เปิดชื่อสื่อบันเทิง-โซเชียล ร่วมขบวนคว่ำบาตรรัสเซีย

REUTERS/Luis Cortes


รวมรายชื่อค่ายหนังฮอลลีวูด-โซเชียล-ยักษ์เทค-แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ที่พร้อมใจกันคว่ำบาตรรัสเซีย 

วันที่ 1 มีนาคม 2565 รอยเตอร์สรายงานว่า สตูดิโอดังฮอลลีวูด ไม่ว่าจะเป็นดิสนีย์, วอร์เนอร์ บราเธอร์ส และโซนี่ พิคเจอร์ส ระบุว่า พวกเขาจะหยุดการฉายภาพยนตร์ในรัสเซีย เพื่อตอบโต้กรณีที่รัสเซียรุกรานยูเครน ซึ่งเป็นการซ้ำเติมวิกฤตด้านมนุษยธรรม

วอลต์ ดิสนีย์ เผยเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า จะหยุดการฉายภาพยนตร์ในรัสเซียเป็นการชั่วคราว โดยเริ่มจากภาพยนตร์เรื่อง Turning Red ของพิกซาร์ แอนิเมชั่น สตูดิโอ

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา วอร์เนอร์มีเดียเผยว่าจะยกเลิกการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง The Batman ในรัสเซีย เช่นกัน

ดิสนีย์-โซนี่ หยุดฉายหนังในรัสเซีย

ดิสนีย์ระบุในแถลงการณ์ว่า “เราจะตัดสินใจเรื่องธุรกิจในอนาคต โดยพิจารณาจากสถานการณ์ที่ค่อย ๆ พัฒนา ในขณะเดียวกันเราได้พิจารณาเรื่องวิกฤตผู้ลี้ภัย และกำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรเอ็นจีโอ เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอื่น ๆ

ด้านโฆษกของโซนี่ พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ กล่าวในแถลงการณ์ทางอีเมลว่า “เนื่องจากการดำเนินการทางทหารอย่างต่อเนื่องในยูเครน เราจะหยุดแผนการฉายภาพยนตร์ในรัสเซีย ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์ที่กำลังจะออกฉายอย่าง Morbius”

ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สถาบันภาพยนตร์ยูเครนได้เรียกร้องให้นานาชาติคว่ำบาตรภาพยนตร์และอุตสาหกรรมภาพยนตร์รัสเซีย หลังจากรัสเซียบุกยูเครน

รัสเซียเป็นตลาดสำคัญของฮอลลีวูด โดยทำรายได้ไป 601 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเกือบ 2 หมื่นล้านบาทในบ็อกซ์ออฟฟิศ เมื่อปี 2564 ซึ่งคิดเป็น 2.8% จากยอดขายตั๋วทั่วโลก ซึ่งมีมูลค่ารวม 21,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเกือบ 7 แสนล้านบาท เมื่อปีที่แล้ว ตามรายงานของคอมสกอร์

ภาพยนตร์ดังหลายเรื่องกำลังเข้าฉายทั่วโลก เช่น The Batman ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในรัสเซียเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ตามแผนเปิดตัวทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์เรื่อง Sonic the Hedgehog 2 ของพาราเมาต์ พิคเจอร์ส ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวทั่วโลกในวันที่ 8 เมษายน

เฟซบุ๊ก-กูเกิล-ยูทูบ ตัดช่องทางรายได้สื่อรัสเซีย

อัลจาซีราห์รายงานว่า เมตา ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊ก ได้ประกาศแผนจำกัดการเข้าถึงของสำนักข่าวทางการรัสเซีย ได้แก่ อาร์ที และสปุตนิก ทั่วทั้งสหภาพยุโรป ในขณะที่รัสเซียเดินหน้าบุกยูเครน

“นิก เคลก” หัวหน้าฝ่ายกิจการระดับโลกของเมตา ทวีตข้อความเมื่อบ่ายวันจันทร์ว่า เมตาได้รับคำขอจากหลายรัฐบาลและสหภาพยุโรปให้ดำเนินการเพิ่มเติมเกับสื่อที่ควบคุมโดยรัฐบาลรัสเซีย

เคล็กกล่าวว่า เมตาจะยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลเหล่านี้ในประเด็นดังกล่าว

“ด้วยลักษณะพิเศษของสถานการณ์ปัจจุบัน ในเวลานี้เราจะจำกัดการเข้าถึงของอาร์ทีและสปุตนิกทั่วทั้งสหภาพยุโรป” เคล็กทวีตข้อความ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ลงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการจำกัดการเข้าถึงที่กำลังจะเกิดขึ้น

การประกาศดังกล่าวมีขึ้นในวันที่ 5 ที่รัสเซียจู่โจมยูเครน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 352 ราย

นอกจากเมตาแล้ว ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา กูเกิลและยูทูบได้ดำเนินการเพื่อจำกัดไม่ให้สื่อทางการรัสเซียสามารถหารายได้จากโฆษณา ขณะที่ทวิตเตอร์ได้แบนอาร์ทีและสปุตนิกจากการโฆษณาบนเว็บไซต์ของตัวเองตั้งแต่ปี 2560 แล้ว

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กระบุว่าได้จำกัดความสามารถของสื่อทางการรัสเซีย ในการหารายได้บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากรัสเซียประกาศว่าได้จำกัดการเข้าถึงเฟซบุ๊กบางส่วน เนื่องจากเมตาปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัสเซีย ที่สั่งให้หยุดการตรวจสอบข้อเท็จจริง และติดป้ายเตือนเนื้อหาของสื่อรัสเซีย

สหภาพยุโรปเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า จะแบนอาร์ทีและสปุตนิก ขณะที่ผู้ให้บริการโทรคมนาคมของแคนาดาได้หยุดให้บริการช่องอาร์ทีแล้ว

ติ๊กต็อก-ไมโครซอฟต์ ร่วมขบวนด้วย

โฆษกติ๊กต็อก (TikTok) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอ็นพีอาร์ว่า ติ๊กต็อกได้บล็อกสองสำนักข่าวรัสเซียในสหภาพยุโรป ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ติ๊กต็อกในสหภาพยุโรปจะไม่สามารถเข้าถึงหน้าเพจหรือเนื้อหาที่โพสต์โดยอาร์ทีหรือสปุตนิกได้

ส่วนไมโครซอฟต์ประกาศในวันนี้ว่า จะถอดแอปข่าวของอาร์ทีออกจากแอปสโตร์ และจะไม่แสดงเนื้อหาใด ๆ ของอาร์ทีหรือสปุตนิกบนฟีดข่าวของไมโครซอฟต์สตาร์ทและ MSN.com พร้อมทั้งถอดทั้งสองเว็บไซต์ข่าวออกจากการค้นหาผ่าน Bing

เน็ตฟลิกซ์เท 20 ช่องรัฐบาลรัสเซีย

โพลิติโครายงานว่า สตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯอย่าง “เน็ตฟลิกซ์” ได้ตอบโต้วิกฤตที่เกิดขึ้นในยูเครนด้วยการระบุว่า เน็ตฟลิกซ์จะไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับใหม่ของรัสเซีย เพื่อสตรีมมิ่งช่องของรัฐบาลกลางรัสเซีย 20 ช่อง

เดิมเน็ตฟลิกซ์จะต้องสตรีมมิ่งช่องเหล่านี้ภายใต้ข้อบังคับใหม่ในรัสเซีย ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมเป็นต้นไป แต่โฆษกเน็ตฟลิกซ์เผยเมื่อช่วงเย็นวันจันทร์ว่า “จากสถานการณ์ปัจจุบัน เรายังไม่มีแผนเพิ่มช่องเหล่านี้เข้ามาในบริการของเรา”