ยุบสภา ประยุทธ์ ส่งสัญญาณรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ไม่ลงนามโครงการใหญ่

ประยุทธ์

คาดยุบสภากุมภาพันธ์ 2566 รัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รับสัญญาณนายกรัฐมนตรี ไม่ลงนาม ไม่เซ็น MOU โครงการใหญ่ แผนลงทุนที่สร้างข้อผูกพันใหม่ 

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่มีทีท่าว่าจะปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่มีธงในการยุบสภา เพราะรอเวลาจังหวะทางการเมืองที่เหมาะ และชิงความได้เปรียบทางการเมือง เรื่องการย้ายพรรคของ ส.ส.ในสภา ขณะที่รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ระดับหัวหน้าทีมส่งสัญญาณไม่ลงนาม ไม่ทำการเซ็นสัญญาหรือข้อผูกพันตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม 2566 เป็นต้นไป

แหล่งข่าวระดับสูงรายหนึ่งส่งสัญญาณเกี่ยวกับไทม์ไลน์การยุบสภาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่ามีความเป็นไปได้ที่นายกรัฐมนตรีจะใช้อำนาจในการยุบสภาประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2566 เพื่อเปิดทางให้ ส.ส.ได้ย้ายพรรค และสังกัดพรรคตามรัฐธรรมนูญ โดยขั้วรัฐบาลไม่เสียเปรียบทางการเมือง

แหล่งข่าวระบุด้วยว่า “แม้ว่าระหว่างนี้ รัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีจะมีคิวเดินทางไปต่างประเทศ รวมทั้งกำหนดการโรดโชว์เศรษฐกิจ การลงทุนที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคม 2566 อีกหลายทริป แต่ได้มีการแจ้งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องรับทราบและปฏิบัติว่าจะไม่มีการลงนาม หรือ MOU ระหว่างรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี กับหน่วยงานในต่างประเทศ แม้จะเป็นการชักจูงนักลงทุนก็ตาม”

ทั้งนี้ เพราะรัฐมนตรีทั้งโควตากลางของนายกรัฐมนตรี และโควตาพลังประชารัฐ ได้รับสัญญาณว่าการยุบสภาอาจจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 จึงไม่ต้องการให้มีการผูกพันในการลงนาม หรือสัญญากับนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งการขึ้นเค้าโครงนโยบายใหม่ หรือการลงทุนขนาดใหญ่

นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังคาดการณ์ด้วยว่า วาระของสภาจะเหลือมากที่สุด 3 เดือนเท่านั้น พรรคพลังประชารัฐ โดยนายกรัฐมนตรี จึงเห็นว่าไม่เหมาะที่จะนำเรื่องปรับ ครม.ไปดำเนินการ แม้ว่าจะมีโควตาของพลังประชารัฐว่างอยู่ 2 ตำแหน่ง ส่วนประชาธิปัตย์ว่าง 1 ตำแหน่ง

ทั้งนี้ “พล.อ.ประยุทธ์” ยังไม่ใช้เครื่องมือทางการเมืองในการปรับ ครม. และยังมีเครื่องมือ “ยุบสภา” ซึ่งมีวัน เวลา ที่เป็นไปได้ ดังนี้

1.กรณี พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ครบเทอม 23 มีนาคม 2566 ส.ส.ต้องรีบย้ายพรรค เพราะในรัฐธรรมนูญมาตรา 97 (3) กำหนดว่า ในกรณีที่รัฐบาลอยู่ครบเทอม ให้คนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ต้องสังกัดพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 90 วัน นับถึงวันเลือกตั้ง

โดยห้วงเวลา 90 วัน ที่ปลอดภัยในการย้ายพรรคคือ 23 ธันวาคม 2565 ก่อนรัฐบาลครบเทอม 90 วัน (23 มีนาคม 2566)

กรณีนี้จะเปิดทางให้ ส.ส.ที่ลังเลเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์จะย้ายสังกัด รอเวลาในการตัดสินใจภายใน 23 ธันวาคม 2565

2.กรณี ส.ส.ที่อินไซด์ ทั้งสาย พล.อ.ประยุทธ์ และสาย พล.อ.ประวิตร คาดหมายว่านายกรัฐมนตรีจะเปลี่ยนเกม สับเปลี่ยนกำลังย้ายพรรค จนถึงเดือนมกราคม 2566 แต่คาดว่า พล.อ.ประยุทธ์อยู่ครบเทอม (23 มีนาคม 2566) และจะมีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน การเลือกตั้งจะตรงกับวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 ตามปฏิทินที่ กกต.กำหนด

สูตรนี้สามารถเริ่มนับได้ตั้งแต่ช่วงปลายมกราคม 2566 เพราะถ้านับการสังกัดพรรค 90 วัน จนถึงวันเลือกตั้ง ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ ซึ่งมี 28 วัน มีนาคม มี 31 วัน เมษายน มี 30 วัน รวมกันแล้ว 89 วัน ยังมีเวลาเผื่อเหลือเผื่อขาด ถึงวันที่ 7 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง การตัดสินใจสังกัดพรรคใหม่ของ ส.ส.ในช่วงเดือนมกราคม 2566 ยังมีเพียงพอ

3.กรณี พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจยุบสภา จะทำให้ระยะเวลาการ “สังกัดพรรค” จะลดลงจาก 90 วัน เหลือ 30 วัน นับถึงวันเลือกตั้ง และจะต้องเลือกตั้งภายในไม่น้อยกว่า 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน สูตรนี้ยังมีความเป็นไปได้ระดับ 50/50

ทั้ง 3 กรณี กลายเป็นคู่มือในการทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี รวมทั้ง ส.ส.ที่จะย้ายพรรค ในการเลือกตั้งครั้งหน้า