ภาษีที่ดิน กทม.สั่งปูพรมรีดภาษี สวนกล้วย มะม่วง ที่รกร้างเก็บเพิ่ม 0.3 %

นายทุนทำสวนกล้วย มะม่วงกลางกรุงเทพฯ สะเทือน กทม.สั่งทุกสำนักงานเขตรีเช็กที่ดินรกร้างว่างเปล่าเกิน 3 ปี เก็บภาษีเพิ่ม 0.3%

วันที่ 15 สิงหาคม 2565 มติชน รายงานว่า กทม.อยู่ระหว่างสำรวจการใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรมในการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำปี 2566 และปีต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และป้องกันเจ้าของที่ดินใช้ที่ดินไม่ตรงกับวัตถุประสงค์

ซึ่งได้กำหนดแนวทางให้พนักงานสำรวจดำเนินการตาม พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2562 ประกาศกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม โดยขอให้สำนักงานถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด เพื่อให้การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ออกหลักเกณฑ์รีเช็กที่ดินรายแปลง

เปิดหลักเกณฑ์ประเมินภาษี “เพิ่มเติม” เฉพาะ กทม.

1.เป็นการใช้ที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้างตามความหมายของคำว่า “ประกอบการเกษตร” มีวัตถุประสงค์เพื่อการบริโภค จำหน่าย หรือใช้งานในฟาร์ม แต่ไม่รวมถึงการทำการประมงและการทอผ้า

2.การใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรมที่มีชนิดพืช ชนิดสัตว์ หรือลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง โดยมีอัตราขั้นต่ำตามบัญชีแนบท้ายประกาศกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย เรื่องหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม เช่น ปลูกกล้วย 200 ต้น/ไร่ มะม่วง 20 ต้น/ไร่

3.พื้นที่ต่อเนื่องที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ต้องไม่เกินกึ่งหนึ่งของพื้นที่ ที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม แต่ไม่รวมถึงกรณีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งพื้นที่ต่อเนื่องดังกล่าวหากทับซ้อนกับการใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย ให้พื้นที่ทับซ้อนเป็นการใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม

4.กรณีมีการใช้ประโยชน์ในที่ดินหลายประเภท ให้วัดขนาดของที่ดินตามการใช้ประโยชน์ เช่น ที่ดินใช้ทำการเกษตร และใช้ประโยชน์อื่น ๆ รวมถึงที่ดินรกร้างว่างเปล่า

5.การใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ต้องเป็นการใช้ประโยชน์ตามควรแก่สภาพ เช่น สัดส่วนพื้นที่ประกอบการเกษตรต้องเหมาะสม เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เพื่อการบริโภค จำหน่าย หรือใช้งานในฟาร์ม

6.ในการสำรวจพนักงานควรถ่ายภาพพื้นที่ที่สำรวจเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันการสำรวจ กรณีเจ้าของที่ดินมีการใช้ประโยชน์หลายประเภท เช่น ใช้ประกอบเกษตรกรรมกับใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย ใช้ประกอบเกษตรกรรมกับใช้ประโยชน์อื่น ใช้ประกอบเกษตรกรรมกับทิ้งไว้ว่างเปล่า หรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ

ปัจจุบันมีเจ้าของที่ดินได้เปลี่ยนการใช้ประโยชน์ให้เข้าเกณฑ์ที่ดินเกษตรกรรมจำนวนมาก เพื่อให้จ่ายภาษีถูกลงในอัตรา 0.01-0.1% ประกอบกับระเบียบของมหาดไทยและคลัง กำหนดเกณฑ์ไว้ไม่ชัดเจน เช่น ปลูกเพื่อบริโภค แต่ตรงกันข้ามกับสภาพพื้นที่จริงที่มีการนำกระถางมาตั้งไว้เฉย ๆ หรือปลูกแล้วก็ปล่อยทิ้งไว้

กทม.จึงสั่งการให้แต่ละเขตตรวจสอบข้อมูลที่ดินให้ชัดเจนว่าเข้าเกณฑ์ตามกฎหมายหรือไม่ หากผิดก็ต้องทำให้ถูกกฎหมาย เช่น จ่ายภาษีตามเกณฑ์ที่ดินอื่น ๆ หรือที่รกร้างว่างเปล่า แต่เจ้าของที่ดินต้องไม่มีเจตนาแจ้งเท็จหรือไม่

ระหว่างนี้ กทม.รอความชัดเจนจากกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยถึงแนวทางการเก็บภาษีที่ดินอื่น ๆ และที่ดินรกร้างว่างเปล่า เนื่องจากในปี 2566 ต้องเพิ่มอัตราอีก 0.3% ตามที่กฎหมายกำหนด หากเจ้าของที่ดินไม่มีการนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ภายในกำหนด จะเพิ่มอัตราจัดเก็บภาษีอีก 0.3% ในทุก 3 ปี แต่อัตราภาษีรวมไม่เกิน 3%

ดังนั้น ที่ดินที่ไม่มีการใช้ประโยชน์ ปล่อยทิ้งไว้ว่างเปล่าตั้งแต่ปี 2563-2565 เดิมคิดอัตราอยู่ที่ 0.3-0.7% ของฐานภาษีที่ประเมินได้ แต่ตั้งแต่ปี 2566 หากที่ดินยังคงไว้ซึ่งสภาพเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง อัตราภาษีจะเปลี่ยนไป เช่น จาก 0.3% เปลี่ยนเป็น 0.6% ของฐานภาษีที่ประเมินได้

ทั้งนี้ อัตราภาษีที่ดินปี 2566 ยังคงอัตราเดิม แต่ในส่วนของภาษีที่ดินอื่น ๆ และรกร้างว่างเปล่า อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะมีการปรับเปลี่ยนอัตราในส่วนที่บวกเพิ่ม 0.3% หรือไม่ รอให้กระทรวงการคลังออกประกาศอัตรา เพื่อให้ท้องถิ่นใช้เป็นแนวทางการเก็บภาษีของปี 2566 ต่อไป