นาย รอน ดีซานทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย โดยเอาชนะคู่แข่งไปได้มากกว่า 1.5 ล้านคะแนน ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่สอง ทำให้มีการคาดเดากันว่า เขาอาจจะสมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในอีก 2 ปีข้างหน้า
เขาเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งกลางสมัยของสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (8 พ.ย.) ที่ผ่านมา และเป็นที่จับตามองว่า อาจเป็นคู่แข่งคนสำคัญของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในการแข่งขันกันเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2024
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- สหรัฐปรับ เอสซีจี พลาสติกส์ ละเมิดคว่ำบาตรอิหร่าน เรื่องเป็นอย่างไร บริษัทไหนเกี่ยวบ้าง ?
นายดีซานทิส เพิ่งเข้ามาในวงการเมืองได้ไม่นาน เขาสร้างชื่อเสียงหลังจากได้เป็นผู้ว่าการรัฐฟลอริดาในปี 2019
เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะมีการเลือกตั้งกลางสมัยของสหรัฐฯ นายทรัมป์ได้เตือนนายดีซานทิสว่า อย่าลงสมัครประธานาธิบดีในปี 2024 เพราะจะเป็นการทำร้ายพรรครีพับลิกัน
ดูเหมือนว่า การที่นายดีซานทิสมีความเห็นที่ชัดเจนในประเด็นที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์หลายเรื่องอย่างเรื่องเพศ, การสอนประเด็นเชื้อชาติในโรงเรียน และการทำแท้ง จะถูกใจผู้คนในเขตเลือกตั้งของเขา เพราะมีรายงานว่า เขามีฐานเสียงสนับสนุนเพิ่มขึ้นจากทุกกลุ่มประชากร
จากเยลสู่ทำเนียบผู้ว่าการรัฐ
ด้วยวัย 44 ปี นายดีซานทิส ยังถือว่าเป็นหน้าใหม่ในวงการเมืองสหรัฐฯ เขาได้รับเลือกตั้งเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ครั้งแรกในปี 2012 เพียงแค่ 6 ปี ต่อมา ในปี 2018 เขาก็ได้กลายเป็นผู้ว่าการรัฐ
เขาเกิดที่เมืองแจ็กสันวิลล์ รัฐฟลอริดา ในปี 1978 นายดีซานทิสศึกษาด้านประวัติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเยล และศึกษาต่อที่คณะนิติศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด
ในช่วงปีที่สองที่ฮาวาร์ด เขาได้ประจำการเป็นเจ้าหน้าที่ในกองทัพเรือสหรัฐฯ และได้รับมอบหมายให้ทำงานที่ฝ่ายกฎหมาย ซึ่งต้องติดต่อกับผู้ที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่อ่าวกวนตานาโม รวมถึงได้รับมอบหมายให้เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายของสมาชิกระดับสูงของหน่วยซีลของกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่ถูกส่งไปอิรักด้วย
เขาปลดประจำการจากกองทัพในปี 2010 แต่ยังคงเป็นทหารกองหนุนของกองทัพเรือสหรัฐฯต่อไป เขาได้พบกับภรรยาของเขาในช่วงเวลานี้เอง โดยเคซีย์ ภรรยาของเขาเป็นผู้สื่อข่าวโทรทัศน์และผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งซึ่งเป็นหัวหอกในการระดมทุนหลังพายุเฮอร์ริเคนเอียนพัดถล่มรัฐฟลอริดา ในปี 2022
ต่อมาเขาได้เป็นอัยการ และในปี 2012 ก็ได้ลงเลือกตั้งชิงที่นั่งในรัฐสภา จากเขตที่ถือว่ามีความอนุรักษ์นิยมมากที่สุดในรัฐฟลอริดา ในช่วงแรกของการเข้าสู่วงการเมืองในรัฐฟลอริดา เขาได้รณรงค์เรื่อง “รัฐบาลขนาดเล็ก” และตัดลดภาษีต่าง ๆ ลง รวมถึงแสดงการต่อต้านรัฐบาลของนายบารัก โอบามา
“ภารกิจของผมคือการหยุดยั้งบารัก โอบามา” เขาเล่าในการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อเดือน ก.พ. ที่การประชุมในรัฐเทกซัส
ในปี 2018 หลังจากได้ทำงานในสภาระดับประเทศนาน 5 ปี เขาก็ได้ประกาศความตั้งใจที่จะลงเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐ โดยได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้น
เขาได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการรัฐในเดือน ม.ค. 2019
ดีซานทิสในฐานะผู้ว่าการรัฐและการระบาดใหญ่
ความท้าทายสำคัญเรื่องแรกของนายดีซานทิสในฐานะผู้ว่าการรัฐเกิดขึ้นในปี 2020 ท่ามกลางการระบาดใหญ่ของโควิด-19 โดยในเดือน เม.ย. เขาได้สั่งให้มีการล็อกดาวน์ทั่วทั้งรัฐ ตั้งศูนย์ตรวจโควิดหลายร้อยแห่งและสั่งซื้อหน้ากากหลายล้านชิ้น ซึ่งเขากล่าวต่อสาธารณชนว่า “อาจช่วยป้องกันการติดเชื้อได้สำหรับคนอ่อนแอที่สุด”
แต่ภายในเดือนเดียวกันนั้น เขาก็เริ่มยกเลิกมาตรการจำกัดการระบาดของรัฐ และในเดือน ก.ค. แม้ว่าจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้น เขาก็ได้สั่งให้โรงเรียนกลับมาเปิดการเรียนการสอนอีกครั้ง
ซาราห์ ลองเวลล์ นักกลยุทธ์ของพรรครีพับลิกัน กล่าวกับบีบีซีว่า เขาสร้างชื่อมาจากช่วงโควิดจากการเป็นคนที่ต่อต้านนโยบายระดับประเทศในขณะนั้น “มีคนจำนวนมากในรัฐที่ยกย่องจุดยืนของเขา”
ในขณะเดียวกัน ฟ็อกซ์ นิวส์ ก็ได้ถ่ายทอดเขาไปทั่วประเทศ ขณะที่เขาโจมตีประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ หลังสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในทำเนียบขาวเมื่อเดือน ม.ค. 2021
เรื่องต่าง ๆ เหล่านี้เองได้ผลักดันให้เขาไปสู่จุดที่กลายเป็นบุคคลสำคัญของฝ่ายรีพับลิกันที่มีคนจดจำได้มากที่สุดในประเทศ ยกตัวอย่างในเดือน มี.ค. 2022 เขาได้ลงนามในร่างกฎหมายที่นักเคลื่อนไหวขนานนามว่า “อย่าพูดว่าเกย์” ซึ่งได้ห้ามการอภิปรายเรื่องรสนิยมทางเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศในโรงเรียนประถม
นอกจากนี้เขายังได้ตั้ง “สำนักงานความมั่นคงและอาชญากรรมเลือกตั้ง” ในปี 2022 เพื่อตรวจสอบข้อกล่าวหาการทำผิดทางอาญาในการเลือกตั้ง
หลังจากที่ศาลสูงสุดของสหรัฐฯ ได้ยกเลิกสิทธิ์ในการทำแท้งตามรัฐธรรมนูญ นายดีซานทิสประกาศว่า “การสวดอ้อนวอนของคนหลายล้าน” ได้รับการตอบสนองแล้ว นับจากนั้น เขาก็ออกมาพูดเรื่องนี้น้อยลง ซึ่งคนบางส่วนคาดเดาว่า เป็นการคิดคำนวณทางการเมืองเพื่อที่จะถ่วงดุลความกดดันที่มาจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมในพรรครีพับลิกันกับทัศนะของผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งในรัฐฟลอริดา ซึ่งส่วนใหญ่สนับสนุนสิทธิ์ในการทำแท้ง
กฎหมายที่ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาผู้นี้ลงนามห้ามการทำแท้งหลังอายุครรภ์เกิน 15 สัปดาห์ ทำให้เกิดการร้องเรียนทางกฎหมายขึ้น และขณะนี้ศาลสูงสุดของรัฐกำลังพิจารณาอยู่
ไม่นานนี้ บรรดาผู้ต่อต้านเขากล่าวหานายดีซานทิสว่าใช้ประเด็นผู้อพยพให้เป็น “อาวุธ” ในสมรภูมิทางการเมือง หลังจากที่เขาจัดการช่วยให้กลุ่มที่ต้องการขอลี้ภัยกลุ่มหนึ่งซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเวเนซุเอลาเดินทางโดยเครื่องบินจากเท็กซัสมาที่เกาะมาร์ธาวินยาร์ด ที่เป็นชุมชนใหญ่ของพวกเสรีนิยม ในรัฐแมสซาชูเซตส์
นางลองเวลล์ กล่าวว่า การต่อสู้กับสื่อในเรื่องนโยบายที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ ท้ายที่สุดแล้วอาจจะกลายเป็นการผลักดันเขาไปสู่การเป็นดาวรุ่งทางการเมืองได้
“ผู้คนได้ประโยชน์จากคนที่ รอน ดีซานทิส เกลียด แต่หนึ่งในทรัพย์สินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาก็คือคนที่เกลียดเขา” เธอกล่าว “สื่อพบว่า เขาน่ากลัว และเขาเองก็ชอบ นั่นคืออีกเรื่องหนึ่งที่เขาเรียนรู้จากทรัมป์ ถ้าคุณทำให้สื่อไม่พอใจ พวกเขาจะพูดถึงคุณมาก และนั่นจะช่วยทำให้คุณมีเอกลักษณ์และช่วยทำให้มีคนที่ชื่นชอบและภักดีในตัวคุณ”
ทายาททางการเมือง ?
จนถึงขณะนี้ นายดีซานทิสยังไม่ได้ประกาศว่า จะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2024 และระบุว่า เขาให้ความสำคัญกับการแข่งขันในการเลือกตั้งของรัฐฟลอริดาในปี 2022 เท่านั้น
ผลการสำรวจความคิดเห็นบางแห่งเผยให้เห็นว่า คนในรัฐฟลอริดาเห็นว่า นายดีซานทิสมีคะแนนแซงหน้านายทรัมป์ไปแล้วในการแข่งขันกันที่อาจจะเกิดขึ้นในปี 2024 ส่วนความเห็นจากคนทั่วประเทศเห็นว่า พวกเขามีคะแนนสูสีกันมาก
ก่อนหน้าที่จะมีการเลือกตั้งกลางสมัย ก็ได้เริ่มมีการแสดงออกถึงการเป็นคู่แข่งกันบ้างแล้วเมื่อมีรายงานว่า นายทรัมป์หยามนายดีซานทิสด้วยการไม่เชิญเขาเข้าร่วมการหาปราศรัยหาเสียงในรัฐฟลอริดาให้กับวุฒิสมาชิกมาร์โค รูบิโอ การปราศรัยนั้นจัดขึ้นในวันเดียวกับวันที่นายดีซานทิสมีกำหนดเดินสายหาเสียงหลายแห่ง
ส่วนอีกงานหนึ่งในรัฐเพนซิลเวเนีย นายทรัมป์ได้ล้อเลียนชื่อนายดีซานทิสโดยเรียกเขาว่า “รอน ดีแซงทิโมเนียส” (Ron De-Sanctimonious โดยคำว่า sanctimonious มีความหมายว่า มือถือสากปากถือศีล) ทำให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมออกมาประณาม แต่อีกหนึ่งวันต่อมา นายทรัมป์ก็ยอมรับว่า นายดีซานทิส น่าจะคว้าชัย แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงการสนับสนุนนายดีซานทิสอย่างเปิดเผยก็ตาม
นางลองเวลล์ ซึ่งได้จัดการสนทนากลุ่มหลายครั้งกับบรรดาผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งปี 2020 ที่สนับสนุนทรัมป์ กล่าวว่า นายดีซานทิส “ยังห่างไกลจากการเป็นชื่อแรกที่คนพูดถึง” เมื่อมีการถามผู้ร่วมการสนทนากลุ่มว่า พวกเขาอยากเห็นใครมาลงแข่ง ถ้าทรัมป์ไม่ได้ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในครั้งนั้น
ขณะนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า เขาจะสามารถเอาชนะนายทรัมป์ในการเสนอตัวเป็นผู้แทนพรรคลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้หรือไม่
“ฉันไม่มั่นใจว่า ดีซานทิสมีน้ำยา หรือความสามารถในการเอาชนะทรัมป์เมื่อต้องเจอกันแบบตัวต่อตัวได้หรือไม่” เธอกล่าว “มีคนจำนวนมากพูดถึงเขาว่า เป็นอนาคตของพรรครีพับลิกัน แต่มันก็เร็วเกินไปที่จะทำนายเรื่องนั้น เรายังไม่เคยเห็นชายผู้นี้ในเวทีระดับชาติมาก่อน”
…….
ข่าว BBCไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว