ประวัติตัวเต็งประธานาธิบดีไต้หวัน ไล่ ชิงเต๋อ VS โหว โหย่วอี๋ 

เลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน
ไล่ ชิงเต๋อ (เสื้อเขียว) โหว โหย่วอี๋ (เสื้อขาว)

การเลือกตั้งไต้หวันในวันที่ 13 มกราคมนี้ เป็นการเลือกตั้งที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 เนื่องจากผลการเลือกตั้งจะเป็นตัวกำหนดระดับความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวัน และกำหนดความสัมพันธ์ของสหรัฐกับจีน ซึ่งมีความหมายว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นตัวชี้ชะตาเสถียรภาพของโลก

การเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันสมัยนี้ เป็นครั้งที่ว่ากันว่ามีความสูสีมากที่สุดนับตั้งแต่ไต้หวันเข้าสู่ยุคประชาธิปไตยที่แท้จริง 

ผลโพลล์ในโค้งสุดท้าย อัพเดตล่าสุดก่อนการเลือกตั้ง 11 วัน คนที่มีคะแนนนิยมนำมาเป็นอันดับ 1 คือ ไล่ ชิงเต๋อ (Lai Ching-Te) จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (Democratic Progressive Party: DPP) กับอันดับ 2 โหว โหย่วอี๋ (Hou yu-ih) จากพรรคก๊กมินตั๋ง (Kuomintang: KMT) มีคะแนนห่างกันเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ คือ 38.9% และ 35.8% ตามลำดับ โดยมี โก เหวินเจ๋อ (Ko Wen-je) จากพรรคประชาชนไต้หวัน (Taiwan People’s Party: TPP) เป็นคู่แข่งอีกคนที่มีคะแนนนิยมมากถึง 22.4% 

“ประชาชาติธุรกิจ” ขอชวนรู้จักตัวเต็งสองคน ก่อนจะทราบกันว่าใครจะได้เป็น “ประธานาธิบดีไต้หวัน” หลังการเลือกตั้งในวันที่ 13 มกราคมนี้ 

ไล่ ชิงเต๋อ ลูกคนงานเหมือง อดีตแพทย์ สู่ว่าที่ประธานาธิบดี

ไล่ ชิงเต๋อ หรือเป็นที่รู้จักในชื่อภาษาอังกฤษว่า “วิลเลียม ไล” (William Lai) อายุ 64 ปี ปัจจุบันเขาเป็น “รองประธานาธิบดีไต้หวัน” และเป็นประธานพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (Democratic Progressive Party: DPP) 

ไล่ ชิงเต๋อ เกิดวันที่ 6 ตุลาคม 1959 ที่เมืองว่านหลี ซึ่งปัจจุบันอยู่ในนครนิวไทเป เขาเกิดในครอบครัวที่ไม่ได้มาจากชนชั้นปกครองเดิมแต่อย่างใด โดยพ่อของเขาเป็นคนงานในเหมืองถ่านหิน อย่างไรก็ตาม เขาได้รับการศึกษาระดับดีเยี่ยม 

ADVERTISMENT

เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านการแพทย์สาขาเวชศาสตร์ฟื้นฟู จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน (National Taiwan University) และได้รับประกาศนียบัตรวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติเฉิงกง (National Cheng Kung University) แล้วจบปริญญาโทสาขาสาธารณสุขศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) ทำให้เขาเป็นหนึ่งในแพทย์ไม่กี่คนในไต้หวันที่เชี่ยวชาญทั้งด้านการฟื้นฟูสมรรถภาพ การดูแลทางคลินิก และเชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข 

ไล่ ชิงเต๋อ
ไล่ ชิงเต๋อ ระหว่างหาเสียง (ภาพโดย Ann Wang/ REUTERS)

หลังทำงานในอาชีพแพทย์มาเป็นเวลาหลายปี เขากระโดดเข้าสู่การเมือง โดยเขาเริ่มมีส่วนร่วมทางการเมืองในปี 1994 ขณะที่เขาอยู่ในแหน่งหัวหน้าแพทย์ประจำโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติเฉิงกง ในเวลานั้น ไต้หวันกำลังจะจัดการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นแบบทางตรงครั้งแรก และเขาได้มีส่วนร่วมในตำแหน่งหัวหน้าสมาคมแพทย์ไถหนานที่สนับสนุน เฉิน ถิงหนาน (Chen Ting-nan) จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ชิงตำแหน่งผู้ว่าการเมืองไถหนาน 

ADVERTISMENT

ต่อมา ในช่วงเกิดวิกฤตการณ์ช่องแคบไต้หวันปี 1996 เขาตัดสินใจละทิ้งอาชีพแพทย์เพื่อเข้าสู่การเมืองอย่างเป็นทางการ ซึ่งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน (National Assembly representatives) ในปีนั้น เขาได้รับเลือกให้เป็นผู้แทนประชาชนจากเมืองไถหนาน 

ในปี 1998 ไล่ ชิงเต๋อ ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติโดยเป็นตัวแทนเมืองไถหนาน และด้วยการใช้ความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ของเขา เขามีบทบาทสำคัญในคณะกรรมการสวัสดิการสังคมและสุขอนามัยสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาในท้องถิ่นมากหมายหลายประเด็น และประชาชนไถหนานก็ตอบแทนโดยเลือกเขาให้ดำรงตำแหน่งสภานิติบัญญัติ 4 วาระติดต่อกัน (1998-2010)

เขาเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติ และเคยชิงตำแหน่งตัวแทนสมัครประธานาธิบดีกับไช่ อิงเหวิน แต่พ่ายแพ้ แล้วเขาก็ได้ดำรงตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” ในปี 2017-2019 ในวาระแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของ ไช่ อิงเหวิน ต่อมาเขาได้เป็นรองประธานาธิบดี เมื่อไช่ อิงเหวิน ชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีสมัยที่สอง 

สำหรับจุดยืนทางการเมืองของ ไล่ ชิงเต๋อ โดยทั่วไปก็เหมือนกับจุดยืนของพรรค DPP ที่สนับสนุนเอกราชของไต้หวัน แต่เมื่อเข้าใกล้วันเลือกตั้ง ไล่ ชิงเต๋อ ก็ได้ลดระดับความเดือดลง เพื่อลดแรงเสียดทานและเพื่อดึงคะแนนจากชาวไต้หวันที่หวั่นเกรงว่าจะเกิดสงคราม โดยเขาประกาศเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2024 ว่า หากได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี เขาจะรักษาสถานะที่เป็นอยู่ในปัจจุบันระหว่างไต้หวันกับจีน และจะเปิดการเจรจา-การมีส่วนร่วมกับรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่บนพื้นฐานความเสมอภาค

โหว โหย่วอี๋ ลูกเจ้าของเขียงหมู อดีตตำรวจ สู่ว่าที่ประธานาธิบดี

สำหรับแคนดิเดตจากพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) นามว่า โหว โหย่วอี๋ (Hou yu-ih) อายุ 66 ปี เกิดวันที่ 7 มิถุนายน 1957 ในครอบครัวที่เป็นเจ้าของร้านขายหมู ในเมืองผูจี้ เขตเอียจี้ ในวัยเด็กเขาเคยช่วยทำงานในกิจการของครอบครัว ทั้งจับหมูและแล่เนื้อหมูขาย 

เขาจบการศึกษาจากวิทยาลัยตำรวจแห่งชาติ หรือโรงเรียนายร้อยของไต้หวัน (Central Police University) แล้วเข้าสู่อาชีพตำรวจ ซึ่งเขาได้รับการยอมรับว่าเป็นตำรวจฝีมือดี 

เขามีชื่อเสียงมากขึ้นจากการทำคดีดัง คือ คดีการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี เฉิน สุยเปี่ยน (Chen Shui-bian) ซึ่งนั่นทำให้เขาเติบโตในสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างรวดเร็ว โดยในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2006 เข้าได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติของไต้หวัน ซึ่งถือเป็นผู้นำตำรวจที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ไต้หวัน ณ เวลานั้น จากนั้นเขาได้รับตำแหน่งอธิการบดีวิทยาลัยตำรวจแห่งชาติในช่วงปี 2008-2010 

โหว โหย่วอี๋
โหว โหย่วอี๋ ระหว่างการหาเสียง (ภาพโดย Ann Wang/ REUTERS)

ในปี 2010 เขาหันหัวเรือเข้าสู่การเมือง โดยเริ่มจากการเป็นรองนายกเทศมนตรีนครนิวไทเป ซึ่งในขณะนั้น จู หลี่หลุน (Chu Li-luan) หรือ อีริค จู (Eric Chu) เป็นนายกเทศมนตรี 

แล้วจากนั้น ในปี 2018 เขาได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองนิวไทเปด้วยคะแนนเสียง 1,165,130 เสียง (คิดเป็น 57.15% ของคะแนนทั้งหมด) ซึ่งเป็นคะแนนมากที่สุดเท่าที่ผู้สมัครของพรรคก๊กมินตั๋งเคยได้รับในการลงสมัครรับเลือกตั้งในระดับผู้บริหารเมือง ต่อมาเมื่อปี 2022 เขาชนะเลือกตั้งอีกสมัยด้วยคะแนน 1,152,555 คะแนน (คิดเป็น 62.42% ของคะแนนทั้งหมด) 

โหว โหย่วอี๋ มีจุดยืนทางการเมืองและต่อประเด็นจีน-ไต้หวัน ตรงตามจุดยืนของพรรคก๊กมินตั๋ง คือ คัดค้านการประกาศเอกราชของไต้หวัน และสนับสนุนหลักการจีนเดียว แต่การตีความหลักการจีนเดียวของรัฐบาลจีนกับพรรคก๊กมินตั๋งมีมุมที่ต่างกัน ณ ปัจจุบัน โหว โหย่วอี๋ กับก๊กมินตั๋งต้องการรักษาสถานะปัจจุบันระหว่างไต้หวันกับจีนเอาไว้ และต้องการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกัน ต้องการให้มีการเจรจาการค้าและค้าขายกันมากขึ้น