เดดล็อกตั้งรัฐบาล อนุทิน-ภูมิใจไทย กุญแจไขขั้วทักษิณ-พรรค 2 ลุง

อนุทิน-ชลน่าน

พรรคภูมิใจไทย 71 เสียง กลายเป็นกุญแจสำคัญทางการเมือง ทั้งขั้วทักษิณ-เพื่อไทย และขั้ว 2 ลุง พลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ ล้วนต้องการตัว “อนุทิน” ยื่นไมตรี ร่วมได้ทุกขั้ว ขอแค่ไม่แตะ ม.112

วันที่ 3 สิงหาคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีประธานรัฐสภาเลื่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีออกไปไม่มีกำหนด เพื่อรอฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ประเด็นการเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีซ้ำได้หรือไม่ว่า ประธานรัฐสภาคงอยากให้ทุกอย่างมีความชัดเจนจะได้ไม่ต้องมีปัญหาในภายภาคหน้า จึงสั่งการให้มีการเลื่อนญัตติการเลือกนายกฯ ไปก่อน

รับนัดเพื่อไทย-รัฐบาลขั้วเก่ารักษาการทำงานไม่ได้

สำหรับในวันนี้ พรรคเพื่อไทยได้นัดพรรคภูมิใจไทย เพื่อร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาล นายอนุทินกล่าวเรื่องนี้ว่า “เรามีการนัดพูดคุยกัน แต่ยังไม่ได้ทราบว่าจะคุยแล้วผลลัพธ์ออกมาเป็นอย่างไร แต่เมื่อมีการเลื่อนโหวตนายกฯ ที่นัดเอาไว้บ่ายวันนี้จึงมีการยกเลิกนัดแล้วเลื่อนออกไปก่อน โดยทาง พท.ได้โทรศัพท์ประสานงานเพื่อแจ้งว่าที่นัดกันไว้นั้นขอเลื่อนออกไปก่อน”

เมื่อถามว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าการโหวตเลือกนายกฯ จะเกิดความไม่ราบรื่นอีกหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ทุกคนอยากให้มีความชัดเจน พอมีการยื่นไปที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความในเรื่องต่าง ๆ เพื่อความชัดเจน เขาจึงอยากให้มีการชี้ขาดออกมาเสียก่อนที่จะดำเนินการใด ๆ ต่อไป

ผุ้สื่อข่าวถามว่า ถือว่าดีหรือไม่ เพราะจะได้เปิดโอกาสให้ พท.มีเวลาในการเจรจากับพรรคต่าง ๆ นายอนุทินกล่าวว่าจะถือว่าดีไม่ได้ เพราะรัฐบาลใหม่ควรจะได้รับการจัดตั้งโดยเร็ว เลือกตั้งมาจะครบ 3 เดือนอยู่แล้ว และรัฐบาลรักษาการก็ทำอะไรไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะมีอำนาจเต็ม ดังนั้น จึงอยากให้มีรัฐบาลอย่างเป็นทางการได้เข้ามาทำงานให้เร็วที่สุด

เงื่อนไขภูมิใจไทย ร่วมรัฐบาลเพื่อไทย

  • ข้อจำกัดมีแค่ในแถลงการณ์ของ ภท.
  • เพื่อไทยเสนอ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ
  • ไม่แตะต้อง ไม่แก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112
  • ไม่จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
  • ไม่สามารถทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกล
  • ถ้าเขายังอยู่ในกรอบ ต้องเป็นเรื่องของพรรคใครพรรคมัน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ขณะนี้มีการเผยแพร่คลิปที่นายเศรษฐาเคยระบุตอนหาเสียง ว่าจะแก้ไขมาตรา 112 ออกมาเช่นกัน นายอนุทินกล่าวว่าคงต้องฟังนายเศรษฐา และ พท.ชี้แจง สิ่งนี้ตนไม่อยากให้ผู้สื่อข่าวไปจี้ไปไชอะไรมากนัก เพราะเวลาหาเสียง บางทีการพูดอะไรก็เป็นไปตามสถานการณ์ในห้วงเวลานั้น ๆ

ถามอีกว่า ภท.มีเงื่อนไขหรือไม่ว่า ก่อนจะตกลงเข้าร่วมรัฐบาลกับใคร แคนดิเดตนายกฯของพรรคนั้น ๆ จะต้องมีหลักประกันว่าได้เสียงถึง 375 เสียง นายอนุทินกล่าวว่า ตรงนั้นเป็นหลักประกันไม่ได้ ใครจะมาประกันได้ ทุกคนต้องช่วย ๆ กัน ภท.มีเงื่อนไขหลักตามที่แถลงการณ์ของพรรคไปแล้ว

ท่าทีขั้วพรรค 2 ลุง รวมไทยสร้างชาติ-พลังประชารัฐ

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากการร่วมรัฐบาลกับ พท. โดยไม่มีพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทาง ภท.ยอมรับได้หรือไม่ นายอนุทินตอบดังนี้

  • ข้อจำกัดมีแค่ในแถลงการณ์ของ ภท.
  • ไม่แตะต้อง ไม่แก้ไขกฎหมายอาญา ม.112
  • เรื่องการจัดตั้งรัฐบาลเราจะต้องไม่ไปก้าวก่ายพรรคแกนนำ
  • การแพ็กกับขั้วเดิม (รทสช.-พปชร.) ตอนนี้มันเป็นเสียงข้างน้อย
  • เราไม่จัดรัฐบาลเสียงข้างน้อย
  • อยากให้รัฐบาลมีความมั่นคงคือ รัฐบาลเสียงข้างมาก
  • ทั้ง 3 พรรค (ภท. รทสช. และ พปชร.) คงไม่ได้แพ็กไปไหน-ไปกัน
  • แต่ละพรรคต้องมีแนวทางของตัวเอง จูงมือกันไปก็คงไม่ได้
  • เพราะไม่เคยเห็นว่าพรรคใหญ่ ๆ มีใครเขาทำกัน (แพ็กกันเพื่อไปอยู่ขั้วใดขั้วหนึ่ง)

เมื่อถามว่า แต่มีเสียงวิจารณ์ว่า ถ้าไม่มี รทสช. และ พปชร. ก็จะฝ่าด่าน สว.ได้ยาก นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นสิทธิของพรรคที่เป็นแกนนำที่จะต้องไปเคลียร์ และไปทำความเข้าใจ ซึ่ง สว.บอกมาเหมือนกันว่า คราวที่แล้วที่ สว.ไม่สามารถโหวตให้ได้เพราะอะไร รวมถึงเหตุผลที่เป็นกังวลของ สว.ได้ถูกแก้ไขแล้ว ดังนั้น ก็ต้องเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

แกนนำขั้วใหม่ ? พรรคอันดับ 3

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะที่ ภท.เป็นพรรคอันดับ 3 หากเกิดปัญหาขึ้นจริง พร้อมหรือไม่ที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายอนุทินกล่าวปนหัวเราะว่า อย่าให้มีปัญหาดีกว่า เราเป็นพรรคอันดับ 3 ถ้าเราสนับสนุนให้มีรัฐบาลโดยเร็วได้โดยไม่ขัดกับแนวทางหรือนโยบายของ ภท. เราก็พร้อมให้การสนับสนุน เพราะประเทศต้องมีรัฐบาล