“Match Group” บริษัทแม่ของแอปหาคู่ชื่อดัง “Tinder” โกยรายได้ Q2/2566 ทะลุ 800 ล้านดอลลาร์ พร้อมปั้น Tinder ระดับ “ไฮเอนด์” เจาะกลุ่มผู้ใช้งาน “Gen Z”
วันที่ 2 สิงหาคม 2566 รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า “Match Group” บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับแอปพลิเคชันหาคู่ เจ้าของแอปดังอย่าง “ทินเดอร์” (Tinder) คาดการณ์ว่ารายได้ในไตรมาส 3/2566 ไว้ที่ 875-885 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าการประมาณการของนักวิเคราะห์ตลาดที่ 863.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยเหตุผลที่ว่าจำนวนผู้ใช้งานจะเพิ่มขึ้นจากกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นประมาณ 11% ในการซื้อขายระยะยาวด้วย
รายงานผลประกอบไตรมาส 2/2566 ของ Match Group ระบุว่า รายได้ในไตรมาส 2/2566 เป็น 830 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 4% ซึ่งนักวิเคราะห์ตลาดประมาณการไว้ที่ 811.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนรายได้ของ Tinder อยู่ที่ 475 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 6% ถือเป็นแอปที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทมากที่สุด
โดยปัจจัยที่ทำให้บริษัทสามารถสร้างรายได้มากขึ้น คือจำนวนการซื้อพื้นที่โฆษณาบนแอปต่าง ๆ ในพอร์ตฟอลิโอของบริษัทเพิ่มขึ้น รวมถึงการเปิดตัวแผนการสมัครสมาชิกราคาย่อมเยายังช่วยดึงดูดใจผู้ใช้งานให้อยู่บนแพลตฟอร์มในภาวะที่เศรษฐกิจฝืดเคืองและเงินเฟ้อปรับตัวสูง
นอกจากนี้ Match Group ยังเปิดเผยด้วยว่า Tinder กำลังจะเปิดตัวแผนการสมัครสมาชิกระดับ “ไฮเอนด์” ในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง หรือช่วงปลายไตรมาส 3/2566 พร้อมทั้งเตรียมแผนงานทางการตลาดสำหรับฤดูกาลเปิดเทอมที่ใกล้มาถึงด้วย
ซึ่งเหตุผลที่ Tinder หันมาให้ความสนใจกับการรีเฟรชผลิตภัณฑ์สำคัญในช่วงครึ่งปีหลัง คือความสำเร็จของแคมเปญ “It Starts with a Swipe” ที่ช่วยเพิ่มยอดการสมัครสมาชิกของผู้ใช้งานรายใหม่ โดยเฉพาะผู้หญิงอายุน้อย ซึ่งส่งผลดีต่อการสร้างรายได้ของ Tinder และยังเป็นการปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับฐานผู้ใช้งานหลักอย่างกลุ่ม “Gen Z” ด้วย