จีนฝ่าวิกฤตอสังหาฯ รับดาวน์บ้านด้วย “กระเทียม-ข้าวสาลี”

โครงการอสังหาริมทรัพย์จีน กำลังประสบปัญหายอดขายซบเซา

ผลกระทบจากวิกฤต “ฟองสบู่” อสังหาริมทรัพย์ของจีน ที่ถูกปล่อยให้เบ่งบานแบบไร้ขีดจำกัดมานานจนทำให้เกิดภาวะ “โอเวอร์ซัพพลาย” มหาศาลในระบบ กลายเป็นเงื่อนปมท้าทายเศรษฐกิจจีน เมื่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ทรุดตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งราคาและยอดขายที่หดตัวลง

ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ต้องดิ้นรนหาหนทางดึงดูดลูกค้ากลุ่มต่าง ๆ เพื่อที่จะหาทางระบายสต๊อก ด้วยแคมเปญส่งเสริมการขายแปลกใหม่

รอยเตอร์สรายงานว่า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนหลายรายนำเสนอข้อตกลงขายอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ โดยยอมรับผลผลิตทางการเกษตรทดแทน “เงินดาวน์” ไม่ว่าจะเป็น
กระเทียม แตงโม ลูกท้อ ข้าวสาลี หรือข้าวบาร์เลย์ ซึ่งเป็นความพยายามดึงดูดลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรในชนบทใกล้พื้นที่เมืองขนาดเล็กของจีน

โดยปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา “เซ็นทรัล ไชน่า แมเนจเมนต์” บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในมณฑลเหอหนานตอนกลางของจีน เปิดตัวแคมเปญส่งเสริมการขายระยะเวลา 16 วัน โดยผู้ซื้อสามารถชำระเงินดาวน์ซื้อบ้านโดยคิดอัตรา 5 หยวน/กระเทียม 500 กรัม ซึ่งเมื่อสิ้นสุดช่วงแคมเปญ บริษัทได้รับกระเทียมถึง 430,000 กิโลกรัม สำหรับข้อตกลงดาวน์บ้านรวม 30 หลัง

และเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เซ็นทรัล ไชน่ายังได้เริ่มแคมเปญ “เปลี่ยนข้าวสาลีเป็นบ้าน” โดยลูกค้าสามารถใช้ข้าวสาลีในอัตรา 2 หยวน/ข้าวสาลี 500 กรัม แทนเงินดาวน์ได้สูงสุดถึง 160,000 หยวน ในการผ่อนซื้อบ้านที่มีราคาราว 600,000-900,000 หยวน

นอกจากนี้ บีบีซีรายงานว่ายังมีบริษัทอสังหาฯอีกหลายรายที่เปิดตัวแคมเปญคล้ายกัน เช่น อสังหาฯรายหนึ่งในเมืองอู๋ซีทางตะวันออกของจีนรับ “ลูกท้อ”แทนเงินดาวน์ได้สูงสุด 188,888 หยวน

ขณะที่อสังหาฯอีกรายใกล้นครหนานจิง เปิดรับ “แตงโม” สำหรับดาวน์อพาร์ตเมนต์ได้สูงสุด 5,000 กิโลกรัม/ยูนิต

ทั้งนี้ ราคาผลผลิตทางการเกษตรที่นำมาใช้แทนเงินดาวน์ซื้ออสังหาริมทรัพย์ถือว่าสูงกว่าราคาตลาด อย่างกระเทียมและข้าวสาลีราคาตลาดอยู่ที่ 1.5 หยวน/ 500 กรัมเท่านั้น ซึ่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ระบุว่า เป็นความต้องการช่วยเหลือเกษตรกรและช่วยลดปริมาณผลผลิตคงคลังส่วนเกิน

อย่างไรก็ตาม แคมเปญส่งเสริมการขายโดยใช้ผลผลิตทางการเกษตรแทนเงินดาวน์เช่นนี้ นับเป็นการหลีกเลี่ยงกฎระเบียบของทางการจีน ที่มีการจำกัดโปรโมชั่นส่วนลดที่บริษัทสามารถใช้ในการดึงดูดลูกค้าได้ ตามนโยบายปราบปรามการเก็งกำไรในตลาดอสังหาฯของรัฐบาลจีน

การเปิดตัวแคมเปญเปลี่ยนผลผลิตทางการเกษตรเป็นอสังหาริมทรัพย์นับเป็นความพยายามดิ้นรนของบริษัทต่าง ๆ ท่ามกลางความตกต่ำในตลาดอสังหาริมทรัพย์จีน แม้ปัจจุบัน ทางการจีนจะพยายามกระตุ้นภาคอสังหาฯด้วยมาตรการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการลดดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน ผ่อนคลายข้อกำหนดขอสินเชื่อ รวมถึงให้เงินอุดหนุนพิเศษ แต่ยอดขายบ้านในหลายพื้นที่ยังไม่ฟื้นตัว

ตัวเลขอย่างเป็นทางการในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา แสดงข้อมูลยอดขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยของจีนลดลง 41.7% เมื่อเทียบกับ พ.ค. 2021 ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน 3 ก.ค. 2022 “ชิเหมา กรุ๊ป” ยังกลายเป็นบริษัทอสังหาฯจีนใหญ่ล่าสุด ที่ผิดนัดชำระหนี้ถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สถานการณ์เหล่านี้ล้วนซ้ำเติมให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนไม่สามารถฟื้นตัวได้โดยง่าย ขณะที่นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังคงต้องแสวงหาวิธีการมากมายในการกระตุ้นยอดขายและรักษาสภาพคล่อง