ทองคำแนวโน้มปรับตัวขึ้น คาดเฟดลดความรุนเเรง ขึ้นดอกเบี้ย

นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก

บล.โกลเบล็ก ประเมินราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น โดยแกว่งตัวบริเวณ 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ คาดเฟดลดความรุนเเรงการปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ SPDR เริ่มมีสัญญาณซื้อมากขึ้น ทั้งนี้หากไม่หลุดแนวรับ 1,730 ดอลลาร์ต่อออนซ์ทยอยเข้าซื้อสะสม

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก ประเมินว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น โดยแกว่งตัวบริเวณ 1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังเจมส์ บูลลาร์ด ประธนาคารกลาง สาขาเซนต์หลุยส์ ได้ให้มุมมองในปี 2023 เฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายมาอยู่ในกรอบที่ 5.0-7.0%

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากประกาศตัวเลขดัชนีภาคการผลิตและดัชนีภาคบริการเดือนพฤศจิกายนต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 47.6 และ 46.1 ตามลำดับ ตลาดจึงคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายของปีในเดือนธันวาคมที่ระดับ 0.5%

ทำให้ ณ สิ้นปีกรอบดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ 4.25-4.50% เมื่อตลาดรับข่าวปัจจัยกดดันไปแล้วส่งผลให้ตลาดผ่อนคลายมากขึ้น สะท้อนผ่านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐอ่อนตัวลงจากระดับ 3.84% เหลือระดับ 3.67% สอดคล้องกับดัชนีดอลลาร์ที่ปรับตัวลงระดับ 105.88 ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าหนุนราคาทองคำปรับตัวขึ้น ขณะที่ SPDR เข้าซื้อเพิ่มขึ้น 0.58 ตัน

ส่วนในสัปดาห์นี้จับตาประกาศตัวเลขภาคแรงงานของสหรัฐและจำนวนผู้ติดเชื้อในจีนที่เพิ่มมากขึ้น หากตัวเลขการจ้างงานและอัตราการว่างงานของสหรัฐอ่อนตัวลงต่อเนื่อง ประกอบกับการล็อกดาวน์ในจีนที่ยืดเยื้อ อาจส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตไปทั่วโลก ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอาจมีแรงซื้อเพิ่มขึ้น

ดังนั้นฝ่ายวิจัยประเมินว่าทองคำมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น เนื่องจากตลาดรับข่าวปัจจัยกดดันไปแล้ว อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มหดตัวลง เป็นแรงหนุนต่อราคาทองคำ ขณะที่ SPDR เริ่มมีสัญญาณซื้อมากขึ้น จึงมองกรอบราคาทองคำ 1,730-1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่หลุดแนวรับดังกล่าวทยอยเข้าซื้อสะสม