‘ฝรั่งเศส’ ให้ประชาชนงดออกจากบ้าน 15 วัน WHO ชี้รัฐบาลทั่วโลกยังทดสอบโรคไม่ดีพอ

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสประกาศขอความร่วมมือให้ประชาชนงดเดินทางออกจากที่พักอาศัยโดยไม่จำเป็น เป็นเวลา 15 วัน เริ่มตั้งแต่เวลาเที่ยงของวันนี้ (17 มีนาคม) ตามเวลาท้องถิ่นเป็นต้นไป เนื่องจากการระบาดของ โควิด-19 ที่รุนแรงมากขึ้นในยุโรปและอเมริกา

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็นทั้งหมด เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อไวรัส นอกจากนี้ นายมาครงยังมีคำสั่งเลื่อนการเลือกตั้งท้องถิ่นของฝรั่งเศสรอบที่ 2 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยกล่าวว่า “เรากำลังอยู่ในสงครามด้าสาธารณสุข”

เช่นเดียวกับ เยอรมนี ที่ตัดสินใจประกาศปิดพรมแดนที่ติดต่อกับฝรั่งเศส ออสเตรีย และสวิตเซอร์แลนด์เป็นเวลา 30 วัน เริ่มจากวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา ยกเว้นเฉพาะการขนส่งสินค้า และการเดินทางของผู้พำนักถาวรในสหภาพยุโรป สมาชิกครอบครัวของผู้ถือสัญชาติสมาชิกยุโรป นักการทูต รวมถึงเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ซึ่งสเปนและฝรั่งเศส ก็กำลังพิจารณามาตรการดังกล่าวเช่นเดียวกัน ส่วน คณะกรรมาธิการยุโรป ก็กำลังพิจารณาเสนอให้ปิดกั้นการเดินทางเข้ามายังสหภาพยุโรปที่ไม่จำเป็นทั้งหมดด้วย

ขณะที่ นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด ของแคนาดาก็ได้ประกาศปิดกั้นพรมแดนของแคนาดาเมื่อวาน (16 มีนาคม) ตามเวลาท้องถิ่น โดยห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศทั้งหมด ยกเว้นลูกเรือ นักการทูต สมาชิกในครอบครัวของพลเมืองแคนาดา และพลเมืองสหรัฐอเมริกาในเวลานี้ โดนนายกรัฐมนตรีแคนาดาระบุว่า “ถึงเวลาที่ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องความปลอดภัยของประชาชน”


ส่วน ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกหรือ “ฮู” ชี้ว่า รัฐบาลต่าง ๆ ทั่วโลกยังดำเนินมาตรการไม่เพียงพอต่อการรับมือการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ โดยเรียกร้องให้มีการเพิ่มการทดสอบหาผู้ติดเชื้อมากขึ้น “เราไม่สามารถหยุดยั้งการระบาดครั้งใหญ่ได้ หากเราไม่รู้ว่าใครติดเชื้อ เราขอเรียกร้องไปยังทุกประเทศทั่วโลก: จงทดสอบ ทดสอบ และทดสอบ”