
ทิม คุก (Tim Cook) ซีอีโอแอปเปิล (Apple) เยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีจุดหมายปลายทางหลักอยู่ที่ “เวียดนาม” แล้วบินข้ามไทยไปที่อินโดนีเซีย ตามด้วยสิงคโปร์
ทุกที่ ทิม คุก ไปเยือน มีกิจกรรมที่มีนัยสำคัญคือ การประกาศการลงทุนในประเทศนั้น ๆ ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของอาเซียนในฐานะ “ฐานการผลิต” ของแอปเปิล ขณะที่แอปเปิลกำลังสำรวจทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับการย้ายฐานการผลิตบางส่วนออกจากจีน เพื่อลดความเสี่ยงทางภูมิศาสตร์ โดยมีเวียดนามและอินเดียเป็นทางเลือกหลักที่แอปเปิลได้เลือกไปแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ในขณะเดียวกัน แอปเปิลก็กำลังพยายามจะเพิ่มยอดขายในตลาดอาเซียน ซึ่งมีประชากรมากถึง 650 ล้านคน เพื่อชดเชยยอดขายในประเทศจีนที่หดตัวลง
ขณะเยือนเวียดนามในวันที่ 15-16 เมษายน 2024 ซีอีโอแอปเปิลได้ให้คำมั่นว่า แอปเปิลจะใช้ส่วนประกอบและอุปกรณ์เสริมจากซัพพลายเออร์ในเวียดนามมากขึ้น และกล่าวว่าแอปเปิลต้องการส่งเสริมการลงทุนที่มีคุณภาพและกิจกรรมความร่วมมือต่าง ๆ ในเวียดนาม
แอปเปิลระบุในแถลงการณ์ว่า บริษัทกำลังเพิ่มภาระผูกพันการลงทุนในเวียดนาม โดยไม่ได้ระบุจำนวนเงิน
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา แอปเปิลใช้จ่ายเงินในเวียดนามแล้วเกือบ 400 ล้านล้านดอง (ประมาณ 578,500 ล้านบาท) ผ่านบริษัทต่าง ๆ ในห่วงโซ่อุปทานที่ดำเนินการในเวียดนาม
ปัจจุบัน บริษัทซัพพลายเออร์ของแอปเปิลมีโรงงานในเวียดนามรวมกันมากกว่า 70 แห่ง และมีพนักงานรวมกันมากกว่า 250,000 คน

ด้าน “ฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์” (Pham Minh Chinh) นายกรัฐมนตรีเวียดนามกล่าวว่า รัฐบาลจะจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะเพื่อสนับสนุนขยายการลงทุนของแอปเปิลในเวียดนาม ในทางกลับกัน เขาได้ขอความช่วยเหลือจาก ทิม คุก ในด้านการพัฒนาคนทำงานให้มีคุณภาพสูง และขอให้แอปเปิลสนับสนุนซัพพลายเออร์ให้ใช้บริการบริษัทเวียดนามมากขึ้น เพื่อให้บริษัทเวียดนามสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งในห่วงโซ่อุปทานของแอปเปิล
ออกจากเวียดนาม ทิม คุก ไปต่อที่อินโดนีเซียในวันที่ 17-18 เมษายน ซึ่งเขาได้กล่าวตอบสนองต่อคำเชิญชวนลงทุนของประธานาธิบดี โจโก วิโดโด (Joko Widodo) ของอินโดนีเซีย ว่าแอปเปิลจะพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะผลิตสินค้าในอินโดนีเซีย
“เราได้พูดคุยเกี่ยวกับความปรารถนาของประธานาธิบดีที่จะเห็นการผลิตในประเทศนี้ และนั่นเป็นสิ่งที่เราจะพิจารณา … ความสามารถในการลงทุนในอินโดนีเซียนั้นไม่มีที่สิ้นสุด” ทิม คุก กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังพบปะกับวิโดโด และเจ้าหน้าที่รัฐบาลอินโดนีเซีย
ระหว่างที่ ทิม คุก เยือนอินโดนีเซีย แอปเปิลได้เปิด “แอปเปิล ดีเวลอปเปอร์ อะคาเดมี” (Apple Developer Academy) บนเกาะบาหลี เป็นแห่งที่ 4 ในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตอบสนองต่อกฎการค้าของอินโดนีเซีย ที่กำหนดให้สินค้าบางรายการต้องมีส่วนประกอบและซอฟต์แวร์ที่ผลิตภายในประเทศ ทั้งนี้ แอปเปิลได้ลงทุนไปแล้ว 1.6 ล้านล้านรูเปียห์อินโดนีเซีย (ประมาณ 3,636 ล้านบาท) ในอะคาเดมีทั้ง 4 แห่ง

จัดหาโดย AFP)
ซีอีโอแอปเปิลปิดท้ายทริปอาเซียนที่สิงคโปร์ในวันที่ 18-19 เมษายน โดยพบกับทั้ง “ลี เซียนลุง” (Lee Hsien Loong) นายกรัฐมนตรีที่กำลังจะลงจากตำแหน่ง และ “ลอว์เรนซ์ หว่อง” (Lawrence Wong) ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไป
แอปเปิลซึ่งมีสำนักงานศูนย์กลางของภูมิภาคอยู่ในสิงคโปร์ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 17 เมษายนว่า มีแผนลงทุน 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9,190 ล้านบาท) เพื่อขยายสำนักงานในสิงคโปร์ ซึ่งปัจจุบันมีพนักงานกว่า 3,600 คน และการขยายสำนักงานจะช่วยให้มีพื้นที่สำหรับบทบาทงานใหม่ ๆ ในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และอื่น ๆ
หากพิจารณาเส้นทางการทัวร์อาเซียนของ ทิม คุก จะเห็นว่า มากไปกว่าการเน้นย้ำถึงความสำคัญของอาเซียนที่มีต่อแอปเปิล ทั้งในฐานะ “ฐานการผลิต” และ “ตลาด” แล้ว การเลือกเยือนบางประเทศในอาเซียนของซีอีโอแอปเปิล เป็นการเน้นย้ำภาพกระแสการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ซึ่งมีข้อมูลออกมาให้เห็นก่อนหน้านี้แล้วว่า ในช่วงหลายปีหลัง ๆ มานี้ FDI ที่ไหลเข้าอาเซียนนั้น ส่วนใหญ่ไหลเข้า 2 ประเทศ คือเวียดนามและอินโดนีเซีย