คลังชง ครม.ไฟเขียว 3 มาตรการ ล้อมคอกแก้หนี้ “นอกระบบ-ในระบบ”

กระทรวงการคลัง

อนุทิน นั่งหัวโต๊ะถกบอร์ดกำกับการแก้หนี้นอกระบบ คลังชง 3 กลไกแก้ปัญหา “เจรจาตามกฎหมาย-ปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำดึงเข้าระบบ-เพิ่มทักษะอาชีพ” เตรียมเสนอมาตรการแก้ไขหนี้ทั้งใน-นอกระบบให้ ครม. พิจารณา ผ่อนปรนภาระหนี้-หนุนเข้าถึงสินเชื่อในระบบ-ป้องกันกลับไปเป็นหนี้นอกระบบ

วันที่ 18 ธันวาคม 2566 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ  โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน

และมีอธิบดีกรมการปกครองและผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เป็นกรรมการและเลขานุการร่วม เพื่อกำกับดูแลการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ และดำเนินการในเชิงรุกในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ

ของประชาชนในทุกมิติอย่างครบวงจรและต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการปราบปรามเจ้าหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง เป็นตัวกลางในการช่วยไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบ และจัดให้มีแหล่งสินเชื่อในระบบให้กับประชาชนเพื่อปลดภาระหนี้นอกระบบและไม่กลับไปเป็นหนี้ซ้ำอีก ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2566 ได้มีการจัดประชุมคณะกรรมการ ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

นายพรชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาหนี้นอกระบบส่งผลให้ลูกหนี้ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยจากการกู้ยืมเงินในอัตราที่สูงกว่ากฎหมายกำหนด และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของลูกหนี้ จากปัญหาการใช้ความรุนแรงในการทวงถามหนี้

Advertisment

จึงทำให้ต้องมีการบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลที่เป็นรูปธรรม และนำไปสู่การเพิ่มทักษะในการประกอบอาชีพและฟื้นฟูรายได้ให้แก่ลูกหนี้นอกระบบ

ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ กระทรวงการคลังได้เสนอกลไกการกำกับดูแลการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้มีความชัดเจน มีประสิทธิภาพ และเป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบให้ครอบคลุมทุกด้าน

ได้แก่ ด้านการเจรจาประนอมหนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย ด้านการหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อชำระหนี้นอกระบบ และด้านการหาอาชีพเสริมเพื่อช่วยฟื้นฟูศักยภาพการหารายได้

ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงการคลังจะเข้ามามีบทบาทในการช่วยเหลือดูแลลูกหนี้นอกระบบ ให้เข้ามาเป็นลูกหนี้ในระบบเพื่อให้หลุดพ้นจากวงจรการเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว ได้แก่

Advertisment

1. การส่งเสริมให้ลูกหนี้สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบ คือ การเพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อในระบบให้กับลูกหนี้ที่เคยเป็นหนี้นอกระบบให้ได้รับสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด ผ่านสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ กระทรวงการคลัง ให้ใบอนุญาตสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559

ทำให้ลูกหนี้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยเป็นธรรม ไม่ถูกเอาเปรียบ สำหรับเจ้าหนี้นอกระบบ หากต้องการจะประกอบธุรกิจการให้สินเชื่อที่ถูกต้องตามกฎหมาย

สามารถยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์กับกระทรวงการคลัง ณ ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ สายด่วน 1359 และยังมีแบงก์รัฐ ช่วยสนับสนุน ด้านสินเชื่อให้แก่ลูกหนี้นอกระบบ ผ่านธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ซึ่งได้ร่วมแก้ไขหนี้นอกระบบมาอย่างต่อเนื่อง คิดดอกเบี้ย ผ่อนปรนและมีระยะเวลาการให้กู้ที่นานเพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพการผ่อนชำระของลูกหนี้

2. การป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นหนี้นอกระบบซ้ำอีก โดยธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ได้จัดให้มีจุดบริการให้คำปรึกษาหนี้นอกระบบที่สาขาทั่วประเทศ เพื่อแก้ไขและป้องกันหนี้นอกระบบอย่างต่อเนื่อง การให้ความรู้ทางการเงิน

กระทรวงการคลังได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดทำแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาทักษะทางการเงิน 2565-2569 เพื่อให้ยกระดับความรู้ทางการเงินให้แก่ประชาชน หวังเป็นเกราะป้องกันไม่ให้กลับไปเป็นหนี้นอกระบบอีก

3. การพัฒนาศักยภาพด้านอาชีพและการหารายได้ของลูกหนี้ ธนาคารออมสินและ ธ.ก.ส. เช่น การฟื้นฟูศักยภาพในการประกอบอาชีพ ภายใต้ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ของ ธ.ก.ส. การพัฒนาอาชีพเดิมโดยการเพิ่มผลผลิต โครงการปั้นงาน ปั้นเงิน และหลักสูตรอบรม Online เพื่อเพิ่มศักยภาพในการประกอบธุรกิจ และยกระดับรายได้ให้กับผู้ประกอบการ

กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอมาตรการแก้ไขหนี้ทั้งในและนอกระบบให้ ครม. พิจารณา พิจารณาเพื่อช่วยเหลือผ่อนปรนภาระหนี้ให้กับลูกหนี้ในระบบให้สอดคล้องกับศักยภาพการหารายได้และผลักดันให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้อย่างเหมาะสม และป้องกันไม่ให้ลูกหนี้ที่มีหนี้ในระบบกลับไปเป็นหนี้นอกระบบได้อีก