เรือชนสะพานถล่มในสหรัฐ กระทบเศรษฐกิจ การขนส่งสินค้าเป็นอัมพาต

เรือขนส่งสินค้าชนสะพาน ฟรานซิส สก๊อต คีย์ บริดจ์
เรือขนส่งสินค้าชนสะพาน ฟรานซิส สก๊อต คีย์ บริดจ์ ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกา พังถล่ม เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2024 (ภาพโดย Julia Nikhinson/ REUTERS)

เกิดเหตุเรือขนส่งสินค้าชนสะพานถล่มในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกา การค้าผ่านท่าเรือบัลติมอร์ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือสำคัญของสหรัฐหยุดชะงัก

เมื่อเวลาประมาณ 01.35 น. วันอังคารที่ 26 มีนาคม ตามเวลาท้องถิ่นรัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกา เกิดเหตุเรือสินค้าพุ่งชนสะพาน “ฟรานซิส สกอต คีย์ บริดจ์” (Francis Scott Key Bridge) ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำปาทัปสโก ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้สะพานพังถล่มลงมา ส่งผลให้มีคนร่วงตกลงไปในแม่น้ำราว 20 คน รวมถึงรถยนต์หลายคัน ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังช่วยเหลือ โดยปฏิบัติการกู้ภัยครั้งนี้อาจกินเวลาหลายวัน 

บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า เรือขนส่งสินค้าที่ชนสะพานมีชื่อว่า “ต้าหลี่” (Dali) น้ำหนักเรือ 32,000 ตัน (เฉพาะตัวเรือ ไม่รวมสินค้า) เป็นของบริษัท เกรซ​โอเชียน (Grace Ocean) จากสิงคโปร์ เดินเรือภายใต้ธงประเทศสิงคโปร์ บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ประมาณ 4,900 ตู้ ณ ขณะเกิดเหตุ 

เดอะการ์เดียน (The Guardian) รายงานว่า เรือลำนี้สร้างในเกาหลีใต้เมื่อปี 2005 โดยฮุนได เฮฟวี อินดัสทรีส์ (Hyundai Heavy Industries) ปัจจุบันเรือลำนี้ถูกเช่าเหมาลำโดยเมอส์ก (Maersk) ยักษ์ขนส่งทางทะเลจากเดนมาร์ก 

หน่วยงานการเดินเรือและการท่าเรือแห่งชาติของสิงคโปร์ (MPA) ยืนยันว่า เรือต้าหลี่จดทะเบียนในสิงคโปร์ และมีลูกเรือ 22 คนอยู่บนเรือขณะเกิดเหตุ ส่วนเมอส์กกล่าวเสริมในแถลงการณ์ว่า ลูกเรือทั้งหมดเป็นชาวอินเดีย แต่ไม่มีบุคลากรของเมอส์กเองอยู่บนเรือ

ตามการรายงานของบลูมเบิร์ก เวส มัวร์ (Wes Moore) ผู้ว่าการรัฐแมริแลนด์ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินหลังเกิดเหตุ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งกล่าวว่า ทำเนียบขาวกำลังติดตามเหตุการณ์นี้ และเสริมว่ายังไม่มีร่องรอยของเจตนาร้ายใด ๆ 

แผนที่เมือบัลติมอร์และเมืองใกล้เคียง ซึ่งเห็นที่ตั้งสะพาน “ฟรานซิส สกอต คีย์ บริดจ์” ที่เกิดเหตุ (ภาพจาก Google Maps)

สำหรับสะพานที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับท่าเรือบัลติมอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือขนส่งสินค้าที่ใหญ่อันดับต้น ๆ ของสหรัฐอเมริกา ทั้งในแง่ปริมาณและมูลค่าสินค้าที่ขนส่งผ่านท่าเรือนี้ โดยสามารถรองรับสินค้าได้มากกว่า 10 ล้านตันต่อปี และเป็นท่าเรือที่มีการนำเข้าและส่งออกรถยนต์นั่งโดยสารส่วนบุคคลและรถบรรทุกขนาดเล็กมากที่สุดในสหรัฐ 

บลูมเบิร์กรายงานว่า เหตุสะพานพังถล่มจะทำให้เกิดการหยุดชะงักครั้งใหญ่ ทั้งการขนส่งสินค้าทางทะเลที่ท่าเรือบัลติมอร์ ซึ่งเป็นท่าเรือพลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งบนชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา และบนท้องถนน ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างนิวยอร์กกับกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.  

สะพานฟรานซิส สกอต คีย์ บริดจ์ ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกา พังถล่ม จากเหตุเรือขนส่งสินค้าชน เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2024 (ภาพโดย Julia Nikhinson/ REUTERS)

ณ ขณะนี้มีเรืออย่างน้อย 21 ลำที่ลอยอยู่ในน่านน้ำทางทิศตะวันตกของสะพานที่ถล่ม โดยประมาณครึ่งหนึ่งเป็นเรือลากจูง ส่วนที่เหลือเป็นเรือบรรทุกสินค้าเทกองอย่างน้อย 3 ลำ เรือบรรทุกยานพาหนะ 1 ลำ และเรือบรรทุกน้ำมันขนาดเล็ก 1 ลำ ทำให้เกิดคำถามว่าเรือเหล่านั้นจะแล่นออกไปจากบริเวณนี้ได้ง่ายหรือยากเพียงใด และอีกคำถามสำคัญคือ จะมีท่าเรืออื่นที่สามารถรองรับเรือบรรทุกรถยนต์ได้หรือไม่ หากท่าเรือบัลติมอร์ต้องปิดทำการเป็นเวลานาน 

นอกเหนือจากปัญหาการจราจรติดขัดซึ่งมีสาเหตุมาจากการปิดสะพานแล้ว บริษัทชั้นนำหลายแห่งยังมีโกดังกระจายสินค้าหรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ในนิคมอุตสาหกรรมทางตอนเหนือสุดของสะพาน ซึ่งรวมถึงแอมะซอน (Amazon.com) เฟดเอ็กซ์ (FedEx) อันเดอร์ อาร์เมอร์ (Under Armour) โฮม ดีโปต์ (Home Depot) บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) และโฟล์คสวาเกน (Volkswagen) ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ด้วยเช่นกัน

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานเพิ่มเติมว่า กระทรวงการต่างประเทศของไทยแจ้งต่อสื่อมวลชนในเวลา 21.55 น. วันที่ 26 มีนาคม ตามเวลาประเทศไทยว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตันรายงานว่า จากการตรวจสอบกับสมาคมคนไทย นักเรียนนักศึกษาไทย และชุมชนไทยในพื้นที่ ยังไม่พบว่ามีคนไทยบาดเจ็บหรือได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด โดยสถานเอกอัครราชทูตจะตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป