โลกผวาหายนะขาดแคลน ‘ชิป’ ถ้า ‘จีนบุกไต้หวัน’ เลียนแบบรัสเซีย

คอลัมน์ : ชีพจรเศรษฐกิจโลก
ผู้เขียน :นงนุช สิงหเดชะ

พลันที่รัสเซียยกกำลังบุกยูเครน เพื่อยึดครองมาเป็นของตัวเอง โดยอ้างทั้งเหตุผลด้านความมั่นคงและประวัติศาสตร์ว่า ยูเครนเคยเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ทำให้ “ไต้หวัน” ซึ่งอยู่อีกซีกโลกหนึ่งสะดุ้ง เพราะเกรงว่าจีนแผ่นดินใหญ่จะเลียนแบบรัสเซีย เนื่องจากในทางภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ ไต้หวันก็คล้ายกับยูเครน กล่าวคือตั้งอยู่ใกล้กับจีน และจีนก็อ้างมาโดยตลอดว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ซึ่งไต้หวันไม่ยินยอมและยืนกรานความมีอธิปไตย

สหรัฐคือพันธมิตรที่ไต้หวันหวังพึ่งพาและให้การคุ้มครองหากถูกจีนรุกราน แต่การที่สหรัฐต้องพะวงช่วยเหลือยูเครน อาจเป็นช่องให้จีนฉวยโอกาสบุกไต้หวัน ส่งผลให้ไต้หวันยกระดับเฝ้าระวัง พร้อมกับตั้งคณะทำงานศึกษายุทธวิธีของยูเครนในการสู้รบกับรัสเซีย

ความตึงเครียดระหว่างจีนกับไต้หวัน กลายเป็นประเด็นที่ทั่วโลกจับตามองและเกิดความกังวลในขณะนี้ เนื่องจากไต้หวันเป็นรายใหญ่ของโลกในอุตสาหกรรมผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นมากในการผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยีต่าง ๆ ตั้งแต่เครื่องซักผ้า คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน ไปจนถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ล้ำสมัย

“รอย ลี” รองผู้อำนวยการบริหารสถาบันวิจัยเศรษฐกิจชุง-หวาในไต้หวันระบุว่า หากเกิดความขัดแย้งขึ้นในช่องแคบไต้หวัน จะเป็นหายนะสำหรับทั้งโลก ไม่เว้นแม้แต่จีน สหรัฐ และสหภาพยุโรป เราได้เห็นแล้วว่าช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โควิด-19 สร้างความโกลาหลให้กับอุตสาหกรรมรถยนต์มากเพียงใดเพราะขาดแคลนชิป

ลองคิดดูว่าถ้าหากเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ไต้หวันไม่สามารถผลิตชิปได้ และหยุดส่งชิปให้กับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ด้วย จะเลวร้ายแค่ไหน เราอาจต้องรอ 12 เดือน กว่าจะได้รับโทรศัพท์ใหม่ หรือคอมพิวเตอร์แล็ปทอป

เหตุที่โลกกังวลขนาดนั้น ก็เพราะบริษัท “ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริ่ง” (TSMC) เป็นผู้ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ระดับซูเปอร์แอดวานซ์ ซึ่งเป็นชิปที่ผลิตยากเพราะต้องใช้ต้นทุนและความรู้ที่สูงมากในการพัฒนา เป็นบริษัทที่มีสัญญาจ้างมากที่สุดในโลกในการผลิตชิปให้กับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น แอปเปิล ควอลคอมม์ เอ็นวีเดีย

TSMC มีมูลค่าตามราคาตลาด 5 แสนล้านดอลลาร์ เป็นหนึ่งในบริษัทเอเชียที่มีมูลค่าสูงที่สุด ครองส่วนแบ่งตลาดชิประดับซูเปอร์แอดวานซ์ประมาณ 90% จึงได้ฉายาว่า “ภูเขาศักดิ์สิทธิ์” ซึ่งมีความสำคัญต่อไต้หวันมาก ถึงขนาดว่าลูกจ้างบริษัทนี้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องฝึกทางทหารเพื่อเป็นกองกำลังสำรอง

ในภาวะที่โลกกำลังขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์มากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ไต้หวันยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นชนิดขาดไม่ได้ โดยเฉพาะในยามที่สหรัฐและจีนกำลังแข่งขันกันพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัยในอนาคต อย่างเช่น เอไอ และ 5 จี ถ้าหากไต้หวันถูกจีนคอมมิวนิสต์ยึดครอง บริษัทตะวันตกอาจไม่สามารถเข้าถึงหรือว่าจ้างบริษัทผลิตชิปของไต้หวันได้

ปัญหาขาดแคลนชิปซึ่งดำเนินมานาน โดยเฉพาะหลังจากเกิดสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ตั้งแต่ยุค “โดนัลด์ ทรัมป์” ซ้ำด้วยการระบาดของโควิด-19 และด้วยข้อเท็จจริงที่ว่า ไต้หวัน คือ “ศูนย์กลางการผลิตชิป” ครองส่วนแบ่งเกินครึ่งของชิปทั้งโลก

ทำให้ประเทศต่าง ๆ พยายามลดการพึ่งพาไต้หวัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าสัปดาห์ก่อน วุฒิสภาสหรัฐได้ผ่านแผนลงทุนวิจัยและออกแบบเพื่อผลิตชิปมูลค่า 5.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนบริษัทเอสเอ็มไอซี ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของจีน ประกาศจะลงทุนเพิ่มอีก 5 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้ เช่นเดียวกับสหภาพยุโรปที่กำลังเตรียมผลิตชิปรุ่นใหม่

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ไต้หวันเองควรพยายามรักษาข้อได้เปรียบของตนด้วยการเพิ่มการวิจัยและพัฒนาเพื่อรักษาความเป็นผู้นำ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ ไต้หวันประกาศทุ่ม 300 ล้านดอลลาร์ เพื่อฝึกฝนวิศวกรรุ่นใหม่ในการผลิตชิป

ทั้งนี้ หนทางที่ดีที่สุดในการรักษาไต้หวันให้ปลอดภัยก็คือ เพิ่มพลังอำนาจของตัวเองทั้งด้านทหารและเศรษฐกิจ

ปลายปีที่แล้ว ไต้หวันประกาศเพิ่มงบประมาณป้องกันประเทศสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งครอบคลุมแผนป้องกันประเทศระยะ 5 ปี ทำให้จีนข่มขู่ด้วยการส่งฝูงบินรบเข้าน่านฟ้าไต้หวัน และไต้หวันได้ขึ้นบินสกัด ล่าสุดเมื่อต้นเดือนเมษายน 2022 สหรัฐอนุมัติขายอาวุธลอตใหม่ให้ไต้หวัน พร้อมช่วยวางแผนและฝึกอบรมระบบป้องกันภัยทางอากาศแพทริออต ทำให้จีนเดือดดาลมากขึ้น