เลือกตั้งเม็กซิโก ได้ “คลอเดีย เชนบัม” เป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศ

คลอเดีย เชนบัม
คลอเดีย เชนบัม บนเวทีหาเสียง เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2024 (ภาพโดย Raquel Cunha/REUTERS)

เลือกตั้งเม็กซิโก เอ็กซิตโพลชี้ คลอเดีย เชนบัม (Claudia Sheinbaum) จากพรรคโมเรนา (Morena) คว้าชัย เป็น “ประธานาธิบดีหญิงคนแรก” ของประเทศเม็กซิโก 

สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานในวันที่ 3 มิถุนายน 2024 เวลา 11.32 น. ตามเวลาไทย ซึ่งเร็วกว่าเวลาเม็กซิโก 13 ชั่วโมง ว่า คลอเดีย เชนบัม (Claudia Sheinbaum) แคนดิเดตประธานาธิบดีเม็กซิโกจากพรรคโมเรนา (Morena) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายซ้าย เตรียมคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งทั่วไปของเม็กซิโก เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 

เชนบัมจะก้าวขึ้นเป็น “ประธานาธิบดีหญิงคนแรก” ของประเทศเม็กซิโก ต่อจากผู้นำคนปัจจุบัน อันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ (Andres Manuel Lopez Obrador) ผู้เป็นที่ปรึกษาของเธอ และผู้เป็นที่นิยมในหมู่คนยากจนซึ่งมีส่วนขับเคลื่อนชัยชนะของเธอ 

ผลเอ็กซิตโพล 5 สำนักเผยให้เห็นว่า คลอเดีย เชนบัม นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศและอดีตนายกเทศมนตรีเมืองเม็กซิโกซิตี้ คว้าตำแหน่งประธานาธิบดี 

ชัยชนะที่ใกล้จะมาถึงของเชนบัมถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับเม็กซิโก ประเทศที่โด่งดังจาก “วัฒนธรรมลูกผู้ชาย” (Macho Culture) และเป็นประเทศที่มีประชากรนิกายโรมันคาทอลิกมากเป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งผลักดันค่านิยมและบทบาทดั้งเดิมของผู้หญิงมากยิ่งขึ้นมาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว 

นอกจากเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเม็กซิโกแล้ว เชนบัมจะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ชนะการเลือกตั้งทั่วไปในสหรัฐอเมริกา เม็กซิโก และแคนาดา หรือทวีปอเมริกาเหนือ 

ADVERTISMENT

เชนบัมมีเส้นทางที่ซับซ้อนรออยู่ข้างหน้า เธอต้องรักษาสมดุลระหว่างการทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนว่าจะเพิ่มสวัสดิการซึ่งเป็นที่นิยม ขณะเดียวกันก็ต้องรับช่วงต่อขาดดุลงบประมาณจำนวนมากและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่ำ

เธอให้คำมั่นว่าจะปรับปรุงความมั่นคง แต่ให้รายละเอียดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งเป็นการเลือกตั้งที่มีความรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของเม็กซิโก มีผู้สมัครถูกสังหาร 38 ราย ได้ตอกย้ำปัญหาความมั่นคงครั้งใหญ่ของประเทศ จนถึงวันเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา ก็ยังมีการสังหารคน 2 คนที่หน่วยเลือกตั้งในรัฐปวยบลาด้วย 

ADVERTISMENT

นักวิเคราะห์หลายคนกล่าวว่า กลุ่มอาชญากรขยายวงกว้างมากขึ้นและเพิ่มอิทธิพลมากยิ่งขึ้นในระหว่างดำรงตำแหน่งของโลเปซ โอบราดอร์ 

ทั้งนี้ ในช่วงที่โลเปซ โอบราดอร์ อยู่ในอำนาจมีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 185,000 ราย มากกว่ารัฐบาลอื่น ๆ ในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของเม็กซิโก แม้ว่าอัตราการฆาตกรรมจะลดลงก็ตาม 

ความท้าทายอย่างหนึ่งของประธานาธิบดีคนใหม่ของเม็กซิโก คือ การเจรจาที่ตึงเครียดกับสหรัฐเกี่ยวกับจำนวนผู้อพยพย้ายถิ่นฐานที่เดินทางเข้าสหรัฐผ่านพรมแดนเม็กซิโก และความร่วมมือด้านความมั่นคงในเรื่องการปราบปรามการค้ายาเสพติดในช่วงเวลาที่เฟนทานิลกำลังระบาดอย่างดุเดือดในสหรัฐ 

เจ้าหน้าที่ชาวเม็กซิโกคาดว่าการเจรจาเหล่านี้จะยากขึ้นหากโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) คว้าตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะกำหนดอัตราภาษีรถยนต์จีนที่ผลิตในเม็กซิโก 100%