อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ หรือชิป มีช่วงเวลาที่ยากลำบากตลอดทั้งปีนี้ จนกระทั่งไตรมาสล่าสุด อุปสงค์และราคาก็ยังไม่ฟื้น สะท้อนให้เห็นชัดเจนจากประมาณการผลการดำเนินงานล่าสุดของ ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ (Samsung Electronics) ที่เผยแพร่ออกมาในวันนี้ (11 ตุลาคม 2023) ซึ่งหน่วยธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ยังมีแนวโน้ม “ขาดทุน” หลายล้านล้านวอน
สำนักข่าวนิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานว่า กำไรจากการดำเนินงาน (operating profit) ของซัมซุงในไตรมาสที่ 3 ปี 2023 มีแนวโน้มจะลดลง 77.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า เนื่องจากราคาชิปที่ตกต่ำต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือน
- ด่วน! โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 รัฐมนตรีใหม่ 13 ตำแหน่ง
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- ทูลเกล้า 11 รายชื่อคณะรัฐมนตรี เศรษฐา 1/1 ออก 4 เข้าใหม่ 6 ตำแหน่ง
ซัมซุงคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปีนี้จะอยู่ที่ 2.4 ล้านล้านวอน (ประมาณ 65,000 ล้านล้านบาท) รายได้ (revenue) ลดลง 12.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า เหลือ 67 ล้านล้านวอน (ประมาณ 1.82 ล้านล้านบาท) อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า รายได้ของซัมซุงเพิ่มขึ้น 11.7%
เมื่อไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ผลกำไรจากการดำเนินงานของซัมซุงลดลงมากถึง 96% ทำให้กำไรของบริษัทต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 14 ปี เนื่องจากธุรกิจชิปซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทขาดทุน แม้ว่าในไตรมาส 2 ได้ปรับลดการผลิตลงแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของซัมซุงอาจฟฟื้นขึ้นได้ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เนื่องจากผู้เล่นในอุตสาหกรรมชิปได้ปรับลดปริมาณการผลิตลง รวมถึงซัมซุงซึ่งเป็นผู้นำตลาดด้วย
ลิซ ลี (Liz Lee) รองผู้อำนวยการของบริษัทวิจัยเคาน์เตอร์พอยต์ รีเสิร์ช (Counterpoint Research) วิเคราะห์ว่า กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของซัมซุงอาจจะผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว แม้ว่ามีประมาณการว่าในไตรมาสที่ 3 นี้หน่วยธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์จะยังขาดทุนต่ออีกราว 3 ล้านล้านวอน (ประมาณ 82,000 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม การขาดทุนส่วนใหญ่ถูกชดเชยด้วยผลการดำเนินงานที่ดีของหน่วยธุรกิจโทรศัพท์มือถือและจอแสดงผล ซึ่งนำโดยโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ Galaxy Z Flip 5 และ Galaxy Fold 5 ที่เปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม
ทั้งนี้ เพื่อปรับปรุงความสามารถในการทำกำไร และป้องกันความเสี่ยงจากวัฏจักรขาลง ซัมซุงได้มุ่งเน้นไปที่การผลิตชิปหน่วยความจำขั้นสูง รวมถึงหน่วยความจำแบนด์วิธสูง (HBM) ซึ่งเป็นชิปที่สำคัญสำหรับปัญญาประดิษฐ์ (AI)
มีคาดการณ์ว่าซัมซุงจะเปิดเผยโร้ดแม็ปการพัฒนาและผลิตชิป HBM ที่งานในเมืองซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย ในสัปดาห์หน้าเพื่อดึงดูดลูกค้ามากขึ้น
ซึ่งในตลาด HBM นั้น ซัมซุงแข่งกับบริษัทเกาหลีด้วยกัน คือ เอสเค ไฮนิกซ์ (SK Hynix) ซึ่งเป็นผู้นำตลาดโดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ครึ่งหนึ่งในปี 2022 ส่วนซัมซุงตามมาเป็นอันดับ 2 ครองส่วนแบ่ง 40% ของตลาด อิงตามข้อมูลของเทรนด์ฟอร์ซ (Trendforce) บริษัทให้บริการข้อมูลการตลาดระดับโลก
