สหภาพยุโรปคว่ำบาตรรัสเซียด้วยมาตรการที่รุนแรงที่สุด หลังบุก#ยูเครน

Olivier Hoslet/Pool via REUTERS

สหภาพยุโรปประกาศคว่ำบาตรรัสเซีย โดยใช้มาตรการที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยใช้ อายัดทรัพย์สินชาวรัสเซียในยุโรป-บล็อกธนาคาร 

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 สื่อต่างประเทศรายงานว่า “เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ ลีเยน” ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป กล่าวว่า สหภาพยุโรป (อียู) จะปิดกั้นรัสเซียจากการเข้าถึงเทคโนโลยีที่สำคัญและตลาดอื่น ๆ เพื่อลงโทษกรณีที่รัสเซียบุกยูเครน

ฟอน เดอร์ ลีเยน ประกาศมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่นี้ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากรัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนเต็มรูปแบบ โดยส่งกำลังทหารข้ามพรมแดนจากหลายทิศทาง และทิ้งระเบิดลงทั่วประเทศ

ฟอน เดอร์ ลีเยน กล่าวว่า คนบริสุทธ์กำลังจะตายจากความกลัว และเธอได้ให้คำมั่นกับอียูว่าจะตอบโต้การกระทำของรัสเซียอย่างจริงจัง

“เราจะพุ่งเป้าไปที่ภาคที่เป็นยุทธศาสตร์ของเศรษฐกิจรัสเซีย ด้วยการปิดกั้นการเข้าถึงเทคโนโลยีและตลาดต่าง ๆ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของรัสเซีย” ฟอน เฟอร์ ลีเยน กล่าว พร้อมกับอ่านแถลงการณ์ที่เตรียมมาว่า “เราจะอายัดทรัพย์สินชาวรัสเซียในสหภาพยุโรป และปิดกั้นไม่ให้ธนาคารรัสเซียเข้าถึงตลาดการเงินในยุโรป”

“การคว่ำบาตรเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อผลประโยชน์ของรัสเซีย และความสามารถในการทำสงครามของรัสเซีย”

นักการทูตระบุว่า คณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปได้นำเสนอร่างมาตรการต่อเอกอัครราชทูตจากประเทศในสหภาพยุโรปเมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งร่างดังกล่าวประกอบด้วย การควบคุมการส่งออกด้านเทคโนโลยี ทั้งเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงกับน้ำมันและการขนส่ง นอกจากนี้ยังมีการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อธนาคารต่าง ๆ รวมถึงบุคคลทั่วไป

อย่างไรก็ตาม การคว่ำบาตรครั้งนี้ไม่ได้รวมถึงการขับรัสเซียออกจากสวิฟต์ (SWIFT) ซึ่งเป็นระบบการชำระเงินระหว่างประเทศ โดยประเทศแถบบอลติกได้เรียกร้องให้มีการขับรัสเซียออกจากระบบดังกล่าว แต่เยอรมนีและอิตาลียังแสดงความลังเล

นักการทูตรายหนึ่งกล่าวว่า “ตอนนี้สวิฟต์ยังไม่พร้อม แต่จำเป็นต้องมีการตัดสินใจทางการเมือง การตัดสินใจนี้ขึ้นอยู่กับผู้นำ”

“โจเซป บอร์เรลล์” นักการทูตระดับสูงของอียู ยืนยันว่า “บทลงโทษเหล่านี้ถือเป็นมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เราเคยใช้มา”

ส่วนบทลงโทษใหม่จะมีการนำเสนอในช่วงเย็นวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ในการประชุมสุดยอดฉุกเฉินของผู้นำสหภาพยุโรป

“เราจะบั่นทอนฐานเศรษฐกิจ รวมถึงความสามารถในการพัฒนาให้ทันสมัย” ฟอน เดอ ลีเยน กล่าว

การลงโทษดังกล่าวจะต่อยอดจากบทลงโทษขั้นต้นที่อียูเพิ่งอนุมัติไปเมื่อวันพุธ เพื่อตอบโต้กรณีที่รัสเซียส่งทหารเข้าไปยังภูมิภาคดอนบัสของยูเครน ซึ่ง “ชาร์ล มีแชล” ประธานสภายุโรปได้เรียกผู้นำสหภาพยุโรปเข้าประชุมฉุกเฉินหลังการตัดสินใจของรัสเซียครั้งนั้น

“เป้าหมายของรัสเซียไม่ใช่แค่ดอนบัสหรือยูเครน แต่เป็นความมั่นคงในยุโรป และสันติภาพระหว่างประเทศ” ฟอน เดอ ลีเยน กล่าว

ทั้งนี้ การคว่ำบาตรครั้งล่าสุดของอียูจะมีผลต่อคนวงในที่ใกล้ชิดปูติน ซึ่งรวมถึงรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของเขา นอกจากนี้ยังมุ่งเป้าไปที่ผู้บัญชาการทหาร ผู้มีอิทธิพลต่อสื่อ ผู้บริหารธนาคาร และสถาบันการเงินที่รัฐควบคุม

อย่างไรก็ตาม อียูและพันธมิตรยังไม่ได้ดำเนินการเพื่อสร้างความเสียหายต่อภาคพลังงานที่ทำรายได้ให้รัสเซีย หรือการนำเข้าเทคโนโลยีหลัก เช่น เซมิคอนดักเตอร์ และปูตินเองก็ยังไม่ได้ตกเป็นเป้าในการคว่ำบาตรเช่นกัน


“นี่เป็นเวลาที่มืดมนที่สุดสำหรับยุโรป นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2” บอร์เรลล์กล่าว