
เพราะเด็กไทยกว่า 80% เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่ายและรวดเร็ว ทำให้มีโอกาสเผชิญภัยคุกคามทางไซเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นการคลิกเข้าไปดูเว็ปไซต์ที่มีเนื้อหาผิดกฎหมาย การเล่นพนันออนไลน์จนติด โดยเฉพาะการถูกหลอกลวงให้เสียทรัพย์จากมิจฉาชีพ ดังที่เห็นเป็นข่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า มีนักเรียนมัธยม 6 ถูกหลอกให้เสียเงินซื้อไอโฟน ก่อนจะรู้ความจริงในเวลาต่อมาว่าตัวเองตกเป็นเหยื่อจนนำมาสู่เหตุการณ์เศร้าสลด
เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กไทย ‘AIS’ จึงได้ริเริ่มโครงการ ‘อุ่นใจไซเบอร์’ ในปี 2562 ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเป็นเครื่องมือช่วยให้คนไทยโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย พร้อมกับมอบองค์ความรู้เพื่อส่งเสริมและสร้างทักษะให้อยู่กับโลกดิจิทัลได้อย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน
หลังจากพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้กับคุณครูและนักเรียนทั่วประเทศ มีความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร นำหลักสูตรให้คุณครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนในโรงเรียนสังกัด กทม. ทั้ง 437 แห่งได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ ล่าสุด โครงการอุ่นใจไซเบอร์ได้เดินหน้าไปอีกก้าว ในกิจกรรม ‘กทม. x AIS อุ่นใจ CYBER School Tour วัยรุ่นตัว TOP STOP ภัยไซเบอร์’ ภายใต้แนวคิด ‘Gamification โลกแห่งการเรียนรู้ผ่านเกม’ นำร่องที่โรงเรียนนาหลวง, โรงเรียนวัดยายร่ม (วัฒนราษฎร์รังสรรค์), โรงเรียนบ้านบางกะปิ และโรงเรียนประชาอุทิศ (จันทาบอนุสรณ์) เขตดอนเมือง ซึ่งประเดิมจัดกิจกรรมที่นี่เป็นที่แรก เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567
ศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ความเห็นถึงการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีข้อดีมากมาย แต่ในขณะเดียวกันก็มีภัยและความเสี่ยงต่างๆ เช่น ถูกหลอกให้โอนเงิน การหลุดรอดของข้อมูลส่วนบุคคล การบูลลี่ระหว่างกัน แม้แต่การถูกกระตุ้นให้เกิดอารมณ์โกรธก็มาจากโลกออนไลน์เช่นกัน
“การปลูกฝังความรู้และทักษะใช้งานในโลกดิจิทัลอย่างปลอดภัยให้กับเด็กๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญ ขอบคุณเอไอเอสที่ริเริ่มโครงการนี้และทำอย่างต่อเนื่อง ทำให้กรุงเทพมหานครได้ร่วมมือกับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านนี้ ซึ่งไม่ได้มีการสอนเฉพาะทางออนไลน์ แต่ยังได้จัดทำที่โรงเรียน โดยนอกจากโรงเรียนนำร่องแล้ว จะมีการขยายผลไปยังโรงเรียนในสังกัด กทม.ต่อไป ซึ่งสำนักการศึกษาคงต้องขยายผลเรื่องนี้เช่นกัน”
รองผู้ว่าฯ ศานนท์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา กทม.ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการใช้งานดิจิทัลเพื่อให้เด็ก และเยาวชนรู้เท่าทันภัยไซเบอร์ สอดคล้องกับภารกิจด้านการศึกษาในปีนี้ที่ต้องการสร้างทักษะการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ หรือ Critical Thinking พร้อมเน้นย้ำข้อดีของการปลูกฝังความรู้และทักษะในเด็ก เพราะจะเป็น Change Agent นำไปถ่ายทอดต่อให้กับคนในครอบครัว สำหรับเป้าหมายนั้นเริ่มจากให้นักเรียนทุกคนได้รับความรู้ด้านดิจิทัลไซเบอร์ เวลานี้มีห้องเรียนคอมพิวเตอร์แล้ว มีวิชา Saturday School หรือ After School ซึ่งก็นำเนื้อหาหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ให้เด็กๆ เข้าไปเรียนรู้
“กทม. มุ่งหวังให้หลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์บูรณาการเป็นสื่อการเรียนการสอนของครู โดยมีเป้าหมายสำคัญในการสร้างโรงเรียนต้นแบบ ทั้งครู นักเรียน และบุคลากร มีทักษะด้านดิจิทัลแบบครบถ้วน เป็นโรงเรียนอุ่นใจปลอดภัยไซเบอร์ 100% ในปีการศึกษา 2567 พร้อมขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาให้นักเรียนและเยาวชนในพื้นที่ กทม. ใช้งานโลกออนไลน์อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และสร้างสรรค์”
ผู้ใหญ่ใจดีที่เห็นความสำคัญของการสร้างภูมิคุ้มกันให้น้องๆ ปลอดภัยจากโลกออนไลน์ สายชล ทรัพย์มากอุดม หัวหน้าหน่วยธุรกิจประชาสัมพันธ์และงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS อธิบายถึงกิจกรรมวัยรุ่นตัว TOP STOP ภัยไซเบอร์ ด้วยการถ่ายทอดเนื้อหาจากหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ออกมาในรูปแบบ Gamification เพื่อให้เข้าถึงเด็กนักเรียนได้ง่าย ที่นอกจากสนุกสนานแล้วยังสอดแทรกด้วยความรู้ในการใช้งาน และนำสู่การเข้าไปเรียนรู้บนแพลตฟอร์มต่อไป
“จากผลการศึกษาดัชนีชี้วัดสุขภาวะดิจิทัลของกลุ่มเด็กนักเรียนอายุ 10-15 ปี ในพื้นที่กรุงเทพฯ กว่า 82.97% อยู่ในระดับที่ต้องพัฒนา เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อภัยไซเบอร์ และ 75.15% ขาดความรู้ความเข้าใจในการป้องกันตัวเอง AIS จึงหวังให้กิจกรรมนี้จะทำให้ระดับสุขภาวะด้านดิจิทัลของนักเรียนใน กทม. ดียิ่งขึ้น เพื่อนำไปสู่การแก้ไขและลดปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้งานออนไลน์ทุกรูปแบบ และเชื่อว่าจะเป็นการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาภัยไซเบอร์ได้อย่างยั่งยืน”