เผยแพร่ 13 ตุลาคม เวลา 13.10 อัพเดต 13 ตุลาคม เวลา 22.25 น.
การโต้กลับของอิสราเอลทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น อิสราเอลยืนยันว่ารัวระเบิดลงฉนวนกาซาแล้วอย่างน้อย 6,000 ลูก ล่าสุดฮิวแมนไรต์วอตช์ (Human Rights Watch) ยืนยันว่าอิสราเอลใช้ฟอสฟอรัสขาว ซึ่งเป็นอาวุธต้องห้าม องค์กรนานาชาติหลายองค์กรประสานเสียง การกระทำของอิสราเอลผิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ห่วงวิกฤตด้านมนุษยธรรม เรียกร้องให้ยุติสงคราม หยุดโจมตีเป้าหมายพลเมือง และเปิดทางช่วยเหลือทางมนุษยธรรม
วันที่ 13 ตุลาคม 2023 สำนักข่าวอัลจาซีรา (Al Jazeera) รายงานว่า การต่อสู้ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่ฉนวนกาซาเพิ่มขึ้นเป็น 1,537 ราย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตในอิสราเอลอยู่ที่ 1,300 ราย ผู้บาดเจ็บในฉนวนกาซา 6,612 ราย ในอิสราเอล 3,200 ราย อัพเดต ณ เวลา 00.41 น. เวลาอิสราเอล (04.41 น. เวลาไทย) วันที่ 13 ตุลาคม 2023
จากเหตุการณ์การโจมตีกันไปมาซึ่งมีการกำหนดเป้าหมายการโจมตีในแหล่งชุมชน-ที่อยู่อาศัยของพลเมือง มีองค์กรระหว่างประเทศหลายองค์กรออกมาแสดงความเป็นกังวลถึงวิกฤตด้านมนุษยธรรมของสงครามนี้อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดในวันที่ 13 ตุลาคม ฮิวแมนไรต์วอตช์ (Human Rights Watch : HRW) ยืนยันว่าอิสราเอลมีการโปรยฟอสฟอรัสขาวซึ่งเป็นวัตถุไวไฟที่ใช้ก่อเพลิงในพื้นที่ฉนวนกาซาและเลบานอน
HRW กล่าวว่า ได้ตรวจสอบวิดีโอที่ถ่ายเมื่อต้นสัปดาห์นี้ แสดงให้เห็นการระเบิดของฟอสฟอรัสขาวที่ยิงด้วยปืนใหญ่หลายครั้งเหนือท่าเรือเมืองกาซาและพื้นที่ชนบทตามแนวชายแดนอิสราเอล-เลบานอน
HRW กล่าวว่า อาวุธดังกล่าวทำให้เกิดเพลิงไหม้แผดเผาผู้คนระดับรุนแรง ทำให้สิ่งก่อสร้างและวัตถุต่าง ๆ ในบริเวณใกล้เคียงลุกไหม้
ทั้งนี้ ฟอสฟอรัสขาวเป็นอาวุธระดับรุนแรง ซึ่งสหประชาชาติ (UN) จัดไว้ในระดับเดียวกันกับระเบิดนาปาล์ม จึงถูกจัดให้เป็นอาวุธต้องห้ามภายใต้อนุสัญญาเจนีวา 1980
รายงานเสริมว่า การใช้ฟอสฟอรัสขาวในสถานที่ที่มีประชากรหนาแน่นอย่างฉนวนกาซา เพิ่มความเสี่ยงต่อพลเรือน และฝ่าฝืนกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ที่ห้ามไม่ให้พลเรือนตกอยู่ในความเสี่ยงโดยไม่จำเป็น
สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNOCHA) เปิดเผยในวันที่ 13 ตุลาคมว่า ขณะนี้ประชาชนมากกว่า 423,378 คน ในฉนวนกาซาต้องหนีออกจากบ้านของตนเอง กลายเป็นคนพลัดถิ่น เป็นผลจากการโจมตีของอิสราเอลต่อพื้นที่ฉนวนกาซาที่ถูกปิดล้อม
UNOCHA ยังได้ยื่นขอวงเงินฉุกเฉิน 294 ล้านดอลลาร์เพื่อจัดการกับ “ความต้องการที่เร่งด่วนที่สุด” ของชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาและเวสต์แบงก์
UNOCHA กล่าวว่าเงินทุนดังกล่าว “จำเป็น” สำหรับช่วยเหลือผู้คนมากกว่า 1.2 ล้านคน โดยเน้นว่ากลุ่มที่ทำงานการบรรเทาทุกข์ไม่มี “ทรัพยากรที่จำเป็นเพียงพอสำหรับการตอบสนองความต้องการของกลุ่มเปราะบางชาวปาเลสไตน์”
องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนอีกครั้งในวันที่ 13 ตุลาคมว่า ระบบสุขภาพของฉนวนกาซาถึง “จุดล่มสลาย” แล้ว และมีเวลาเพียงเล็กน้อยที่จะป้องกันภัยพิบัติด้านมนุษยธรรม
“หากไม่มีการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซาอย่างทันทีทันใด โดยเฉพาะบริการด้านสุขภาพ เวชภัณฑ์ อาหาร น้ำสะอาด เชื้อเพลิง และสิ่งของที่ไม่ใช่อาหาร องค์กรพันธมิตรด้านมนุษยธรรมและด้านสุขภาพจะไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการเร่งด่วนของผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างยิ่ง ซึ่งแต่ละชั่วโมงที่เสียไปนั้นทำให้ชีวิตของผู้คนตกอยู่ในความเสี่ยงมากขึ้น” องค์การอนามัยโลกระบุในแถลงการณ์
“WHO เรียกร้องให้ยุติสงคราม และเรียกร้องให้มีการปกป้องระบบการดูแลสุขภาพและพลเรือนจากการโจมตี”
“WHO ยังเรียกร้องให้เปิดช่องทางมนุษยธรรม (humanitarian corridor) โดยทันที เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อจำกัดในการเข้าถึงด้านสุขภาพและสิ่งของด้านมนุษยธรรม ตลอดจนบุคลากร และการอพยพผู้ป่วยและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ”
ก่อนหน้านั้น วันที่ 11 ตุลาคม 2023 สหประชาชาติ (UN) เผยแพร่คำกล่าวของ อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งแสดงความกังวลกับการโจมตีฉนวนกาซาโดยอิสราเอล
“ผมขอเรียกร้องให้ปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลทั้งหมดที่ถูกจับในฉนวนกาซาโดยทันที”
“พลเรือนจะต้องได้รับการคุ้มครองตลอดเวลา กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศจะต้องได้รับการเคารพและยึดถือ”
“สิ่งของที่สำคัญต่อการช่วยชีวิต รวมถึงเชื้อเพลิง อาหาร และน้ำ จะต้องได้รับอนุญาตให้เข้าไปในฉนวนกาซา เราต้องการการเข้าถึงด้านมนุษยธรรมอย่างรวดเร็วและไม่มีอุปสรรคในตอนนี้” เลขาธิการ UN กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายองค์กรที่ได้แสดงความเห็นถึงความกังวลและเรียกร้องในประเด็นเดียวกันนี้
ต่อมา 13.52 น. เวลาอิสราเอล ซึ่งตรงกับ 17.52 น. ตามเวลาไทย วันที่ 13 ตุลาคม องค์กรสิทธิมนุษยชน “แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล” (Amnesty International) เป็นอีกองค์กรที่เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ โดยโพสต์ข้อความใน X ว่า กำลังสอบสวนสิ่งที่ดูเหมือนว่าจะเป็นการใช้ฟอสฟอรัสขาวในฉนวนกาซา รวมถึงการโจมตีโต้กลับของอิสราเอลใกล้โรงแรมแห่งหนึ่งบนชายหาดในเมืองกาซา
อย่างไรก็ตาม ในเวลา 17.03 น. ตามเวลาอิสราเอล ซึ่งตรงกับ 21.03 น. ตามเวลาประเทศไทย วันที่ 13 ตุลาคม อัลจาซีรารายงานว่า กองทัพอิสราเอลปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวว่า ไม่ได้ใช้ฟอสฟอรัสขาวในการปฏิบัติการทางทหารในการโจมตีฉนวนกาซา และเรียกข้อกล่าวหาเหล่านี้ว่า “เป็นความเท็จอย่างชัดเจน”
- ดูคำกล่าว ปธน.ปาเลสไตน์มีท่าที-ความเห็นอย่างไรต่อสงครามอิสราเอล-ฮามาส
- อิสราเอลเอาคืนขั้นหนัก ทิ้งระเบิดถล่มฉนวนกาซาแล้ว 6,000 ลูก
- อิสราเอล VS ฮามาส : อัพเดตสถานการณ์ล่าสุด
- “ผมอยากออกจากพื้นที่เสี่ยง” เสียงแรงงานไทยในอิสราเอลที่รอคอยการช่วยเหลือ
- เปิดชื่อแรงงานไทยในอิสราเอล 119 คน กต.นำเดินทางกลับประเทศชุด 2-3
- เหตุผลที่ “ฮามาส” เลือกโจมตี “อิสราเอล” ในวันที่ 7 ตุลาคม 2023