มุมมองและไลฟ์สไตล์ นายปรมินทร์ เปรื่องเมธางกูร – Founder & CEO of YUZU GROUP หรือ บริษัท ส้มพาสุข จำกัด 

เริ่มจากความสุข ปั้น YUZU GROUP สำเร็จ กับมุม “ชีวิต-ทำงาน” คือ เรื่องเดียวกัน

บนเส้นทาง 5 ปี จากความหลงใหลในศิลปะการทำอาหารของ ปรมินทร์ เปรื่องเมธางกูร หรือ มิน สู่นักธุรกิจรุ่นใหม่ผู้ปั้นเชนร้านอาหารสุดพรีเมียมสัญชาติไทย ที่ผสมผสานแตกต่างเสิร์ฟเมนูหลากหลาย ทั้งราเมน โอมากาเสะ สุกี้ยากี้ ซูชิ ราเมน ก๋วยเตี๋ยวเรือ หมูทอด ไก่ทอด รวมถึงหม้อไฟ ภายใต้แบรนด์ YUZU GROUP หรือ บริษัท ส้มพาสุข จำกัด 

ได้สนทนากับเส้นทางของรสชาติชีวิตในบทบาท Founder & CEO ที่ผสมผสานได้อย่างกลมกล่อมและลงตัว ปรมินทร์ เล่าย้อนถึงแพสชันแรกเริ่มก่อนมาเป็น YUZU GROUP ที่เห็นอยู่อย่างทุกวันนี้ว่า เป็นการเริ่มต้นจากความสุข ความชื่นชอบรสชาติของอาหาร หลงใหลเสน่ห์การทำอาหาร อีกทั้งตนเองชอบกินชอบชิมความหลากหลายของเมนูอาหาร โดยเฉพาะซุปหรืออาหารเผ็ดร้อน ซึ่งครอบครัวมักพาไปชิมอาหารในร้านอาหารต่าง ๆ มาตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้ค้นพบแพสชันที่อยากทำร้านอาหารในเวอร์ชันของตนเองออกมา 

Advertisment

หลังเรียนจบปริญญาโทจากประเทศสหรัฐอเมริกา จึงตัดสินใจเปิดร้าน Yuzu Ramen สาขาแรกที่สยามสแควร์ จนเติบโตมาเป็น YUZU GROUP อย่างเช่นปัจจุบัน อาหารจำพวกราเมนเป็นสิ่งที่ปรมินทร์ชื่นชอบมาก แต่ในตอนนั้นตนมีความรู้สึกว่าตลาดร้านราเมนในเมืองไทยยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง มักไม่ใช่ตัวเลือกแรก ๆ ของการเลือกร้านอาหาร ทั้งรสชาติค่อนข้างจำเจ แอบหนักไปทางเลี่ยน เลยเกิดเป็นไอเดียที่ผลักดันให้อยากเปิดร้านราเมนที่ถูกปากคนไทย โดยให้รสชาติความเป็นญี่ปุ่น ใช้วัตถุดิบเกรด
พรีเมียม และเป็นราเมนที่ผสมยูซุได้อย่างลงตัว

“พอมาทำร้านอาหารเองทำให้รู้สึกสนุก เอ็นจอย รู้สึกสบายใจ เวลาตื่นนอนแล้วอยากทำทุกวัน ไม่รู้สึกเบื่อ มีความสุขที่ได้ทำ บวกกับความโชคดีที่มีครอบครัวคอยสนับสนุนมาตั้งแต่แรก ทั้งมีเพื่อน และทีมงาน YUZU GROUP ซัพพอร์ตเราอย่างดีเสมอมา ทำให้ธุรกิจเติบโตเรื่อยมา แม้มีบางช่วงบางจังหวะที่เฟลบ้าง แต่ถือเป็นบทเรียนที่ให้ประสบการณ์ที่ดีแก่เราให้มีทุกวันนี้ได้”

ความสุขเหมือนน้ำหอม ยิ่งให้ยิ่งได้กลิ่น

Advertisment

ประสบการณ์บนเส้นทางของผู้นำทัพ YUZU GROUP ตลอด 5 ปี นับตั้งแต่ปักธงลงที่สาขาแรก แน่นอนว่าไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หลายครั้งที่ต้องเจออุปสรรคและความท้าทาย ยิ่งเป็นธุรกิจด้านการบริการ โจทย์ใหม่ ๆ ยิ่งเยอะ โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนทุกธุรกิจต้องเผชิญและผ่านไปให้ได้ แต่สำหรับ ปรมินทร์ เขามองว่าสิ่งที่ท้าทายมากที่สุดไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำธุรกิจหรือการดำเนินชีวิต คือ ความท้าทายด้านการพัฒนาตนเอง

ปรมินทร์ ขยายความเรื่องการพัฒนาตนว่า เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องชนะตนเองในเวอร์ชันเมื่อวานเสมอ และพยายามทุกวัน ว่าวันนี้ตนชนะตนเองในเวอร์ชันเมื่อวานแล้วหรือยัง เพราะเชื่อว่าถ้าสามารถเอาชนะตรงนั้นได้ กิจกรรมอื่น ๆ ในวันนั้นย่อมดีไปด้วย

“ตัวเอง เป็นความท้าทายใหญ่ เราจะสื่อสารสิ่งที่คิดออกมาให้ดีกว่าเดิมขนาดไหน ได้ผลลัพธ์ตามต้องการหรือเปล่า ในทางเดียวกันผลที่วางไว้ชัดเจนพอไหม ถูกที่สุดหรือยัง ต้องเปลี่ยนวิธีหรือไม่ ซึ่งตรงกับสิ่งที่เราพูดเสมอว่า ผลลัพธ์ไม่เกี่ยงวิธี เชื่อว่าถ้าเคลียร์พอ วิธีไม่มีนัยยะสำคัญ มันเปลี่ยนได้เสมอ”

แนวคิดนี้ยังนำไปปรับใช้และขับเคลื่อน YUZU GROUP ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง จนวันนี้เป็นเชนร้านอาหารที่มีถึง 10 แบรนด์อีกด้วย ปรมินทร์ เล่าว่า วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะผู้ประกอบการ บทบาทของผู้บริหาร ต้องตามสถานการณ์และเทรนด์การเปลี่ยนแปลงให้ทัน ทั้งเรื่องการบริการ บริหารคน บริหารธุรกิจ การสื่อสาร การตลาด กล่าวคือ ทุก ๆ องค์ประกอบต้องไปพร้อมกัน ไม่ใช่ส่วนใดส่วนหนึ่ง สิ่งสำคัญกว่านั้น กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการหรือเข้ามากินอาหารในร้านต่างต้องได้รับประสบการณ์และความรู้สึกดี ๆ หลังการกินที่ดีกลับไป กล่าวคือ ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับ YUZU GROUP ไม่ว่าจะเป็นทีมงานเบื้องหน้า-เบื้องหลัง กลุ่มลูกค้า หรือรอบตัวต้องมีความสุข ซึ่งตนเองยึดข้อคิด “เรา” และ “รอบตัว” ที่หมายถึง เรามีความสุข คนรอบตัวเราก็ต้องมีความสุข ขณะเดียวกัน หากคนรอบตัวมีความสุข เราก็จะมีความสุขตาม

“ความสุขเหมือนน้ำหอม เมื่อใดก็ตามที่เราฉีดน้ำหอมแล้วกลิ่นนั้นไปไม่ถึงคนรอบข้าง เราเองก็จะไม่มีความสุข”

YUZU GROUP ตัวแทนของความกล้าลอง

เมื่อเดินทางมาถึงวันนี้ บนเส้นทางของเชนร้านอาหารที่เดินทางมาถึง 5 ปี จึงถามไปว่า ยังสนุกกับสิ่งที่ทำอยู่ไหม? ปรมินทร์ ตอบอย่างไม่ลังเลว่า สนุกและเต็มที่มากกว่าเดิม ตนยังอยากพัฒนาและสร้างสรรค์มิติรสชาติใหม่ ๆ ฉบับตนเอง และไม่เหมือนใคร แล้วทำให้ทุกคนได้ลองกิน ที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น อยากทำให้แบรนด์คนไทยได้ไปอยู่ทุกมุมทั่วโลก เชื่อว่าถ้าก้าวไปถึงจุดนั้น YUZU GROUP จะเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าทำสิ่งใหม่ ๆ 

ปรมินทร์บอกว่า จุดเด่นที่ทำให้ YUZU GROUP แตกต่างจากคนอื่น คือ การโฟกัสสิ่งทำอยู่ในทุกวันให้ออกมาดีที่สุด ทั้งยังกล้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จากวัตถุดิบหากินยาก และเป็นเกรดพรีเมียม ขณะที่การบริการก็เป็นสิ่งที่พยายามนำทุกองค์ประกอบของการให้บริการแล้วนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดออกไป เพราะเชื่อว่าหากสร้างประสบการณ์ที่ดีออกไป จะสร้างความทรงจำ ความรู้สึกต่อแบรนด์กลับมาอย่างแน่นอน

“มองว่าวันนี้การบริการร้านอาหารไม่ใช่แค่อาหารบนจานอีกต่อไปแล้ว จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งของโอกาสพิเศษทุกโมเมนต์ อยากเป็นผู้ให้บริการร้านอาหารที่ตรงใจ เหมือนกับเราอยากได้อยากเจอ เราพยายามมองและใส่ใจทุกรายละเอียดการบริการ ตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบ การปรุงอาหาร ไปจนถึงการบริการให้ออกมาดีที่สุด เพราะเชื่อว่าสิ่งนี้จะเปลี่ยนจากผลิตภัณฑ์ปกติเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในใจได้”

Work-Life Harmony เมื่อเรื่องส่วนตัว-งานไปด้วยกันได้

กล่าวได้ว่า ปรมินทร์ ผู้ปลุกปั้น YUZU GROUP ไม่ใช่แค่ผู้หลงใหลในศิลปะของอาหารเท่านั้น แต่เขาหลงรักอาหารเป็นอีกส่วนหนึ่งของชีวิต และเปลี่ยนแพสชันต่อยอดเป็นการทำธุรกิจได้สำเร็จ เรื่องนี้เขาเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า ตนเป็นคนชอบกินมาก ๆ ในหนึ่งอาทิตย์ช่วงเวลาว่างจากการทำงานต้องกินร้านใหม่ ๆ อย่างน้อย 5 ร้าน ไปดูนวัตกรรม ความสร้างสรรค์ ความแตกต่าง ดูการเปลี่ยนแปลง ไปจนถึงรสชาติใหม่ ๆ เพื่อนำมาปรับหรือเป็นไอเดียต่อไป นอกเหนือจากการทำธุรกิจ และการหาร้านอร่อย ๆ แล้ว เขาบอกอีกด้วยว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่ชอบการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการไปดูวัฒนธรรม-วิถีการใช้ชีวิตของคนญี่ปุ่น ถึงตรงนี้แอบสงสัยว่า 24 ชั่วโมง แบ่งการใช้ชีวิตยังไง ดูแลสุขภาพร่างกายแบบไหน ปรมินทร์ เล่าทันทีว่า ตนมีความเชื่อเรื่องของ Work-Life Harmony คือ ปกติแล้วชีวิตคนเราต้องการหรืออยากทำตามที่ตนเองชอบ ซึ่งตนก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่บังเอิญว่าสิ่งที่ชอบคืองานที่ทำอยู่เลยสามารถผสมผสานระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานได้อย่างลงตัวแง่การดูแลตนเอง เพราะเป็นคนชอบกิน เขาบอกว่าตนเองตื่นนอนตอน 08.30 น. ทุกวัน แบ่งเวลาส่วนหนึ่งเพื่อออกกำลังกายดูแลสุขภาพ ก่อนไปทุ่มเทและเต็มที่กับการทำงาน ส่วนเรื่องการกิน จริงอยู่ว่าเป็นคนชื่นชอบการกินเป็นชีวิตจิตใจ แต่ตนไม่ได้กินจนลืมดูแลเรื่องสุขภาพ ทุกครั้งจะกินอย่างพอประมาณ ดูสัดส่วนของอาหารให้พอเหมาะ ไม่อิ่มหรือแน่นจนเกินไป ที่สำคัญไม่ทำให้เสียสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย

“ทุกครั้งที่เราออกไปเลือกร้านอาหารสักแห่ง เราตั้งเป้าเลยว่า อย่างน้อยต้องได้อะไร ๆ กลับมาบ้าง ยิ่งไปในหลาย ๆ ที่ เชื่อว่าจะได้กลับมาเยอะ ต้องยอมรับว่าตัวเราเป็นคนใจร้อนในบางเรื่อง ซึ่งการออกไปค้นหาในแบบที่เราถนัด ทำให้ได้ประสบการณ์ ได้ข้อมูลกลับมาเยอะ ช่วยทำให้เราตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น ละเอียดมากขึ้น มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ไม่ใช่เฉพาะเรื่องอาหาร แต่รวมถึงเรื่องงานและการใช้ชีวิตได้ดี”

‘ไอดอล’ ของคนรุ่นใหม่

บนเส้นทางความสำเร็จ เด็กหนุ่มที่เพิ่งจบปริญญาโทในวัย 25 ปี ได้รับคำแนะนำจากพี่สาวให้เปิดร้านราเมน บวกกับแพสชันและความกล้าตัดสินใจ จนปั้น YUZU GROUP ซึ่งนับตามช่วงเวลาแล้ว เขาเพิ่งอายุ 30 ปี ถือเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย แน่นอนว่าเขาได้เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของคนอีกหลาย ๆ คน โดยเฉพาะคนเจนใหม่ที่มีความฝันอยากทำธุรกิจของตัวเอง เรื่องนี้ ปรมินทร์ บอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ต้องขอบคุณมาก ๆ และดีใจมากถ้าเราได้เป็นส่วนเล็ก ๆ ที่ทำให้คนคนนั้นกล้าลองที่จะทำ กล้าตัดสินใจเดินตามความฝันของตนเอง

“อยากให้ YUZU GROUP เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่และทุก ๆ คน ที่อยากทำอะไรใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องการใช้ชีวิต เป็นสัญลักษณ์ของความกล้า กล้าลอง กล้าคิด กล้าทำ และไม่กลัวที่จะผิดพลาด สำคัญกว่านั้นคือกำลังใจ ที่ผ่านมาตนได้รับกำลังใจที่ดีมาก ๆ มาโดยตลอด ก็ขอส่งกำลังใจให้คนมีฝันได้เดินตามฝัน ทำธุรกิจของตนเองได้สำเร็จ”

ปรมินทร์ ยังเน้นย้ำอีกด้วยว่า ไม่ว่าเส้นทางชีวิตจะเป็นอย่างไร ไม่ว่าความฝันจะเป็นรูปแบบไหน ขอให้ลุกขึ้นเดินทำตามความฝัน ตนอาจเป็นคนเล็ก ๆ ที่กล้าทำ ไม่คาดหวังว่าจะเป็นไอดอล แต่ถ้าพลังตรงนี้สามารถส่งต่อไปได้ ก็ขอแบ่งปันไป สิ่งสำคัญคือ ต้องไม่ลืมว่าทุกเส้นทางย่อมมีผิดพลาด มีผิดมีถูกแน่นอน เครื่องมือที่จะวัดความสำเร็จได้คือ ล้มแล้วลุกยังไงมากกว่า

“โลกเปลี่ยนไปเยอะแล้ว ต้องมองว่าความสำเร็จของคุณคืออะไร อย่าวัดความสำเร็จด้วยตัวเงิน ควรวัดค่าจากตัวเราเองว่าที่สุดแล้วเราต้องการอะไร อย่าใช้ความสำเร็จของคนอื่นมาเป็นเกณฑ์วัดความสำเร็จหรือเป้าหมายของตนเอง อย่าเอามาตรวัดค่าของคนอื่น อย่าเอาการตีความการใช้ชีวิตของคนอื่นมาใส่ในชีวิตของเรา ชีวิตเรา เราเลือกเอง ตีความชีวิตเราเอง เลือกทางเดินชีวิตเราเอง ทำอะไรก็ได้ที่ทำแล้วรู้สึกดี ไม่เอาเปรียบคนอื่น” ปรมินทร์ ฝากข้อคิดทิ้งท้าย