เกิดเหตุเรือขนส่งสินค้าชนสะพานถล่มในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกา การค้าผ่านท่าเรือบัลติมอร์ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือสำคัญของสหรัฐหยุดชะงัก
เมื่อเวลาประมาณ 01.35 น. วันอังคารที่ 26 มีนาคม ตามเวลาท้องถิ่นรัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกา เกิดเหตุเรือสินค้าพุ่งชนสะพาน “ฟรานซิส สกอต คีย์ บริดจ์” (Francis Scott Key Bridge) ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำปาทัปสโก ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้สะพานพังถล่มลงมา ส่งผลให้มีคนร่วงตกลงไปในแม่น้ำราว 20 คน รวมถึงรถยนต์หลายคัน ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังช่วยเหลือ โดยปฏิบัติการกู้ภัยครั้งนี้อาจกินเวลาหลายวัน
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า เรือขนส่งสินค้าที่ชนสะพานมีชื่อว่า “ต้าหลี่” (Dali) น้ำหนักเรือ 32,000 ตัน (เฉพาะตัวเรือ ไม่รวมสินค้า) เป็นของบริษัท เกรซโอเชียน (Grace Ocean) จากสิงคโปร์ เดินเรือภายใต้ธงประเทศสิงคโปร์ บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ประมาณ 4,900 ตู้ ณ ขณะเกิดเหตุ
เดอะการ์เดียน (The Guardian) รายงานว่า เรือลำนี้สร้างในเกาหลีใต้เมื่อปี 2005 โดยฮุนได เฮฟวี อินดัสทรีส์ (Hyundai Heavy Industries) ปัจจุบันเรือลำนี้ถูกเช่าเหมาลำโดยเมอส์ก (Maersk) ยักษ์ขนส่งทางทะเลจากเดนมาร์ก
หน่วยงานการเดินเรือและการท่าเรือแห่งชาติของสิงคโปร์ (MPA) ยืนยันว่า เรือต้าหลี่จดทะเบียนในสิงคโปร์ และมีลูกเรือ 22 คนอยู่บนเรือขณะเกิดเหตุ ส่วนเมอส์กกล่าวเสริมในแถลงการณ์ว่า ลูกเรือทั้งหมดเป็นชาวอินเดีย แต่ไม่มีบุคลากรของเมอส์กเองอยู่บนเรือ
ตามการรายงานของบลูมเบิร์ก เวส มัวร์ (Wes Moore) ผู้ว่าการรัฐแมริแลนด์ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินหลังเกิดเหตุ ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งกล่าวว่า ทำเนียบขาวกำลังติดตามเหตุการณ์นี้ และเสริมว่ายังไม่มีร่องรอยของเจตนาร้ายใด ๆ
สำหรับสะพานที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กับท่าเรือบัลติมอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือขนส่งสินค้าที่ใหญ่อันดับต้น ๆ ของสหรัฐอเมริกา ทั้งในแง่ปริมาณและมูลค่าสินค้าที่ขนส่งผ่านท่าเรือนี้ โดยสามารถรองรับสินค้าได้มากกว่า 10 ล้านตันต่อปี และเป็นท่าเรือที่มีการนำเข้าและส่งออกรถยนต์นั่งโดยสารส่วนบุคคลและรถบรรทุกขนาดเล็กมากที่สุดในสหรัฐ
บลูมเบิร์กรายงานว่า เหตุสะพานพังถล่มจะทำให้เกิดการหยุดชะงักครั้งใหญ่ ทั้งการขนส่งสินค้าทางทะเลที่ท่าเรือบัลติมอร์ ซึ่งเป็นท่าเรือพลุกพล่านที่สุดแห่งหนึ่งบนชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา และบนท้องถนน ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างนิวยอร์กกับกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ณ ขณะนี้มีเรืออย่างน้อย 21 ลำที่ลอยอยู่ในน่านน้ำทางทิศตะวันตกของสะพานที่ถล่ม โดยประมาณครึ่งหนึ่งเป็นเรือลากจูง ส่วนที่เหลือเป็นเรือบรรทุกสินค้าเทกองอย่างน้อย 3 ลำ เรือบรรทุกยานพาหนะ 1 ลำ และเรือบรรทุกน้ำมันขนาดเล็ก 1 ลำ ทำให้เกิดคำถามว่าเรือเหล่านั้นจะแล่นออกไปจากบริเวณนี้ได้ง่ายหรือยากเพียงใด และอีกคำถามสำคัญคือ จะมีท่าเรืออื่นที่สามารถรองรับเรือบรรทุกรถยนต์ได้หรือไม่ หากท่าเรือบัลติมอร์ต้องปิดทำการเป็นเวลานาน
นอกเหนือจากปัญหาการจราจรติดขัดซึ่งมีสาเหตุมาจากการปิดสะพานแล้ว บริษัทชั้นนำหลายแห่งยังมีโกดังกระจายสินค้าหรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ในนิคมอุตสาหกรรมทางตอนเหนือสุดของสะพาน ซึ่งรวมถึงแอมะซอน (Amazon.com) เฟดเอ็กซ์ (FedEx) อันเดอร์ อาร์เมอร์ (Under Armour) โฮม ดีโปต์ (Home Depot) บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) และโฟล์คสวาเกน (Volkswagen) ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ด้วยเช่นกัน
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานเพิ่มเติมว่า กระทรวงการต่างประเทศของไทยแจ้งต่อสื่อมวลชนในเวลา 21.55 น. วันที่ 26 มีนาคม ตามเวลาประเทศไทยว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตันรายงานว่า จากการตรวจสอบกับสมาคมคนไทย นักเรียนนักศึกษาไทย และชุมชนไทยในพื้นที่ ยังไม่พบว่ามีคนไทยบาดเจ็บหรือได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด โดยสถานเอกอัครราชทูตจะตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป