
ธนาคารกลางเกาหลีใต้เรียกร้องยกเครื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัย โยงทำประชากรหนาแน่นในกรุงโซล ดันราคาอสังหาริมทรัพย์สูง กระทบอัตราเกิดต่ำ
วันที่ 28 สิงหาคม 2024 นิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) รายงานว่า ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (Bank of Korea) เรียกร้องให้มีการยกเครื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ โดยโยงว่าความหนาแน่นของประชากรในกรุงโซล ดันค่าใช้จ่ายภาคอสังหาริมทรัพย์และการศึกษาสูงขึ้น ทำคนเกาหลีรุ่นใหม่ไม่อยากแต่งงานและมีลูก
ธนาคารกลางเกาหลีใต้รายงานในวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา ว่าแต่ละปีนักเรียนมัธยมปลายของเกาหลีใต้ต้องสอบซูนึง (College Scholastic Ability Test-CSAT) เพื่อเข้ามหาวิทยาลัย โดยหวังว่าจะได้เข้าเรียนในสถาบันชั้นนำ เช่น มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล (Seoul National University) และมหาวิทยาลัยยอนเซ (Yonsei University)
ความคาดหวังต่อผลลัพธ์การสอบที่สูง กดดันให้หลายครอบครัวย้ายมายังโซลมากขึ้น เนื่องจากมีทรัพยากรทางการศึกษาที่ดีกว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์และค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในพื้นที่ดังกล่าวจึงเพิ่มสูงขึ้น
ผู้คนในกรุงโซลจ่ายค่าเรียนพิเศษของเด็กมัธยมปลายหนึ่งคนเฉลี่ย 1.04 ล้านวอนต่อเดือน (ราว 26,500 บาท) เมื่อเทียบกับผู้คนในเมืองอื่น ๆ ของเกาหลีใต้ที่จ่ายราว 700,000 วอน (ราว 17,800 บาท) และหากครัวเรือนมีรายได้ต่อเดือน 8 ล้านวอน (ราว 200,000 บาท) หรือมากกว่า ก็จะใช้จ่ายไปกับค่าเรียนพิเศษมากกว่าครัวเรือนที่มีรายได้ไม่ถึง 2 ล้านวอน (ราว 50,000 บาท) ถึงสองเท่า
ปี 2018 ตัวเลขนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมปลายในกรุงโซลคิดเป็น 16% ของทั้งประเทศ แต่กลับมีสัดส่วนมากถึง 32% ของผู้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล
ธนาคารกลางเกาหลีใต้กล่าวว่า ระบบการสอบในปัจจุบันไม่สามารถวัดศักยภาพของนักศึกษาได้อย่างเหมาะสม สถานะทางการเงินของผู้ปกครองมีอิทธิพลต่อโอกาสที่บุตรหลานจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำ ผู้ปกครองที่มีฐานะร่ำรวยต่างพากันไปยังพื้นที่ที่มีทรัพยากรทางการศึกษาพรั่งพร้อม และใช้จ่ายด้านการศึกษามากกว่าครัวเรือนทั่วไป
เพื่อลดความแออัดและข้อได้เปรียบในกรุงโซล ธนาคารกลางเกาหลีใต้เสนอให้มหาวิทยาลัยต่าง ๆ รับนักศึกษาใหม่ด้วยโควตาภูมิภาค และหวังว่าประชากรจะกระจายตัวออกไปพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ
อัตราการเจริญพันธุ์ทั้งหมดของเกาหลีใต้ ซึ่งหมายถึงจำนวนบุตรที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะมีในช่วงชีวิตของเธอ ลดลงเหลือ 0.72 ในปี 2023 คาดว่าประชากรที่หดตัวลงและมีอายุมากขึ้นจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อระบบสวัสดิการสังคมของประเทศในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ธนาคารกลางสนับสนุนการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างในระยะยาว เพราะมองว่ากระทบต่อการกำหนดนโยบายการเงิน จึงเสนอให้เริ่มต้นที่ยกเครื่องการศึกษา การแข่งขันที่มากเกินไป ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ที่ดีของนักศึกษา ธนาคารกลางระบุ