
บริษัท ผลิต-ไฟฟ้าลาว (มหาชน) หรือ EDL-Gen เปิดแผนสร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้า รับการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน มุ่งเป้าเป็นบริษัทชั้นนำที่ทำหน้าที่สร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น
นายวันแสง วันนะวง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิต-ไฟฟ้าลาว (มหาชน) กล่าวว่า บริษัท ผลิต-ไฟฟ้าลาว (มหาชน) หรือ EDL-Gen เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานน้ำรายใหญ่ที่สุดของ สปป.ลาว เดิมที EDL-Gen เป็นส่วนหนึ่งของการไฟฟ้าลาว หรือ Electricite Du Laos (EDL) มีหน้าที่ดูแลภาคการผลิต ภาคระบบสายส่ง และภาคระบบจำหน่ายให้กับผู้ใช้ภายในประเทศ
ต่อมาเมื่อปี 2553 รัฐบาลลาวมีนโยบายสนับสนุนให้มีการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ ในขณะเดียวกันก็เริ่มสร้างตลาดหลักทรัพย์ลาวขึ้นมา หลังจากนั้นภาคการผลิตของการไฟฟ้าลาวจึงแยกตัวออกมาจัดตั้งเป็นบริษัทมหาชน และเข้าจดทะเบียนภายใต้ชื่อของ EDL-Generation Public Company หรือที่เรียกว่า EDL-Gen
เพื่อขยายและสร้างการเติบโตให้กับเศรษฐกิจในประเทศและภูมิภาคอาเซียน ตลอด 10 กว่าปีมานี้ EDL-Gen ใช้ความสามารถที่เป็นบริษัทมหาชน ระดมทุนผ่านทางตลาดทุน จนขยายกำลังติดตั้งของเขื่อนจากเดิมที่มีเพียง 387 เมกะวัตต์ ปัจจุบัน ณ ปี 2566 EDL-Gen มีโครงการที่เปิดดำเนินการ (COD) แล้ว 28 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 1,790 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการที่ EDL-Gen เป็นเจ้าของและพัฒนาโครงการเอง (HPP) จำนวน 10 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งทั้งหมด 699 เมกะวัตต์ และโครงการที่ร่วมลงทุนกับภาคเอกชนที่เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (IPP) อีกจำนวน 18 โครงการ รวมกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง 1,091 เมกะวัตต์
“หน้าที่ของ EDL-Gen นอกจากพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำเพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้กับ EDL และส่งออกไปยังต่างประเทศ EDL-Gen ยังให้บริการเดินเครื่อง ดูแล และซ่อมบำรุงเขื่อนให้กับผู้ผลิตไฟฟ้าใน สปป.ลาว และในภูมิภาคอาเซียน เนื่องด้วยบุคลากรของ EDL-Gen ส่วนใหญ่ถือว่าเป็นกลุ่มคนแรก ๆ ที่ทำงานเกี่ยวกับเขื่อนใน สปป.ลาว จึงทำให้มีความเชี่ยวชาญและเข้าใจการทำงานของระบบกลไกต่าง ๆ ของเขื่อนไฟฟ้าพลังงานน้ำมากที่สุด”
รายได้ที่เกี่ยวข้องกับการขายไฟฟ้าของ EDL-Gen เติบโตขึ้น 25.5%
นายวันแสงกล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2565 EDL-Gen มีรายได้ที่เกี่ยวข้องกับการขายไฟฟ้าทั้งหมด 5,403 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2564 มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 25.5% โดยแบ่งเป็นโครงการที่เป็นเจ้าของและพัฒนาเอง (HPP) 2,530 ล้านบาท และที่ไปร่วมลงทุนกับภาคเอกชนที่เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (IPP) 2,873 ล้านบาท
ซึ่งปัจจัยที่ช่วยให้รายได้ที่เกี่ยวข้องกับการขายไฟฟ้าของ EDL-Gen เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลัก ๆ มาจากสัดส่วนกำไรของโครงการ IPP ที่โตขึ้นกว่า 50% หรือ 955 ล้านบาท จาก 1,918 ล้านบาท ในปี 2564 เป็น 2,873 ล้านบาท ในปี 2565 โดยโครงการ IPP ที่เติบโตมากที่สุดคือ โรงไฟฟ้าไชยบุรี 75% รองลงมาเป็นโรงไฟฟ้าห้วยเหาะ 68% โรงไฟฟ้าดอนสะโฮง 65% โรงไฟฟ้าเทินหินบูน 11% และโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 อีก 10% ตามลำดับ
ด้านโครงการ HPP ที่ EDL-Gen เป็นเจ้าของอยู่ 10 โครงการนั้น ในปี 2565 ที่ผ่านมามีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าให้ EDL เพิ่มขึ้น 5.9% คิดเป็นเงิน 141 ล้านบาท จาก 2,389 ล้านบาท ในปี 2564 เป็น 2,530 ล้านบาท ในปี 2565 อันเป็นผลมาจากการที่ฝนมาเร็วและตกอย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้มีน้ำสำหรับการผลิตไฟฟ้าในระยะเวลาที่ยาวขึ้น จากปกติ 4 เดือนต่อปี เป็น 6-7 เดือน
“ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งคือ การที่ สปป.ลาว มีน้ำดีในปี 2565 ส่งผลให้ต้นปี 2566 มีน้ำเพียงพอที่จะผลิตไฟฟ้าแม้ยังไม่เข้าฤดูฝน ในส่วนของปริมาณน้ำฝนและมวลน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนในปี 2023 จะไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมา ส่วนเรื่องเวลาว่าฝนจะมาเมื่อไหร่ ตรงนี้ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ถึง 1 ปี แต่จะดูได้นานที่สุดแค่ 1 เดือนเท่านั้น ซึ่ง EDL-Gen ได้มีการป้องกันความเสี่ยงอย่างดีหากเกิดภัยแล้งหรือภัยธรรมชาติขึ้นในอนาคตด้วยการตั้งโครงการโรงไฟฟ้ากระจายอยู่ทั่วประเทศ ”
บริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนอย่างรู้ทัน
เพื่อบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน การดำเนินธุรกิจของ EDL-Gen จึงเน้นวางกลยุทธ์ด้วยการเพิ่มรายได้จากสกุลเงินต่างประเทศ โดยการขยายการส่งออกไฟฟ้าไปยังต่างประเทศมากขึ้น รวมถึงบริษัทยังได้มีการทำแผนศึกษาพัฒนาโครงการร่วมกันกับบริษัทเอกชนในต่างประเทศ ภายใต้กรอบความร่วมมือ (MOU) อีกด้วย ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนที่ทาง สปป.ลาวได้มีการทำสัญญาจำหน่ายไฟฟ้าภายใต้กรอบความร่วมมือ (MOU) กับหลาย ๆ ประเทศในอาเซียน
โดยแบ่งเป็นประเทศไทย 10,500 เมกะวัตต์ กัมพูชา 6,000 เมกะวัตต์ เวียดนาม 5,000 เมกะวัตต์ เมียนมา 600 เมกะวัตต์ มาเลเซีย 300 เมกะวัตต์ และสิงคโปร์ 100 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ ทาง สปป.ลาวยังได้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการขายไฟฟ้าไปยังสิงคโปร์ถึง 4,000 MW โดยผ่านสายส่งกัมพูชาและสายส่งใต้ทะเล และความเป็นไปได้ในการขายไฟฟ้าไปยังประเทศจีนตอนใต้ ภายใต้สัญญาแลกเปลี่ยนพลังงานระหว่างประเทศ
ไฟฟ้าพลังงานน้ำ ต้นทุนต่ำ คล่องตัวสูง เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ (Hydroelectric Power Plant) คือแหล่งผลิตไฟฟ้าที่มีความสำคัญอย่างมาก โดยหากเป็นโรงไฟฟ้าประเภท reservoir หรือแบบมีอ่างกักเก็บน้ำจะต้องสร้างอยู่ในที่ที่มีแหล่งน้ำขนาดใหญ่ และได้รับการประเมินว่าสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานน้ำได้ จึงจะมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ซึ่ง สปป.ลาวเองก็มีลักษณะภูมิประเทศที่เอื้อต่อการพัฒนาเขื่อนอย่างมาก ด้วยภูมิประเทศที่มีภูเขาสูงชัน และมีแม่น้ำใหญ่ไหลผ่าน ทำให้ สปป.ลาวมีศักยภาพในการผลิตพลังงานสูงถึง 30,000 เมกะวัตต์ แต่ปัจจุบันสามารถผลิตได้ 11,000 เมกะวัตต์ เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าในอนาคต สปป.ลาวยังมีโอกาสที่จะพัฒนาไปได้อีกหลายเท่าตัว
กรรมการผู้จัดการบริษัท EDL-Gen ได้บอกถึงจุดเด่นของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ เมื่อเทียบกับโรงไฟฟ้าประเภทอื่น ๆ ในมุมมองของ EDL-Gen ว่า ในด้านเทคนิคเขื่อนจะมีความคล่องตัวและยืดหยุ่นในกระบวนการการผลิตสูง สามารถเดินเครื่องเพื่อผลิตไฟฟ้าได้รวดเร็วมากกว่าโรงไฟฟ้าชนิดอื่น ๆ แถม ‘น้ำ’ ที่เป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการเดินเครื่องของเขื่อนนั้นเป็นพลังงานหมุนเวียนที่มีต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำมาก ในขณะที่เทคโนโลยีในการกักเก็บพลังงานสำหรับโซลาร์เซลล์กลับยังมีต้นทุนสูงอยู่พอสมควร
ไม่เพียงเท่านั้น การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำยังมีความแน่นอน และมีเสถียรภาพมากกว่าพลังงานที่ผลิตจากแสงอาทิตย์ หรือลม ที่การจ่ายไฟฟ้าขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หรือช่วงเวลากลางวัน-กลางคืน จึงทำให้คาดการณ์การผลิตไฟฟ้าได้ยากกว่า
“ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมถือเป็นวิกฤตใหญ่ที่ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญ ดังนั้นช่วงหลายปีมานี้ ‘พลังงานน้ำ’ จึงได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นเชื้อเพลิงจากธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กระบวนการการผลิตไม่สร้างมลภาวะให้กับธรรมชาติ รวมทั้งพลังงานน้ำยังเป็นแหล่งพลังงานที่ยั่งยืน เป็นตัวช่วยที่จะทำให้โลกบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ได้สำเร็จอีกด้วย”
เติบโตอย่างมั่นคง เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของ สปป.ลาว
นายวันแสงกล่าวว่า การเติบโตที่ผ่านมาของ EDL-Gen ค่อนข้างที่จะก้าวกระโดด นับตั้งแต่ปี 2557 ที่ EDL-Gen มีการออกหุ้นกู้ลอตแรกที่ประเทศไทย หรือ ‘การทำธุรกรรมข้ามแดน’ (Cross Border Transaction) หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็มีการมาระดมทุนลักษณะนี้อยู่เรื่อย ๆ เกือบจะทุกปี เพื่อนำเงินไปลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำอื่น ๆ
เพื่อผลักดันให้ สปป.ลาวเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าที่ยั่งยืนและมั่นคงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา EDL-Gen ได้ออกหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2566 มูลค่ารวม 2,489.50 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.50% ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน
“บริษัทยังมีแผนที่จะรีไฟแนนซ์หุ้นกู้เดิมที่กำลังจะครบกำหนด เนื่องจากว่าธุรกิจเขื่อนนั้นใช้เวลาค่อนข้างนาน โดยมีระยะก่อสร้างเฉลี่ยอยู่ที่ 3-4 ปี และใช้ระยะเวลาดำเนินการกว่าจะได้ผลกำไรกลับคืนก็ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6-8 ปี
“ดังนั้น ตัวหุ้นกู้ระยะสั้นที่ทาง EDL-Gen ได้ออกไปเมื่อใกล้จะครบกำหนด ก็มีความจำเป็นที่ต้องรีไฟแนนซ์ด้วยหุ้นกู้ตัวใหม่ จนกว่าโครงการหรือสินทรัพย์นั้นจะคืนทุนและให้ผลกำไรที่คุ้มค่าเพียงพอที่จะนำไปชำระคืนหุ้นกู้”
กว่า 10 ปี EDL-Gen ไม่เพียงแค่ช่วยสร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าให้แก่ประเทศตัวเอง และประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียนเท่านั้น ในฐานะผู้นำการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานน้ำรายใหญ่สุดของ สปป.ลาว EDL-Gen ยังมุ่งสร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจให้มีศักยภาพและเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและสนับสนุนการดำเนินงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดอีกด้วย