รมว.ต่างประเทศ เผยไทยเป็นเพื่อนกับคนทั้งโลก พูดได้กับรัสเซีย อียู สหรัฐ

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ
FILE PHOTO : Javier Lizon / POOL / AFP)

ดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เผยไทยเจรจาได้ทั้งกับอียู สหรัฐ และรัสเซีย 

วันที่ 1 มีนาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เราต้องหาจุดที่สามารถช่วยทางการได้ คือ ทำอย่างไรให้สถานการณ์สามารถคลี่คลายได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ท่าทีของรัฐบาลไทยที่เป็นรูปธรรมคืออะไร นายดอนกล่าวว่า ต้องหาทางเบิกทางให้เกิดหรือไปเสริมการไปคุย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขากำลังคุยกันอยู่ อยากให้การคุยกันอยู่ได้ผล ไม่ใช่คุยกันอยู่แล้วคากันอยู่เรื่อย ๆ ปัญหา คือ ยังเคลื่อน ไม่หยุดนิ่ง

เมื่อถามว่า การที่ประธานาธิบดียูเครนไปสมัครเป็นสมาชิกอียู นายดอนกล่าวว่า ตามหลักของการเจรจาคือทำให้ท่าทีเข้มขึ้น แข็งขึ้น เป็นเรื่องปกติของการเจรจา ไม่ใช่เจรจาแล้วจะอยู่ในท่าที เดิม ๆ เพื่อจะหาทางเสริมท่าที เป็นเรื่องปกติ แต่การเสริมท่าทีจะทำให้คุยกันยากขึ้น ต้องชวนให้เอาจริงเอาจังกับการหาทางออก มากกว่าที่จะมาหาวิธีการเติมความแกร่งของท่าที ไม่เช่นนั้นก็จะยันกันไปเรื่อย ๆ

“คนที่ต้องการเห็นยืดเยื้อมีอยู่เยอะ ส่วนจะได้อะไรนั้น ให้ไปช่วยกันคิดเอาเอง ในชีวิตจริงเป็นอย่างไร คนอยากจะให้ยืดเยื้อก็จะประโยชน์หลายทาง คนที่ได้ประโยชน์มี แต่คนที่เสียประโยชน์คือคนทั้งโลก เพราะคนทั้งโลกจะได้ประโยชน์จากสถานการณ์ที่คลี่คลาย ยุติ ต้องช่วยกันหาวิธีการให้การหารือจริง ๆ เป็นประโยชน์จริง ๆ ไม่มานั่งด่ากัน ทะเลาะ ประณามกันเยอะแล้ว”

นายดอนกล่าวว่า “ไทยโชคดี เรามีเพื่อนกับคนทั้งโลก สามารถคุยกับทุกคน แต่จะมีน้ำหนักแค่ไหนเป็นอีกเรื่อง อยู่ที่สถานการณ์ เราพูดได้ ทั้งอียู ทั้งสหรัฐฯ ทั้งรัสเซีย เรามีช่องทาง แต่บางเรื่องเราต้องปล่อยไหลเดินไปตามเส้นทาง ไปตามธรรมชาติ ไม่ใช่ต้องรีบร้อน ด่วนเข้าไปมีบทบาท เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เป้าประสงค์ของเรา การพยายามมีบทบาทไม่ใช่เป้าประสงค์ของเรา เพราะเรามีเรื่องอื่นต้องทำเยอะแยะ และเป็นอีกเวทีหนึ่งในยุโรป ซึ่งมีตัวเล่นเยอะ มีผลประโยชน์เยอะ”

“แต่เราเป็นส่วนหนึ่งในโลกนี้ เราต้องดู สุดท้ายจะคลี่คลายหรือไม่คลี่คลายอย่าง ผลที่ตามเป็นอย่างไร เรารู้อยู่ ถ้ายืดเยื้อ ราคาพลังงานก็จะสูงขึ้น เงินเฟ้อมากขึ้น เราไม่ต้องการเห็นแบบนี้ รัสเซียก็อยากเจรจา ทุกคนอยากเจรจา อยู่ที่ท่าทีจะลงตัวกันที่ตรงไหน และอย่างที่ว่ามีสิ่งที่แทรกซ้อนได้เสมอ ทุกยุคสมัยมีการหาทางคราบงำ เอาประโยชน์จากสถานการณ์ จากความอ่อนแอ ประเทศอ่อนแอไม่ได้”

เมื่อถามว่า คู่ขัดแย้งจริง ๆ ไม่ได้เจรจากัน เรื่องนี้จะจบอย่างไร นายดอนกล่าวว่า เป็นความซับซ้อนของการเมืองระหว่างประเทศที่มีผลประโยชน์ยิ่งใหญ่มหาศาล

เมื่อถามว่า ไทยอยู่ตรงไหนของวิกฤตครั้งนี้ นายดอนกล่าวว่า เราอยากเห็นเรื่องนี้สงบ เพราะเป็นประโยชน์กับคนทั้งหลาย ไม่ได้หมายถึงอยู่ฝั่งไหน อยู่ที่ว่าไม่สู้รบกัน

นายดอนกล่าวว่า ทุกคนโดนหางเลขถ้าหากยืดเยื้อ คำว่ายืดเยื้อไม่ได้หมายความแค่เวลา แต่ดีกรีของการสู้รบมันเพิ่มพูน และมันเพิ่มพูนถึงขั้นการใช้อาวุธ ทุกคนเสียหาย แค่ขณะนี้ราคาน้ำมันก็สูงขึ้นแล้ว ช่วยกันหาทางส่งข่าวไปให้ทุกฝ่าย สงบซะเถอะ คุยกันให้ได้ผลเร็ว ได้อย่างจริงจัง ขณะนี้รัฐบาลทำดีที่สุดแล้ว รัฐบาลเราเข้าใจสถานการณ์ ไม่ใช่เราไม่รู้เรื่อง ตราบใดที่เราเข้าใจเราก็มีวิธีการ

“การไม่มีจุดยืนยากที่สุด ถ้าจะเดินตามง่าย ถ้าจะเลือก (ข้าง) เราต้องการเลือกความสงบ ต้องคุยให้รู้เรื่องกัน เราก็ไปสนับสนุนหาทางออกกัน แต่เราก็มีวิธีอื่น ๆ นะ เพื่อที่จะเข้าถึงผู้นำ เพื่อจะบอกว่า สงครามที่ยุติเป็นประโยชน์กับทุกชาติ”

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีได้ยกหูถึงนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียหรือไม่ นายดอนกล่าวว่า ไม่ต้องพูดถึงเรื่องยกหู ถ้าเราจะพูดให้เข้าหูเขาทำได้

เมื่อถามย้ำว่า แต่ไม่มีการยกหู หรือว่า มีการยกหูบ้างแบบเป็นส่วนตัวกับท่านนายกฯ นายดอนกล่าวว่า ท่านรู้จักกัน พูดกันมาหลายครั้ง ท่าน (พล.อ.ประยุทธ์) ก็รู้จักกับนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ

“คนที่จะคุยกัน เขาต้องเป็นคู่เจรจาโดยตรง หรือ คู่กรณีโดยตรง ใช่ เราเป็นพันธมิตร เราก็ต้องติดตาม”

เมื่อถามว่า เราได้ถามไถ่อย่างเป็นทางการกับท่าน ๆ ที่เรารู้จักไหม นายดอนกล่าวว่า ข่าวมันออกไปเยอะแยะไปหมด ไม่ต้องมาถามว่า ทางการหรือไม่ทางการ ความจริงประเทศมีผู้ดำเนินการในเรื่องนี้ให้ในระดับรัฐมนตรีอยู่แล้ว