เริ่มแล้วพิธีสละราชสมบัติ “จักรพรรดิญี่ปุ่น”

(Kyodo - REUTERS)

สำนักข่าวเจแปนทูเดย์ รายงาน พระราชพิธีสละราชสมบัติของ “สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ” แห่งญี่ปุ่น โดยพระราชพิธีเบื้องต้นมีขึ้นในเช้าวันที่ 30 เม.ย. ณ ศาลเจ้าชินโตคะชิโกโดโกโร (Kashikodokoro) ซึ่งเป็นศาลเจ้าหลักในพระราชวังอิมพีเรียล ในการนี้สมเด็จพระจักรพรรดิทรงมีพระราชดำรัสประกาศการสละราชสมบัติต่อเทพีอะมะเตะระซุ ซึ่งถือเป็นบรรพบุรุษของราชวงศ์ญี่ปุ่น รวมถึงบรรดาเทพเจ้าของญี่ปุ่น

(Handout – Reuters)

จากนั้นในเวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะจะเสด็จออกพบปะกับประชาชนเป็นครั้งสุดท้าย ในการนี้นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะจะเป็นตัวแทนประชาชนชาวญี่ปุ่นกราบบังคมทูลถวายพระพร จากนั้นสมเด็จพระจักรพรรดิจะมีพระราชดำรัสประกาศการสละราชสมบัติต่อหน้าสมเด็จพระจักรพรรดินี มกุฎราชกุมารและบรรดาสมาชิกพระราชวงศ์ รวมถึงข้าราชการระดับสูงต่าง ๆ

ทั้งนี้รัชสมัยของพระองค์จะดำเนินไปจนถึงเวลาเที่ยงคืน ก่อนที่จะเข้าสู้รัชสมัยเรวะ อันเป็นรัชสมัยใหม่ในวันถัดไปภายใต้การขึ้นครองราชย์ของเจ้าชายนารูฮิโตะ มกุฎราชกุมาร ในวันที่ 1 พ.ค. โดยพระราชพิธีราชาภิเษกของสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่ จะเริ่มต้นด้วยพระราชพิธีทรงรับเครื่องราชกกุธภัณฑ์ญี่ปุ่นอันประกอบด้วย พระแสงดาบคุซานางิและอัญมณียาซากานิ รวมถึงพระราชลัญจกรประจำพระองค์ ก่อนที่สมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่จะเสด็จขึ้นประทับบนพระราชบัลลังก์ดอกเบญจมาศ เป็นสัญลักษณ์แห่งการเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นโดยสมบูรณ์

การสละราชสมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 202 ปีนับจากการสละราชสมบัติครั้งล่าสุดของสมเด็จจักรพรรดิโคกะกุ (Emperor Kokaku) ในปี 1817 ทั้งนี้เจ้าชายนารูฮิโตะจะเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ที่ 126 สืบราชสันตติวงศ์ญี่ปุ่นที่ต่อเนื่องมายาวนานกว่า 2,600 ปี

ส่วนบรรยากาศโดยรอบพระราชวังอิมพีเรียลเป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา มีประชาชนจำนวนมากมารวมตัวหน้าพระราชวัง ท่ามกลางสภาพอากาศชื้นและหนาวเย็น โดยมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ประชาชนไม่ได้รับอนุญาตให้มองเข้าไปภายในพระราชวัง

ขณะที่สถานีโทรทัศน์ของญี่ปุ่นต่างนำเสนอรายงานพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะในช่วงการครองราชสมบัติของพระองค์ และมีการนับถอยหลังสู่การเปลี่ยนรัชสมัยใหม่ในคืนนี้

(Kim Kyung-Hoon – REUTERS)
(Kim Kyung-hoon – REUTERS)
(Issei Kato – REUTERS)
(Kim Kyung-hoon – REUTERS)
(Kyodo News – AP)