“แอนท์กรุ๊ป” ทุบสถิติหุ้นไอพีโอ “มดยักษ์” เขย่าบัลลังก์แบงก์

อนท์กรุ๊ป
(Photo by STR / AFP) / China OUT

“แอนท์กรุ๊ป” (Ant Group) ผู้ให้บริการนวัตกรรมทางการเงิน (ฟินเทค) รายใหญ่ในเครือ “อาลีบาบา” ของ “แจ็ก หม่า” เพิ่งได้รับอนุญาตจากทางการจีนให้เสนอขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (ไอพีโอ) เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ โดยคาดว่าจะสามารระดมทุนจากการขายหุ้นไอพีโอได้ถึง 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (1.085 ล้านล้านบาท) เนื่องจากความต้องการของนักลงทุนที่เข้ามาอย่างล้นหลาม ซึ่งจะทำให้กลายเป็นสถิติขายหุ้นไอพีโอมากที่สุดในโลก

หลังจากหุ้น “อาลีบาบา” ของ แจ็ก หม่า เคยทำสถิติการขายหุ้นไอพีโอสูงถึง 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการเข้าสู่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีตเมื่อปี 2014 และจากสถิติการขายหุ้นไอพีโอดังกล่าวทำให้มูลค่าบริษัทของแอนท์กรุ๊ปจะพุ่งสูงถึง 2.8 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 8.68 ล้านล้านบาท)

โดยแอนท์กรุ๊ปได้รายงานตัวเลขกำไรในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 อยู่ที่ 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (99,500 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นกว่า 1,050% จากช่วงเดียวกันของปี 2019

“แอนท์กรุ๊ป” ถือเป็นฟินเทคยักษ์ใหญ่ของจีน ที่เขย่าธุรกิจการเงินรูปแบบเดิม ด้วยบริการทางการเงินบนแพลตฟอร์มมือถือที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ความสำเร็จของ “แอนท์กรุ๊ป” ที่โดดเด่นก็คือ “อาลีเพย์” แอปโมบายแบงกิ้งที่ใหญ่ที่สุดในจีน ปัจจุบันมีผู้ใช้ถึง 1.3 พันล้านคนทั่วโลก

จุดเริ่มต้นของ “อาลีเพย์” เกิดขึ้นในปี 2004 เพื่อเป็นช่องทางชำระเงินในการซื้อขายสินค้าบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของอาลีบาบา ซึ่งในยุคนั้นโครงสร้างดิจิทัลเพย์เมนต์ของจีนยังไม่พัฒนา และส่วนใหญ่การใช้จ่ายยังเป็นเงินสด ทำให้เป็นโอกาสในการแจ้งเกิดของอาลีเพย์

และในปี 2006 มีผู้ประกอบการถึง 300,000 ราย ที่ยอมรับการจ่ายเงินบนแพลตฟอร์ม “อาลีเพย์” และได้นำไปใช้ในอุตสาหกรรมเกม เว็บไซต์ท่องเที่ยว และร้านค้าออนไลน์ นอกจากนี้การสนับสนุนจากรัฐบาลเมื่อปี 2010 ที่ให้สามารถลดหย่อนภาษีและมีกฎหมายออกมารองรับธุรกรรมต่าง ๆ

“อาลีเพย์” จึงเป็นเหมือนกับ “เครื่องยนต์” ในการสร้างฐานการขยายตัวของแอนท์กรุ๊ป ต่อยอดจากฐานข้อมูลพฤติกรรมการใช้จ่ายต่าง ๆ ของลูกค้าไปสู่บริการทางการเงินอื่น ๆ

นอกจากนี้แอนท์กรุ๊ปยังมีแอปพลิเคชั่นอย่าง “อูยูเบา” (Yu”e Bao) แพลตฟอร์มกองทุนรวมออนไลน์ รวมถึง “มายแบงก์” (MYbank) ธนาคารออนไลน์ที่ปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการไปดำเนินธุรกิจ และยังมีอีกหลาย ๆ แพลตฟอร์ม ขณะที่รายได้ของแอนท์กรุ๊ป

ส่วนใหญ่มาจากการปล่อยกู้ถึง 40% จากรายได้ทั้งหมดรวมถึงแอปพลิเคชั่น “ซีม่า เครดิต” (Zhima Credit) เป็นแอปที่ให้คะแนนเครดิตจากการติดตามข้อมูลผู้ใช้ในการทำธุรกรรมต่าง ๆ โอนเงิน การซื้อของ และการย้ายถิ่นฐาน ซึ่งคะแนนเครดิตสามารถเอามาแลกไปใช้สิทธิเช่ารถ นอนโรงแรม ไปจนถึงการไม่ต้องทำวีซ่าไปต่างประเทศอย่างสิงคโปร์และลักเซมเบิร์กได้ และ “มดยักษ์” รายนี้กำลังจะเข้าไปเป็นหุ้นน้องใหม่ร้อนแรงที่สุดแห่งยุคโควิด-19