หลายปีแล้วที่ “เวียดนาม” ก้าวขึ้นเป็นประเทศเนื้อหอม เป็นศูนย์กลางการผลิตอีกแห่งในเอเชีย และเป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ สำหรับบริษัทที่ต้องการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน หรือหาฐานการผลิตเพิ่มนอกประเทศจีนเพื่อกระจายความเสี่ยงจากความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐ
ในปี 2023 เวียดนามดึงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ได้เป็นมูลค่าการลงทุน 36,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,313,555 ล้านบาท)
การลงทุนของต่างชาติในเวียดนามกระจายในหลายเมือง (จังหวัด) ทั้งตอนบนและตอนใต้ของประเทศ ซึ่ง 6 เมืองที่ดึงดูดการลงทุนได้มากที่สุด ได้แก่
อันดับ 1 : โฮจิมินห์
โฮจิมินห์ เมืองที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ ครองส่วนแบ่ง FDI ในสัดส่วนที่สูงในปี 2023 ด้วยทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 5,850 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เมืองศูนย์กลางทางการเงินของเวียดนาม และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศแห่งนี้กลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดการลงทุนด้วยปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน ทั้งการมีท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีสนามบินนานาชาติที่พลุกพล่านที่สุดและตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประชากรประมาณ 9 ล้านคน ซึ่ง 5 ล้านคนเป็นวัยกำลังแรงงาน มีมหาวิทยาลัยนานาชาติและสถาบันฝึกอบรมหลายแห่งที่ผลิตแรงงานที่มีทักษะความสามารถค่อนข้างสูง
อีกทั้ง นครโฮจิมินห์มีประวัติความสำเร็จในการลงทุนของนักลงทุนจากต่างประเทศ ตลอดจนนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนจากต่างประเทศ
ปัจจัยเหล่านี้ มีส่วนหนุนเสริมให้โฮจิมินห์เป็นจุดหมายปลายทาง FDI อันดับ 1 ของเวียดนาม
อันดับ 2 : ไฮฟอง
ไฮฟองเป็นเมืองท่าที่ได้ต้อนรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเป็นมูลค่า 3,260 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023
เมืองไฮฟองอยู่ทางตอนเหนือฝั่งตะวันออกของประเทศ อยู่ห่างจากฮานอยไปทางตะวันออกประมาณ 120 กิโลเมตร เป็นเมืองชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของเวียดนาม ในปี 2021 มีประชากรมากเป็นอันดับ 7 ของประเทศ
เมืองนี้ก่อตั้งโดยชาวฝรั่งเศส และกลายเป็นเมืองที่สำคัญในด้านอุตสาหกรรมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ท่าเรือริมแม่น้ำกั๊ม (Cam River) ในเมืองนี้เป็นหนึ่งในท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม และมีกำลังรองรับการขนส่งสินค้าออกสู่ทะเลได้จำนวนมาก ทำให้จังหวัดนี้เป็นหนึ่งในจังหวัดที่ดึงดูดบริษัทต่างชาติมากที่สุด
อันดับ 3 : กว๋างนินห์
เมืองกว๋างนินห์ หรือจังหวัดกว๋างนินห์ เมืองทางตอนเหนือฝั่งตะวันออกของประเทศที่มีชื่อเสียงจากการเป็นจังหวัดที่ตั้งของ “ฮาลองเบย์” แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ กว๋างนินห์ดึงดูดการลงทุนได้มาก เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับไฮฟองที่เป็นเมืองท่าสำคัญของประเทศ โดยในปี 2023 มียอดจดทะเบียนการลงทุนใหม่ในกว๋างนินห์ 3,110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในดัชนีขีดความสามารถในการแข่งขันระดับจังหวัด (PCI) ของเวียดนามประจำปี 2022 เมืองกว๋างนินห์มีคะแนนเป็นอันดับ 1
ด้วยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ การเข้าถึงทางหลวงและท่าเรือ อยู่ใกล้กับประเทศจีน และการผลักดันของรัฐบาลระดับจังหวัดในการดึงดูด FDI มากขึ้น ทำให้กว๋างนินห์ไต่อันดับเมืองที่ดึงดูด FDI ขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
อันดับ 4 : บั๊กซาง
บั๊กซาง เมืองเพื่อนบ้านของเมืองหลวงฮานอยอยู่ในอันดับ 4 ด้วยมูลค่าการจดทะเบียนลงทุนใหม่ 3,020 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2023
เมืองนี้อยู่ในอันดับที่ 3 ในดัชนีขีดความสามารถการแข่งขันระดับจังหวัด (PCI) ของเวียดนามประจำปี 2022 และเนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับฮานอย เมืองนี้จึงได้รับความนิยมจากบรรดาบริษัทต่างชาติที่เข้าไปตั้งฐานการผลิตในเวียดนาม
ปัจจุบันบั๊กซางเป็นที่ตั้งของกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างน้อย 36 กลุ่ม กระจายอยู่บนพื้นที่ 682 เฮกตาร์ (6.82 ตารางกิโลเมตร) และกลายเป็นศูนย์กลางหลักสำหรับบริษัทต่างชาติที่เข้าไปตั้งฐานการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศเวียดนาม
อันดับ 5 : ท้ายบิ่ญ
จังหวัดท้ายบิ่ญซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงฮานอยไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 100 กิโลเมตร ดึงดูดการลงทุนได้เป็นอันดับที่ 5 ด้วยทุนจดทะเบียนใหม่เกือบ 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2023
ปัจจัยที่ดึงดูดการลงทุนเข้าไปในท้ายบิ่ญคือ ที่ตั้งที่อยู่ใกล้ทะเล ทรัพยากรธรรมชาติ อุปทานแรงงานที่มีเพียงพอ และโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อม
อันดับ 6 : ฮานอย
ฮานอย เมืองหลวงของเวียดนามอยู่ในอันดับที่ 6 ในปี 2023 โดยได้ต้อนรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเป็นมูลค่า 2,730 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ฮานอยมีประชากร 9 ล้านคน ซึ่งจำนวนประชากรวัยแรงงานยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และในแง่โครงสร้างพื้นฐานด้านการเดินทางและการขนส่ง ฮานอยเชื่อมต่อกับโลกทั้งทางถนน ทางรถไฟ ทางอากาศ และทางทะเล (ผ่านทางแม่น้ำแดง)
สำหรับการการขนส่งสินค้าทางเรือ ฮายนอยอยู่ไม่ไกลจากเมืองชายฝั่ง โดยเฉพาะเมืองท่าสำคัญอย่างไฮฟอง ซึ่งนั่นทำให้นำสินค้าที่ผลิตในฮานอยออกไปสู่โลกกว้างได้ง่าย
อ้างอิง : Vietnam Briefing
อ่านเนื้อหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง