ในบรรดาชาวยูเครนนับล้านที่หลบหนีภัยสงครามออกจากบ้านเกิด ระหว่างที่รัสเซียกำลังโจมตียูเครน เด็กชายอายุเพียง 11 ขวบ ได้เดินทางอย่างกล้าหาญจากไปยังสโลวะเกียเพียงลำพัง
วันที่ 9 มีนาคม 2565 สื่อต่างประเทศรายงานว่า ตามโพสต์ของเฟซบุ๊กสถานทูตสโลวะเกียในอังกฤษ ระบุว่า เด็กชายคนดังกล่าวเดินทางข้ามชายแดนสโลวะเกียพร้อมกับถุงพลาสติก 1 ใบ พร้อมหนังสือเดินทาง โดยมีเบอร์โทรศัพท์เขียนอยู่บนมือของเขา
อาสาสมัครได้มอบอาหาร น้ำ และเครื่องนุ่งห่มให้แก่เขา เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางในเส้นทางต่อไป
“เขาเอาชนะทุกคนด้วยรอยยิ้ม ความกล้าหาญ และความมุ่งมั่นของฮีโร่ตัวจริง” ตัวแทนจากกระทรวงมหาดไทยของสโลวะเกีย ระบุไว้ในเฟซบุ๊ก
การ์เดียนรายงานว่า แม่ส่งเขาขึ้นรถไฟในเมืองซาโปรีเจีย โดยมุ่งหน้าไปยังสโลวะเกียพร้อมกับเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ถูกเขียนไว้บนมือ เพื่อให้เขาสามารถติดต่อกับญาติ ๆ ในกรุงบราติสลาวา เมืองหลวงของสโลวะเกีย
หลังจากรู้ว่าลูกชายเดินทางไปถึงสโลวะเกียอย่างปลอดภัย แม่ของเขาขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือ
“ฉันรู้สึกขอบคุณที่คุณช่วยชีวิตลูกของฉัน ถัดจากเมืองของฉันคือโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่รัสเซียกำลังยิงถล่มอยู่ ฉันไม่สามารถทิ้งแม่ของฉันไปได้ เพราะเธอเคลื่อนไหวไม่ได้” ยูเลีย พลีเซตสกายา แม่ของเด็กชายกล่าว
เด็กชายคนนี้มาจากเมืองซาโปรีเจีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน ซึ่งหากจากชายแดนของสโลวะเกียมากกว่า 600 ไมล์ (ประมาณ 965 กิโลเมตร)
“โรมัน มิกุเลค” รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของยูเครน เรียกเด็กชายคนนี้ว่า “ฮัสซันน้อย” พร้อมทั้งบอกด้วยว่า เด็กชายคนนี้มีความกล้าหาญและใจถึง
“ผมเสียใจจริง ๆ ทั้งกับเขา รวมถึงเด็กคนอื่น ๆ และครอบครัวของพวกเขา ที่ต้องหลบหนีออกจากประเทศของตัวเอง เนื่องจากสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในยูเครน” เขาโพสต์ความรู้สึกผ่านเฟซบุ๊ก
ตามรายงานขององค์การสหประชาชาติ มีผู้ลี้ภัย 2 ล้านคนที่หลบหนีออกจากยูเครนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากกองทัพรัสเซียรุกรานยูเครนตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว ซึ่งนับเป็นการไหลบ่าของผู้อพยพที่รวดเร็วที่สุด นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2