![Exxon Exxon](https://www.prachachat.net/wp-content/uploads/2023/08/2023-07-13T123601Z_1721591115_RC2L0R9BEYPH_RTRMADP_3_DENBURY-M-A-EXXON-MOBIL-2-728x486.jpg)
เมื่อโลกกำลังเดินหน้าลดการใช้รถน้ำมัน บริษัทน้ำมันหลายบริษัทจึงเบนเข็มสู่น่านน้ำใหม่ ล่าสุดมีข่าวเอ็กซอน โมบิล (Exxon) เร่งรุกเจรจาหวังผลิตลิเทียมป้อนเทสลา (Tesla) ฟอร์ด (Ford) โฟล์กสวาเกน (Volkswagen) และบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าหลายราย
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2023 โดยอ้างคำบอกเล่าของแหล่งข่าวว่า เอ็กซอน โมบิล (Exxon Mobil Corp.) บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของโลกกำลังเจรจาเพื่อที่จะเป็นผู้จัดหาลิเทียมให้กับบริษัทรถยนต์ เทสลา (Tesla), ฟอร์ด (Ford) โฟล์กสวาเกน (Volkswagen) และบริษัทรถยนต์รายอื่น ๆ
เอ็กซอนเป็นหนึ่งในบรรดาบริษัทน้ำมันและก๊าซหลายรายที่ต้องการขยายธุรกิจไปสู่การผลิตลิเทียม เพื่อถือโอกาสคว้าประโยชน์จากความต้องการแร่ลิเทียมที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นแร่สำคัญที่ใช้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และเป็นวิธีการกระจายความหลากหลายของธุรกิจออกไปนอกเหนือจากธุรกิจเชื้อเพลิงฟอสซิล
การพูดคุยของเอ็กซอนกับบริษัทต่าง ๆ ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้น และบริษัทยังไม่ได้กำหนดแผนการดำเนินงานสำหรับธุรกิจลิเทียม อย่างไรก็ตาม การหารือที่เกิดขึ้นเป็นสัญญาณล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่าเอ็กซอนมีความสนใจในธุรกิจลิเทียมมากขึ้น
นอกจากนี้ บลูมเบิร์กอ้างคำบอกเล่าของแหล่งข่าวว่า เอ็กซอนมีการพูดคุยกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านแบตเตอรี่อย่าง ซัมซุง (Samsung) และเอส เค ออน (SK On Co.) ด้วย
การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าอย่างรวดเร็วทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้เพิ่มความเสี่ยงของปัญหาคอขวดและการขาดแคลนวัสดุที่สำคัญสำหรับผลิตแบตเตอรี่ เช่น ลิเทียม ทำให้เกิดการเร่งรีบในการลงทุนและจัดหาอุปทานให้มีความมั่นคง
ตามรายงานของ Benchmark Mineral Intelligence องค์กรที่จัดทำรายงานราคาและวิจัยตลาดแร่ระบุว่า โลกจะต้องมีเหมืองและโรงงานลิเทียมใหม่เกือบ 60 แห่ง เพื่อรองรับความต้องการแร่ลิเทียมที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเปลี่ยนจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลไปสู่พลังงานไฟฟ้า และในปี 2030 โลกจะต้องการใช้ลิเทียมมากกว่าที่ผลิตได้ในช่วงปี 2015-2022
ด้วยทิศทางของโลกที่กำลังเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงาน ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เชฟรอน (Chevron Corp.), ออกซิเดนทัล ปิโตรเลียม (Occidental Petroleum Corp.) และ ชลัมเบอร์เจอร์ (SLB) บริษัทขุดเจาะรายใหญ่ที่สุดของโลกต่างกล่าวว่า พวกเขากำลังพิจารณาหรือสำรวจโอกาสในการผลิตแร่ลิเทียมอย่างแข็งขัน ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์เองก็ยอมทุ่มเงินลงทุนในแร่ลิเทียมเช่นกัน อย่างเมื่อต้นปีนี้ เจเนอรัล มอเตอร์ส (General Motors) ประกาศลงทุน 650 ล้านดอลลาร์สหรัฐในบริษัทพัฒนาลิเทียม
แหล่งข่าวของบลูมเบิร์กบอกอีกว่า เอ็กซอนซึ่งตั้งเป้าหมายในการสกัดลิเทียมให้ได้ 100,000 ตันต่อปี กำลังสำรวจพื้นที่ขนาด 10 เอเคอร์ (25.3 ไร่) ในรัฐอาร์คันซอ สหรัฐอเมริกา แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าต้องการผลิตเองหรือร่วมมือกับบริษัทอื่น
อัลเบมาร์ล (Albemarle Corp.) บริษัทเคมีภัณฑ์ในสหรัฐเป็นหนึ่งในผู้ผลิตลิเทียมที่เอ็กซอนกำลังเจรจาด้วย โดยอัลเบมาร์ลกล่าวในแถลงการณ์ว่า “ด้วยบทบาทความเป็นผู้นำในตลาดของอัลเบมาร์ล ผู้คนมักต้องการพูดคุยกับเราอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกำลังมองหาทรัพยากรที่มีศักยภาพ”
เมื่อเร็ว ๆ นี้ เอ็กซอนได้เปิดเผยถึงทิศทางการผลิตลิเทียมโดยบอกว่า จะใช้ความเชี่ยวชาญของบริษัทในการผลิตน้ำมันและก๊าซมาใช้ในการผลิตลิเทียม โดยกำลังสำรวจการขุดแร่ลิเทียมใต้น้ำเค็มด้วยกระบวนการที่ใช้ต้นทุนต่ำกว่าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าการขุดเจาะแบบดั้งเดิม
แดร์เรน วูดส์ (Darren Woods) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานบริษัท เอ็กซอน โมบิล กล่าวระหว่างคุยกับนักวิเคราะห์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า กระบวนการขุดเจาะใต้น้ำเค็มและการสกัดลิเทียมนั้นสอดคล้องกันอย่างมากกับหลายอย่างที่เอ็กซอนทำในโรงกลั่นน้ำมันและโรงงานเคมีภัณฑ์