หลังรัสเซียบุกยูเครนครบ 7 วัน จำนวนผู้ลี้ภัยจากยูเครนพุ่งทะลุ 1 ล้านคนแล้ว
วันที่ 3 มีนาคม 2565 เอพีรายงานว่า มีผู้คนมากกว่า 1 ล้านคนที่หลบหนีออกจากยูเครน หลังการรุกรานของรัสเซียซึ่งถือเป็นไหลบ่าของผู้ลี้ภัยที่เกิดขึ้นรวดเร็วที่สุดในศตวรรษนี้ ขณะที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยว่า กองกำลังรัสเซียยังคงโจมตีเมืองคาร์คิฟฟ์ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่สุดเป็นอันดับ 2 ของยูเครน และปิดล้อมเมืองท่ายุทธศาสตร์ 2 แห่งของยูเครน
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 2 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- หวยงวด 2 พ.ค. เช็กสถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งฯ ย้อนหลัง 10 ปี
- บริษัทดังประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
จำนวนผู้ลี้ภัยที่คิดเป็นสัดส่วนกว่า 2% ของประชากรทั้งหมดในยูเครน ถูกบังคับให้ออกนอกประเทศภายในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์
การอพยพครั้งใหญ่นี้เกิดขึ้นในเมืองคาร์คิฟฟ์ ซึ่งประชาชนที่สิ้นหวังต่างพากันหลบหนีจากกระสุนและระเบิดที่ถูกทิ้งลงมา ไปอยู่ตามสถานีรถไฟในเมือง โดยไม่รู้ว่าจะมุ่งหน้าไปที่ไหน
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) เตือนว่า การไหลบ่าของผู้ลี้ภัยในยูเครนยังไม่จบสิ้น พร้อมทั้งคาดการณ์ว่าท้ายที่สุดจะมีผู้คน 4 ล้านคนเดินทางออกจากยูเครน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลง ตามรายงานของอัลจาซีรา
ยูเอ็นเอชซีอาร์รายงานด้วยว่า ในวันแรกที่รัสเซียบุกยูเครน มีผู้คนมากกว่า 82,000 คนที่หนีออกนอกประเทศ หลังจากนั้น จะมีผู้ลี้ภัยจากยูเครนอย่างน้อยวันละ 117,000 คน ก่อนจะพุ่งเกือบ 200,000 คนในวันอังคารที่ผ่านมา
เมื่อเทียบกับซีเรีย ซึ่งสงครามกลางเมืองปะทุขึ้นเมื่อปี 2554 และยังคงเป็นประเทศที่มีผู้ลี้ภัยไหลออกมากที่สุด พบว่า กว่าผู้ลี้ภัยจากซีเรียจะแตะ 1 ล้านคน ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือน
“ซาเบีย มานทู” โฆษกยูเอ็นเอชซีอาร์กล่าวเมื่อวันพุธว่า อัตราการไหลบ่าของผู้ลี้ภัยจากยูเครนดังกล่าว อาจทำให้ยูเครนเป็นแหล่งที่มาของวิกฤตผู้ลี้ภัยที่ใหญ่ที่สุดในศตวรรษนี้
ข้อมูลจากยูเอ็นระบุว่า ผู้ลี้ภัยจากยูเครนมากกว่าครึ่ง เดินทางไปยังโปแลนด์ ขณะที่กว่า 116,000 คน เดินทางไปยังฮังการี อีก 79,000 คนไปมอลโดวา และ 71,200 คนไปสโลวะเกีย