โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่อย่าง “เฟซบุ๊ก” มียอดผู้ใช้งานรายวันลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 “เมตา เน็ตเวิร์ก” บริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก เผยว่า ยอดผู้ใช้งานรายวัน (DAUs) ลดลงไปอยู่ที่ 1,929 ล้านคน ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 ขณะที่ไตรมาส 3 มีผู้ใช้งานรายวันอยู่ที่ 1,930 ล้านคน ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 18 ปี
เมตา เน็ตเวิร์ก ยังเผยสาเหตุด้วยว่า รายได้ที่เติบโตอย่างชะลอตัวมาจากการแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง TikTok และ YouTube ขณะที่ผู้โฆษณาก็ลดค่าใช้จ่ายลง
หุ้นของเมตาร่วงลงมากกว่า 20% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการในนิวยอร์ก ส่งผลให้รายได้ลดลงมากถึง 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากมูลค่าตลาดหุ้นของบริษัท
ส่วนหุ้นของโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงทวิตเตอร์ สแนป และพินเทอเรส ก็ลดลงอย่างมากในการซื้อขายระยะยาว
“มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า การเติบโตของยอดขายได้รับผลกระทบ เนื่องจากผู้ชม โดยเฉพาะผู้ใช้ที่อายุน้อย ๆ ได้ผละจากเฟซบุ๊กไปหาคู่แข่ง
เมตา ซึ่งเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มโฆษณาดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากกูเกิล ยังระบุด้วยว่า ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงความเป็นส่วนตัวในระบบปฏิบัติการของแอปเปิล
“การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้แบรนด์ต่าง ๆ กำหนดเป้าหมายและวัดผลโฆษณาบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม ยากขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อคำสั่งซื้อมูลค่ากว่า 10,000 ล้านเหรียญในปีนี้” เดฟ เวห์เนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของเมตา กล่าว
รายได้รวมของเมตา ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการขายโฆษณา เพิ่มขึ้นเป็น 33,670 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของตลาด
นอกจากนี้ ยังคาดการณ์รายรับที่ระหว่าง 27,000-29,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสหน้า ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้