เศรษฐา ขอจับเข่าคุยผู้ว่า ธปท.ลดดอกเบี้ย ให้คิดถึงประชาชนที่เดือดร้อน

เศรษฐา ทวีสิน

เศรษฐายังเดินหน้าเรียกร้องให้ผู้ว่าการ ธปท.ลดดอกเบี้ย วอนขอให้กลับไปคิดถึงประชาชนที่เดือดร้อนบ้าง

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 ที่อาคารรัฐสภา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ ยืนยันจะไม่มีการลดอัตราดอกเบี้ยตามที่ทางรัฐบาลได้ประกาศไว้ โดยยืนยันว่าไม่ได้ดันทุรังว่า ได้ยินมาเหมือนกันก็เป็นสิทธิของท่าน แต่หน้าที่ของตนคือการอธิบายให้ฟังถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ความเป็นอิสระและความที่เราไม่ได้เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง แต่ก็เชื่อว่าตนและผู้ว่าการ ธปท. มีความสำคัญ และให้เกียรติซึ่งกันและกัน

“ซึ่งผมก็มีการเรียกร้องไป และผมยืนยันว่าผมมีเหตุและผล ส่วนที่บอกว่า 3 ข้อเศรษฐกิจไทยไปไม่ได้ เรื่องของปิโตรเลียม เรื่องนักท่องเที่ยวจีน เรื่องอะไรต่อมิอะไร และเรื่องจับจ่ายใช้สอยที่งบประมาณยังไม่ลงมารวดเร็ว เรื่องเหล่านี้ผมเชื่อว่ามีการพูดคุยกันอยู่แล้ว ให้จีนนำเข้าสินค้าไทยเพิ่มมากขึ้น ให้นักท่องเที่ยวจีนมาจับจ่ายใช้สอยในประเทศมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องค่าเดินทางแพง ท่านสุริยะก็กำลังทำให้ค่าเดินทางถูกลง ทำให้มีเงินในกระเป๋าเยอะขึ้น สามารถจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากยิ่งขึ้น และในส่วนของงบประมาณเองทุกคนก็ทราบกันดีอยู่ว่า เราใช้นโยบายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งตอนแรกคาดว่าจะใช้ได้เดือนพฤษภาคม แต่มีความเป็นไปได้มากว่าจะสามารถเริ่มใช้ได้ในเดือนเมษายน เรื่องนี้ทุกฝ่ายก็พยายามทำกันอยู่แล้ว”

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ในเรื่องของประชาชน ความเดือดร้อนเป็นเรื่องสำคัญ และที่ท่านผู้ว่าการ ธปท. พูดออกมา 3 ข้อไม่มีเรื่องประชาชนเลย ผมอยากให้ท่านกลับไปคิดว่า วันนี้ประชาชนเดือดร้อน เราช่วยกันได้ ก็คงต้องพูดคุยกันต่อไป

เมื่อถามว่าในส่วนรัฐบาลได้ส่งสัญญาณไปแล้วถึง 3 ครั้ง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าตนก็จะทำครั้งที่สี่ ครั้งที่ห้าต่อไป แล้วดูซิว่าคนอื่นจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย วันนี้เราอยู่ในสังคมที่เจริญและพัฒนาแล้ว มีความเห็นต่างก็พูดคุยกันได้ ไม่ได้มีการทะเลาะเบาะแว้ง หรือมีบรรยากาศที่ไม่ได้ทำงานร่วมกัน แม้วันนี้จะยังไม่ได้รับการขานรับก็ยังต้องคุยต่อไป และพยายามต่อไป ใช้เหตุและผล ตัวเลขการชี้นำของเศรษฐกิจต่าง ๆ ก็บ่งบอกอะไรหลาย ๆ อย่าง

Advertisment

“ตัวเลข 2.5 ยังมีรูมเหลืออีกตั้งเยอะแยะ ถ้าเกิดมีวิกฤตอะไรเกิดขึ้น 2.5 ไม่ได้เป็นอะไรที่จะทำให้ไม่สามารถเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ได้ รองผู้ว่าการ ธปท.ก็เคยมาคุยและอธิบายให้ผมฟังว่า ถ้าอัตราดอกเบี้ยลงไป คนที่มีเงินฝากแบงก์อยู่ ก็จะไปดูในเรื่องของสินทรัพย์เสี่ยง ที่มีความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น เพื่อหา return ที่สูงขึ้น คนที่อยู่คือคนที่อยู่ท็อปด้านบน แต่วันนี้เราพูดถึงคนที่อยู่ฐานรากมากกว่า ก็อยากให้ท่านคำนึงถึงพี่น้องประชาชนในมิติอื่น ๆ ด้วย”

เมื่อถามย้ำว่าผู้ว่าการ ธปท. เคยพูดตรง ๆ ถึงเหตุผลหรือไม่ถึงเห็นต่าง นายเศรษฐากล่าวว่า ก็อธิบายและพูดคุยกันไป เป็นเรื่องที่ตนคุยกับท่าน ซึ่งต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน

เมื่อถามว่า การที่ผู้ว่าการ ธปท.บอกว่าการลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด จะส่งผลต่อภาวะหนี้ครัวเรือน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หนี้ครัวเรือนปัจจุบันก็สูงอยู่แล้ว  และคุณก็ไม่สามารถจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น แล้วดอกเบี้ยค้างจ่ายไปอยู่ที่ไหน ก็ไปอยู่ที่หนี้ครัวเรือนก็ยิ่งสูงขึ้นไปอีก

เมื่อถามย้ำว่าจำเป็นต้องจับเขาคุยแบบจริงจังกับผู้ว่าการ ธปท.อีกครั้งหรือไม่ เนื่องจากนโยบายการเงินและการคลังไม่สอดคล้องกัน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็คงเป็นในลักษณะนั้น ส่วนจะนัดเมื่อไหร่ขอให้ถึงเวลาอันสมควร

Advertisment