ทันทีที่รัสเซียเริ่มการโจมตียูเครน ทั่วโลกได้ออกมาแสดงปฏิกิริยา พร้อมรวมตัวกันเพื่อหาทางตอบโต้
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 อัลจาซีราห์รายงานว่า หลังประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้อนุมัติปฏิบัติการพิเศษทางทหารในแคว้นดอนบัส ทางตะวันออกของยูเครน หลายประเทศได้ออกมาประณามการตัดสินใจทันที
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
การอนุมัติของปูตินเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจัดการประชุมฉุกเฉินครั้งที่ 2 ในสัปดาห์นี้ เพื่อเรียกร้องให้รัสเซียลดระดับความรุนแรง และให้กลับเข้าสู่การเจรจาทางการทูต
สื่อรัสเซียรายงานโดยอ้างคำพูดของปูตินที่กล่าวว่า กลุ่มแบ่งแยกดินแดนในลูฮันสก์และโดเนตสก์ได้ขอความช่วยเหลือจากรัสเซีย
ต่อไปนี้คือปฏิกิริยาที่ทั่วโลกมีต่อเรื่องนี้
ยูเครน
“ดีมีโตร คูเลบา” รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน กล่าวว่า ปูตินได้เริ่มการรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ และเมืองที่สงบสุขต่าง ๆ กำลังถูกโจมตี
“นี่คือสงครามการรุกราน ยูเครนจะปกป้องตัวเองและจะชนะ โลกจำเป็นต้องหยุดปูติน ถึงเวลาลงมือแล้ว” เขาทวีตข้อความ
สหรัฐอเมริกา
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ประณามรัสเซียที่โจมตียูเครนโดยปราศจากการยั่วยุและไม่ยุติธรรม พร้อมกับให้คำมั่นว่าประเทศของเขาและพันธมิตรจะทำให้รัสเซียต้องรับผิดชอบ
“ประธานาธิบดีปูตินคิดล่วงหน้าไว้แล้วว่าจะทำสงคราม ซึ่งจะนำมาซึ่งการสูญเสียชีวิต และความทุกข์ทรมานของมนุษย์ รัสเซียเท่านั้นที่จะต้องรับผิดชอบต่อการตายและความเสียหายจากการโจมตีนี้ และสหรัฐฯกับพันธมิตรจะตอบโต้ด้วยวิธีการที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและเด็ดขาด โลกจะทำให้รัสเซียรับผิดชอบ”
เยอรมนี
“โอลาฟ โชลซ์” นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประณามการโจมตียูเครนของรัสเซีย ระบุว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง
สหประชาชาติ
“อันโตนิโอ กูเตอร์เรส” เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ประณามการกระทำของรัสเซีย พร้อมกับขอให้ปูตินเรียกทหารกลับรัสเซีย
“ในนามของมนุษยชาติ อย่างปล่อยให้สงครามเริ่มต้นขึ้นในยุโรป เพราะมันอาจเป็นสงครามที่เลวร้ายที่สุดตั้งแต่ต้นศตวรรษ และผลที่ตามมา ไม่เพียงแต่จะสร้างความเสียหายต่อยูเครน ไม่เพียงแต่เป็นโศกนาฏกรรมสำหรับรัสเซีย แต่ยังรวมถึงผลกระทบที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้
อังกฤษ
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษ กล่าวว่า เขารู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่น่าสยดสยองในยูเครน และเขาได้พูดคุยกับประธานาธิบดียูเครนเพื่อหารือเกี่ยวกับขั้นตอนต่อไป
“ประธานาธิบดีปูตินได้เลือกเส้นทางแห่งการนองเลือดและการทำลายล้าง ด้วยการเริ่มการโจมตียูเครนโดยปราศจากการยั่วยุ” จอห์นสันทวีตข้อความ
สหภาพยุโรป
“เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน” ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อียู) กล่าวว่า สหภาพยุโรปจะถือว่ารัสเซียต้องรับผิดชอบต่อการโจมตียูเครนอย่างไม่ยุติธรรม
“ในช่วงเวลาที่มืดมิดนี้ พวกเราคิดถึงยูเครน ทั้งหญิง ชาย และเด็กที่บริสุทธิ์ เมื่อพวกเขาต้องเผชิญกับการโจมตีที่ไร้เหตุผลและต้องห่วงเอาชีวิตรอด” เธอทวีตข้อความทางทวิตเตอร์
ในแถลงการณ์ของอียูระบุว่า ผู้นำในอียูจะหารือกันเกี่ยวกับมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม ในการประชุมฉุกเฉินที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้
“มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม จะส่งผลร้ายแรงต่อรัสเซีย” ข้อความส่วนหนึ่งจากแถลงการณ์
นาโต
เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต กล่าวว่า รัสเซียได้เลือกเส้นทางการรุกรานต่อประเทศที่มีอำนาจอธิปไตยและเป็นเอกราช
การโจมตีครั้งนี้ได้สร้างความเสี่ยงต่อชีวิตพลเรือนนับไม่ถ้วน” เย็นส์ สต็อลเตินบาร์ก กล่าวในแถลงการณ์ พร้อมอธิบายว่าการกระทำของรัสเซียเป็น “การละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงของยูโร-แอตแลนติก
เอกอัครราชทูตนาโตจะจัดการประชุมฉุกเฉินในเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลายุโรป เพื่อหารือกับการโจมตีครั้งนี้
สาธารณรัฐเช็ก
“แจน ลิปาฟสกี” รัฐมนตรีต่างประเทศเช็ก กล่าวว่า การโจมตียูเครนของรัสเซียเป็นการกระทำที่ป่าเถื่อน และบอกด้วยว่า เช็กจะตอบโต้ร่วมกับพันธมิตร
“การตัดสินใจของรัสเซียในการเปิดฉากโจมตีโดยปราศจากการยั่วยุ เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ” เขาทวีตข้อความ
จีน
สถานเอกอัครราชทูตจีนในยูเครนได้แจ้งพลเมืองของตนในยูเครนให้หลบอยู่แต่ในบ้านเพื่อป้องกันเอาไว้ก่อน หลังจากมีการทิ้งระเบิดในเมืองต่าง ๆ ของยูเครน
โปแลนด์
“มาแตอุช มอราวีแยตสกี” นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ เรียกร้องให้มีการตอบโต้ต่อการรุกรานในทันที โดยเฉพาะการออกมาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงที่สุด
“เราจำเป็นต้องตอบโต้ต่อการรุกรานยูเครนของรัสเซียในทันที” มอราวีแยตสกี ทวีตข้อความ
“ยุโรปและโลกเสรีจะต้องหยุดปูติน สภายุโรปควรอนุมัติการคว่ำบาตรที่รุนแรงที่สุด การสนับสนุนยูเครนต้องเป็นเรื่องจริง”
ฮังการี
“ปีเตอร์ ซิจจาร์โต” รัฐมนตรีต่างประเทศฮังการี กล่าวว่า สงครามคือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
เขาโพสต์ทางเฟซบุ๊กว่า “ภารกิจในตอนนี้คือการรับประกันความปลอดภัยของชาวฮังการี”
“สถานทูตของเราในเคียฟกำลังดำเนินการ และพร้อมให้ความช่วยเหลือชาวฮังการีที่อยู่ในยูเครนตอนนี้”
ออสเตรเลีย
“สก็อตต์ มอร์ริสัน” นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวว่า การคว่ำบาตรรัสเซียจะกลายเป็นกฎหมายในวันศุกร์นี้ แต่จะไม่มีผลจนกว่าจะสิ้นเดือนมีนาคม
เขากล่าวว่า ต้องใช้เวลาในการให้โอกาสธุรกิจต่าง ๆ ที่ดำเนินงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีผลประโยชน์ทางธุรกิจในรัสเซีย รวมถึงในดินแดนที่ได้รับผลกระทบของยูเคน เพื่อให้พวกเขามีการเปลี่ยนแปลงด้านการจัดการ
“เหตุผลที่เราทำสิ่งนี้คือ ต้องมีราคาสำหรับการโจมตี ข่มขู่ การกระทำที่ผิดกฎหมาย และการโจมตีที่ไม่ยุติธรรม ที่รัสเซียกระทำต่อยูเครน เรื่องนี้ไม่สามารถปล่อยผ่านไปโดยปราศจากผลลัพธ์ต่อวลาดีมีร์ ปูติน และระบอบการปกครองของรัสเซีย” มอร์ริสสันกล่าว
ฝรั่งเศส
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครอง ประณามอย่างรุนแรงต่อการโจมตียูเครนของรัสเซีย พร้อมให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อยุติสงครามนี้
“รัสเซียต้องยุติปฏิบัติการทางทหารในทันที” มาครงโพสต์ทางทวิตเตอร์ พร้อมระบุว่า รัสเซียได้ตัดสินใจทำสงครามกับยูเครน
“ฝรั่งเศสยืนหยัดในความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับยูเครน ฝรั่งเศสจะยืนหยัดกับชาวยูเครน และจะทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อยุติสงคราม” เขากล่าว
สเปน
“เปรโดร ซานเชซ” นายกรัฐมนตรีสเปน ประณามปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครน พร้อมกับกล่าวว่า เขากำลังติดต่อกับพันธมิตรจากนาโตเพื่อประสานงานตอบโต้
แคนาดา
“จัสติน ทรูโด” นายกรัฐมนตรีแคนาดา ออกแถลงการณ์ โดยเรียกการโจมตีครั้งนี้ว่า “การโจมตีที่ปราศจากการยั่วยุ” และ “ละเมิดต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน” อย่างชัดเจน
ทรูโดกล่าวด้วยว่า เขาจะพบกับพันธมิตรจากกลุ่ม G7 เพื่อหารือถึงแนวทางการตอบโต้ ซึ่งรวมถึงการคว่ำบาตรเพิ่มเติมจากที่ประกาศไปเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
พร้อมระบุด้วยว่า “การกระทำที่บ้าบิ่นและอันตรายของรัสเซียจะต้องได้รับโทษ”
อิหร่าน
อิหร่านได้เรียกพลเมืองที่อาศัยอยู่ในยูเครนให้เดินทางออกจากยูเครน
สื่ออิหร่านรายงานว่า สถานทูตอิหร่านในยูเครนกำลังทำงานเพื่อขอใบอนุญาตการบินสำหรับเที่ยวบินอพยพ เนื่องจากขณะนี้น่านฟ้ายูเครนกำลังปิดอยู่
มอลโดวา
ประธานาธิบดีไมอา ซานดู กล่าวว่า มอลโดวาจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และพร้อมรับผู้คนนับหมื่นที่เดินทางมาจากยูเครน ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน
“เราจะช่วยคนที่ต้องการความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากเรา” เธอกล่าว
กาตาร์
ในถ้อยแถลงของ “ชีค ทามิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี” ประมุขแห่งกาตาร์ มีการเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจ และแก้ไขข้อขัดแย้งทั้งหมดผ่านการเจรจาเชิงสร้างสรรค์ และวิธีการทางการทูต
แถลงการณ์ระบุด้วยว่า “ชีค ทามิม ยังเรียกร้องให้มีการคุ้มครองพลเรือน และให้ความสำคัญกับสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมเป็นลำดับแรก”
อินเดีย
สถานทูตอินเดียในยูเครนระบุว่า มีการเตรียมอพยพชาวอินเดียออกจากยูเครน หลังจากการปิดน่านฟ้าของยูเครน
ลิทัวเนีย
ประธานาธิบดีกิตานาส เนาซดา กล่าวว่า รัฐสภาลิทัวเนียจะตัดสินใจว่าจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือไม่
ญี่ปุ่น
นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ประณามปฏิบัติการทางทหารของรัสเซีย พร้อมกับกล่าวว่าญี่ปุ่นจะตอบโต้อย่างรวดเร็วร่วมกับสหรัฐฯ และพันธมิตรอื่น ๆ
“การรุกรานของรัสเซียได้สร้างความเสี่ยงต่อหลักการพื้นฐานของระเบียบระหว่างประเทศ ที่ห้ามมิให้มีการใช้กำลังฝ่ายเดียวเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานะที่เป็นอยู่ เราขอประณามรัสเซียอย่างรุนแรง และเราจะตอบโตอย่างรวดเร็วโดยร่วมมือกับสหรัฐฯ และชาติตะวันตกอื่น ๆ
เกาหลีใต้
ประธานาธิบดีมุน แจอิน กล่าวในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติว่า อธิปไตย ดินแดน และความเป็นเอกราชของยูเครน จำเป็นต้องไดรับความเคารพ
เกาหลีใต้จะเข้าร่วมในการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจแบบพหุภาคีต่อรัสเซีย เพื่อตอบโต้ปฏิบัติการทางทหารในยูเครน
