WHO เผยโควิด-19 ยังระบาดหนักในประเทศใหญ่ทั่วโลก เตือน ‘บราซิล’ เร่งรับมือขยายตรวจ

REUTERS/Bruno Kelly

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) เตือนว่าตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 กำลังพุ่งสูงขึ้นในประเทศขนาดใหญ่ทั่วโลกหลายประเทศในเวลาเดียวกันอย่างน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกาที่พบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ “บราซิล” ที่มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงกว่า 54,000 คนในวันเดียว

ดร.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ดับยูเอชโอ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ทั่วโลกที่ได้รับการยืนยันในวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา สูงกว่า 183,000 คนในช่วง 24 ชั่วโมง นับเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มการแพร่รระบาดในเดือนธันวาคม 2019

ขณะที่ นายไมเคิล ไรอัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงของดับเบิลยูเอชโอ กล่าวเสริมว่า “แน่นอนว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อในขณะนี้กำลังพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดกำลังแพร่กระจายในประเทศที่มีจำนวนประชากรสูงทั่วโลกในช่วงเวลาเดียวกัน แม้ว่าตัวเลขที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากการขยายการตรวจหาผู้ติดเชื้อ อย่างเช่นอินเดียที่กำลังขยายการตรวจ แต่เราไม่เชื่อว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการขยายการตรวจหาผู้ติดเชื้อเพียงอย่างเดียว”

ในวันที่ 22 มิถุนายนที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วโลกได้พุ่งทะลุ 9 ล้านราย โดยสถานการณ์ในหลายประเทศขนากใหญ่ได้กลับมารุนแรงอีกครั้งอย่างในสหรัฐอเมริกาและจีน ขณะที่ภูมิภาคลาตินอเมริกาต่างก็ตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นไม่ว่าจะเป็น ชิลี อาร์เจนตินา โคลัมเบีย ปานามา โบลิเวีย และกัวเตมาลา

ส่วนบราซิลซึ่งเป็นประเทศขนาดใหญ่ในลาตินอเมริกา ได้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุหลักล้านไปในสัปดาห์ที่ผ่านมา นับเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐ โดยนายไรอันระบุว่าตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของบราซิลอาจเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงระบบรายงานจำนวนผู้ป่วย

อย่างไรก็ตาม นายไรอันเตือนว่าบราซิลยังคงมีอัตราการตรวจหาผู้ติดเชื้อค่อนข้างต่ำ แต่มีผู้ที่ได้รับการตรวจและพบว่าติดเชื้อในสัดส่วนสูง ทำให้ดับเบิลยูเอชโอมองว่า จำนวนผู้ป่วยที่สูงขึ้นไม่ได้สะท้อนการตรวจที่ละเอียดและกว้างขวางขึ้น และยังอาจเป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ต่ำกว่าความเป็นจริงด้วย


ก่อนหน้านี้ บราซิลยังมียอดผู้เสียชีวิตรายวันมากกว่า 1,000 คนหลายครั้งในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารูถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จากการรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดของรัฐบาลบราซิล ที่ยังคงมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง