สหรัฐหั่นภาษี ‘De minimis’ ลงเหลือ 54% แต่อีคอมเมิร์ซในประเทศเก็บแค่ 30%

สหรัฐหั่นภาษี De minimis จากอัตรา 120% เหลือ 54% เพิ่มเติมจากผลการเจรจาที่สวิส แต่อีคอมเมิร์ซในประเทศถูกเก็บเพียง 30%

รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ตามคำสั่งฝ่ายบริหารจากทำเนียบขาวและผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรม พบว่าสหรัฐจะลดภาษีนำเข้าสินค้าบรรจุพัสดุขนาดเล็กจากจีนลงเหลือ 30% เพิ่มเติมจากผลการเจรจาลดระดับอัตราภาษีระหว่างสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลก

คำสั่งดังกล่าวเผยแพร่ในช่วงดึกวันที่ 12 พฤษภาคม 2025 หลังจากมีการประกาศก่อนหน้าว่าจะลดอัตราภาษีระหว่างกันลงเป็นเวลา 90 วัน ซึ่งจะช่วยสร้างความโล่งใจให้แก่อีคอมเมิร์ซจีนอย่าง เทมู (Temu) และ ชีอิน (Shein) อย่างมาก

ทั้งนี้ แถลงการณ์ร่วมสรุปผลการประชุมหลังการเจรจาที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ไม่ได้ระบุถึงนโยบายภาษี ‘De minimis’ แต่อย่างใด ซึ่งคำสั่งที่ลงนามโดยโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐระบุไว้ว่า ภาษีที่เรียกเก็บจากการขนส่งทางไปรษณีย์ไปยังผู้บริโภคโดยตรงสำหรับสินค้าที่ราคาต่ำกว่า 800 ดอลลาร์ (ราว 27,000 บาท) จะลดลงจาก 120% เหลือ 54% และมีผลในวันที่ 14 พฤษภาคม

นอกจากนี้ อัตราค่าธรรมเนียมทางเลือก 100 ดอลลาร์ (ราว 3,330 บาท) ต่อพัสดุ 1 ชิ้นยังมีผลบังคับใช้ และจะยกเลิกแผนการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมเป็น 200 ดอลลาร์ (ราว 6,660 บาท) ที่จะมีผลในวันที่ 1 มิถุนายนอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างเล็กน้อยสำหรับพัสดุที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทจัดส่งพัสดุเชิงพาณิชย์ เช่น ยูไนเต็ด พาร์เซล เซอร์วิส (UPS) เฟดเอ็กซ์ (FedEx) และดีเอชแอล (DHL) ซึ่งจัดส่งพัสดุจากเทมู และชีอินนับล้านชิ้น ก่อนทรัมป์ยุติการปลอดอากร

โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งผู้ไม่ต้องการระบุตัวตนกล่าวกับรอยเตอร์ว่า พัสดุภายใต้บริษัทเหล่านี้จะถูกเก็บภาษีในอัตรา 30% ซึ่งลดลงจากอัตราสินค้านำเข้าจากจีน 145% สะท้อนให้เห็นว่าทรัมป์ลดอัตราภาษีแบบตอบโต้ลงเหลือ 10% และเก็บเพิ่มอีก 20% จากวิกฤตเฟนทานิล

ทำเนียบขาวและผู้แทนการค้าสหรัฐไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด ๆ เมื่อถูกสอบถามความชัดเจนต่อประเด็นดังกล่าว ด้านเจมีสัน เกรียร์ (Jamieson Greer) กล่าวกับทางซีเอ็นบีซี (CNBC) เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ว่าฐานภาษี 10% จะช่วยในการสร้างฐานการผลิตในประเทศของสหรัฐ