรวจพบเสียงดังกระแทกจากใต้น้ำ บ่งชี้ว่ายังมีความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิต
ภารกิจค้นหาเรือดำน้ำขนาดเล็กชื่อ “Titan” (ไททัน) ที่หายไประหว่างพานักท่องเที่ยวดำน้ำลงไปชมซากเรือไททานิก มีเวลาค้นหาเหลืออีกเพียง 1 วันกว่า ๆ เท่านั้น ตามที่เจ้าหน้าที่คาดว่าเรือดำน้ำ Titan มีออกซิเจนสำรองเพียงพอให้ผู้โดยสารอยู่ใต้น้ำได้นานสุด 96 ชั่วโมง ซึ่งคาดว่าจะครบกำหนดเวลาในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 22 มิถุนายนนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าเวลาในประเทศไทยอยู่ประมาณ 10 ชั่วโมง
- ร้อนทะลุ-โลกเดือด “เอลนีโญ” ถึง “ลานีญา” ถล่มประเทศไทย
- ปิดโรงงานยอดเพิ่มเท่าตัว จับตาธุรกิจรถมือสองเสี่ยง
- กดเงินไม่ใช้บัตร ATM พุ่ง 3 เท่า แห่เปิดใช้ข้ามแบงก์-เพิ่มค่าฟี
วันพุธที่ 21 มิถุนายน 2566 เวลา 12.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งตรงกับเวลาประมาณ 02.30 น. ตามเวลาเกาะนิวฟันด์แลนด์ ประเทศแคนาดา สำนักข่าว Reuters (รอยเตอร์) รายงานความคืบหน้าว่า การค้นหาในวันอังคารที่ผ่านมา เครื่องบินของแคนาดาตรวจพบเสียงกระแทกจากใต้น้ำในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ซึ่งบ่งชี้ว่ายังมีความหวังที่จะพบเรือดำน้ำและผู้รอดชีวิต
หน่วยยามฝั่งของสหรัฐบอกว่า หลังจากตรวจพบเสียง เจ้าหน้าที่ก็เปลี่ยนตำแหน่งค้นหาใหม่ไปยังบริเวณใกล้เคียงที่ตรวจพบเสียง โดยใช้ ROV (ยานพาหนะที่ควบคุมจากระยะไกล) แต่ก็ไม่พบเบาะแสอื่นใด แต่เจ้าหน้าที่จะยังคงดำเนินการค้นหาต่อไป ในวันพุธนี้จะค้นหาเพิ่มเติมโดยใช้หุ่นยนต์ใต้น้ำเพื่อตรวจหาที่มาของเสียงต่อไป
เจ้าหน้าที่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะและขอบเขตของเสียง รวมถึงวิธีการที่ตรวจพบเสียงเหล่านั้น แต่สำนักข่าว CNN (ซีเอ็นเอ็น) และเว็บไซต์ Rolling Stone (โรลลิงสโตน) รายงานอ้างข้อมูลจากการสื่อสารภายในของรัฐบาลสหรัฐว่า เครื่องบินของแคนาดาตรวจพบเสียงกระแทกทุก 30 นาทีในพื้นที่ค้นหา และได้ยินเสียงเพิ่มเติมอีกหลังจากการตรวจพบเสียงครั้งแรกแล้ว 4 ชั่วโมง
“ได้ยินเสียงตอบรับเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยในการกำหนดขอบเขตการวางเครื่องมือค้นหาเหนือผิวน้ำ และยังบ่งบอกถึงความหวังว่ามีผู้รอดชีวิต” CNN รายงานอ้างเอกสารภายในของรัฐบาลสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าการอัพเดตจากหน่วยยามฝั่งสหรัฐเป็นเหตุการณ์เดียวกันกับที่รายงานในบันทึกภายในของรัฐบาลสหรัฐหรือไม่
Reuters รายงานเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า ทราบชื่อนักท่องเที่ยวที่อยู่บนเรือแล้ว คนหนึ่งเป็นมหาเศรษฐีชาวอังกฤษ และอีกสองคนเป็นคู่พ่อ-ลูก เศรษฐีจากปากีสถาน
CNN รายงานชื่อคนที่อยู่ในเรือเพิ่มเติมว่า หนึ่งในนั้นคือ สต็อกตัน รัช (Stockton Rush) ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง OceanGate บริษัทให้บริการเรือดำน้ำพาชมซากเรือไททานิก และ พอล-อองรี นาร์โกเล็ต (Paul-Henri Nargeolet) ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือไททานิกชาวฝรั่งเศส
ทั้งนี้ ซากเรือไททานิกจมอยู่ใต้น้ำลึก 3,800 เมตร (12,500 ฟุต) ที่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติก ห่างจากชายฝั่งเกาะนิวฟันด์แลนด์ ประเทศแคนาดา ประมาณ 600 กิโลเมตร (370 ไมล์)
เรือบรรทุกผู้โดยสารซึ่งเป็นเรือลำใหญ่และหรูหราที่สุดในยุคนั้นชนภูเขาน้ำแข็งระหว่างการออกเดินเรือครั้งแรกจากเมืองเซาแธมป์ตัน ประเทศอังกฤษ ไปมหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ใน พ.ศ. 2455 (ค.ศ. 1912) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,500 คน จากจำนวนผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 2,200 คน
