ไม่สั่งอะไรก็เข้าได้! “สตาร์บัคส์” ให้ทุกคนใช้ “ห้องน้ำ” ของร้านได้ หลังมีข่าวฉาวจับกุมชายผิวสี

หลังจากเกิดกระเเสวิจารณ์อย่างหนักจากกรณี สตาร์บัคส์จับชายผิวสีเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ขณะที่ชายผิวสีสองคนได้เดินเข้าไปในร้านสตาร์บัคส์ เเละขอเข้าใช้ห้องน้ำ ซึ่งพนักงานของร้านบอกว่าเฉพาะลูกค้าที่จ่ายเงินเท่านั้นจึงจะเข้าได้ เมื่อพวกเขานั่งอยู่ในร้านโดยไม่สั่งอะไร ผู้จัดการร้านได้เรียกตำรวจเข้าจับกุมในข้อหาบุกรุก

ต่อมา สตาร์บัคส์ประกาศปิดร้านทั่วสหรัฐอเมริกาในวันที่ 29 พ.ค. ช่วงบ่าย เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้สร้างเสียงวิพากษ์ไปทั่ว และเกิดการบอยคอตแบรนด์สตาร์บัคส์ขึ้นในสหรัฐอเมริกา ทำให้ทางแบรนด์ต้องประกาศทางแก้ปัญหาฉุกเฉิน โดยสั่งปิดทุกสาขาช่วงบ่ายวันที่ 29 พ.ค. และให้พนักงานทั่วประเทศราว 175,000 คน เข้าร่วมการเทรนนิ่ง โดยจะมีการพูดถึงหัวข้ออคติ และการใช้ชีวิตร่วมกันในสังคมอย่างมีสติ เพื่อไม่ให้เกิดการแบ่งแยกระหว่างกันอีก

ล่าสุด ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า สตาร์บัคส์ ได้เปิดให้บริการห้องน้ำสำหรับทุกคนเเล้ว เเม้ว่าจะไม่ได้มาซื้อของในร้านก็ตาม ซึ่งบริษัทได้แจ้งให้พนักงานทราบทางอีเมล์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่า ประชาชนสามารถมารวมตัวกันภายในร้าน หรือตามที่จอดรถของร้านได้ รวมถึงทุกคนสามารถเข้าห้องน้ำของร้านได้ เเม้พวกเขาจะไม่ซื้อเครื่องดื่มก็ตาม

ทั้งนี้การเปลี่ยนเเปลงดังกล่าวเป็นผลมาจากกรณีจับชายผิวสีสองคนที่มาขอเข้าห้องน้ำ เเต่โดนเเจ้งจับข้อหาบุกรุก เพราะไม่ได้สั่งอาหารหรือเครื่องดื่มใดๆ

นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดให้พนักงานปฏิบัติตามขั้นตอนในการติดต่อกับลูกค้าที่มีพฤติกรรม “ก่อกวน” รวมถึงคำแนะนำ หากพบลูกค้าที่อาจก่ออันตรายให้กับคู่ค้า หรือลูกค้าคนอื่นๆ สามารถเเจ้งตำรวจได้

เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โฮวาร์ด ชูลทส์ ประธานบริษัทสตาร์บัคส์ ได้พูดคุยที่สภาแอตแลนติก ในกรุงวอชิงตัน ถึงนโยบายที่หละหลวมของบริษัท ในการเข้าห้องน้ำเฉพาะลูกค้าที่ซื้อของเท่านั้น ซึ่งจะมีการเปลี่ยนกฎดังกล่าว

“เราไม่ได้ต้องการกลายเป็นห้องน้ำสาธารณะ เเต่เรามั่นใจ 100% ว่าเราให้ความสำคัญเเก่ผู้คน เเละเราไม่ต้องการให้ใครในสตาร์บัคส์ รู้สึกว่าเราไม่ได้ให้คุณเข้าห้องน้ำ เพราะคุณน้อยกว่า เราต้องการให้คุณรู้สึกมากกว่านั้น ซึ่งนโยบายเก่าและการตัดสินใจของผู้จัดการร้านสาขาในฟิลาเดลเฟีย เมื่อเดือนที่แล้วเป็นข้อผิดพลาดในทุกๆทาง” ชูลทส์ กล่าว