
หมายเหตุ : เผยแพร่ วันที่ 14 พ.ค. 2024 เวลา 17.34 น.ตามข้อมูลที่เปิดเผยโดย จนท.
และอัพเดตวันที่ 15 พ.ค. หลัง โจ ไบเดน ประกาศอย่างเป็นทางการ
สหรัฐเอาจริงแล้ว ! ไบเดนประกาศมาตรการขึ้นภาษีสินค้าจีน อีวีโดน 100% ชิป แบตเตอรี่ และสินค้าหลายรายการโดนอัตรา 25-50%
วันที่ 14 พฤษภาคม 2024 เวลา 12.45 น. ตามเวลากรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐ (ช้ากว่าเวลาไทย 11 ชั่วโมง) โจ ไบเดน (Joe Biden) ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนหลายประเภท ที่สวนกุหลาบในทำเนียบขาว (White House Rose Garden)
สินค้าที่ฝ่ายบริหารของไบเดนขึ้นอัตราภาษีนำโดยรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ที่โดนเก็บเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดที่สุด ในอัตรา 100% เพิ่มเป็น 4 เท่าจากปัจจุบันที่เก็บในอัตรา 25% ของราคาสินค้า ขณะที่สินค้าอื่น ๆ ถูกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 2-3 เท่าของอัตราเดิม
ทั้งนี้ เมื่อบวกภาษีเพิ่มเติมที่เก็บ 2.5% จากรถยนต์ทุกประเภทที่เข้าสู่ตลาดสหรัฐ จะทำให้การจัดเก็บภาษีรวมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจีนสูงถึงอัตรา 102.5%
ความเคลื่อนไหวนี้เป็นไปตามที่มีข่าวหลุดออกมาเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐจะขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศ โดยเพิ่มจากอัตราปัจจุบัน 25% เป็น 100%
เซมิคอนดักเตอร์ หรือชิป จะถูกเก็บเพิ่มขึ้น 2 เท่า จากอัตรา 25% เป็น 50% ภายในปี 2025
แร่ธาตุสำคัญบางชนิดจะถูกเก็บภาษีอัตราใหม่ 25% ภายในปีนี้ กราไฟต์ธรรมชาติและแม่เหล็กถาวรจะถูกเก็บอัตรา 25% ในปี 2026
เครนยกตู้สินค้าหน้าท่าจะถูกเก็บอัตรา 25% ในปีนี้
ขณะที่เหล็กและอะลูมิเนียมบางประเภท ซึ่งปัจจุบันถูกเก็บภาษี 0% หรือ 7.5% จะเพิ่มขึ้นเป็น 25% ในปีนี้
แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนแบตเตอรี่จะเพิ่มขึ้นจาก 7.5% เป็น 25% ในปีนี้ ขณะที่แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่ไม่ใช่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจะถูกเก็บเพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกัน ในปี 2026
ส่วนอัตราภาษีแผงโซลาร์เซลล์จะเพิ่มจาก 25% เป็น 50% ในปีนี้
หมวดอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ซึ่งก่อนหน้านี้สินค้าหลายรายการเก็บในอัตรา 0% หรือไม่มีการเก็บภาษี ก็จะโดนเก็บครั้งแรกด้วย โดยเข็มฉีดยาและเข็มเย็บแผลจะถูกเก็บภาษี 50% อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เช่น เครื่องช่วยหายใจและหน้ากากอนามัยจะเพิ่มจาก 0% หรือ 7.5% (แล้วแต่รายการ) เป็น 25% ในปีนี้เช่นกัน ส่วนถุงมือยางทางการแพทย์และศัลยกรรมจะเพิ่มจาก 7.5% เป็น 25% ในปี 2026
ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าสำหรับบางประเภท-รายการสินค้า การจัดเก็บภาษีอัตราใหม่จะมีผลกับพื้นที่ที่จีนครองอยู่เพียงส่วนเล็ก ๆ ในตลาดสหรัฐ แต่ก็มีจุดมุ่งหมายเพื่อสกัดกั้นการนำเข้าสินค้าที่อาจจะมากขึ้นได้ในอนาคต
ในเบื้องต้น ทำเนียบขาวกล่าวว่า คาดว่าการเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการนำเข้าในปีปัจจุบันนี้เป็นมูลค่าประมาณ 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 659,870 ล้านบาท)
โจ ไบเดน ให้คำมั่นว่าเขาจะไม่ยอมให้จีน “ควบคุมตลาดอย่างไม่เป็นธรรม” ทั้งสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและสินค้าสำคัญอื่น ๆ รวมถึงแบตเตอรี่ ชิป และเวชภัณฑ์ขั้นพื้นฐาน
“พวกมันกำลังไหลบ่าเข้ามาท่วมตลาด”
“เมื่อคุณใช้แท็กติกแบบนี้ คุณไม่ได้แข่งขัน มันไม่ใช่การแข่งขัน แต่มันคือการโกง และเราได้เห็นความเสียหายที่นี่ ในอเมริกา” ไบเดนกล่าว
ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวอีกว่า หลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนทุ่มเงินของรัฐให้กับบริษัทจีนในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น เหล็กและอะลูมิเนียม เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า แผงโซลาร์เซลล์ อุตสาหกรรมแห่งอนาคต และแม้แต่อุปกรณ์ด้านสุขภาพที่สำคัญ เช่น ถุงมือและหน้ากาก
“จีนให้เงินอุดหนุนผลิตภัณฑ์เหล่านี้อย่างหนัก ผลักดันให้บริษัทจีนผลิตสินค้ามากเกินกว่าที่พื้นที่ส่วนอื่น ๆ ของโลกจะดูดซับได้ แล้วเทสินค้าส่วนเกินออกสู่ตลาดในราคาที่ต่ำอย่างไม่เป็นธรรม ส่งผลให้ผู้ผลิตรายอื่นทั่วโลกต้องเลิกกิจการ” ไบเดนตำหนิจีน
โดยสรุป รายการสินค้าจีนที่สหรัฐเพิ่มอัตราภาษีนำเข้า และอัตราภาษีใหม่ มีดังนี้
- เหล็กและอลูมิเนียม จาก 0%-7.5% เพิ่มเป็น 25% มีผลปีนี้
- รถยนต์ไฟฟ้า จาก 25% เพิ่มเป็น 100% มีผลปีนี้
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับ EV จาก 7.5% เพิ่มเป็น 25% มีผลปีนี้
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ไม่ได้ใช้สำหรับ EV จาก 7.5% เพิ่มเป็น 25% มีผลปี 2026
- แร่ธาตุสำคัญหลายชนิด (ไม่ระบุชื่อเจาะจง) จาก 0% เพิ่มเป็น 25% มีผลปีนี้
- ชิ้นส่วนแบตเตอรี่ เพิ่มจาก 7.5% เพิ่มเป็น 25% มีผลปีนี้
- กราไฟต์ธรรมชาติและแม่เหล็กถาวร จาก 0% เพิ่มเป็น 25% มีผลปี 2026
- เซมิคอนดักเตอร์ หรือชิป จาก 25% เพิ่มเป็น 50% มีผลปี 2025
- เครนยกตู้สินค้าหน้าท่าเรือจาก 0% เพิ่มเป็น 25% มีผลปีนี้
- เข็มฉีดยาและเข็มเย็บแผล จาก 0% เพิ่มเป็น 50% มีผลปีนี้
- อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) บางประเภท รวมทั้งเครื่องช่วยหายใจ และหน้ากากอนามัยบางประเภท จาก 0%-7.5% เพิ่มเป็น 25% มีผลปีนี้
- ถุงมือยางทางการแพทย์และถุงมือผ่าตัดจาก 7.5% เพิ่มเป็น 25% มีผลปี 2026
อ่านเนื้อหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง